สวัสดีครับ รีวิวผมเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้วครับ ตอนนี้ก็มาถึงรีวิวตอนที่ 5 ซึ่งวันนี้ผมได้เดินทางถึงเมืองหลวงพะบางแล้ว ผมจะขอเล่าย้อนไปนิดหน่อยคือ ระหว่างที่ผมเที่ยวอยู่ที่เมืองวังเวียงนั้น ผมได้ตัดสินใจเดินทางมายังเมืองหลวงพะบางโดยรถบัสครับ ผมได้ซื้อตั๋วรถจากบริษัทที่อยู่บริเวณหน้าที่พัก ผมคิดว่าน่าจะสะดวกสำหรับผมในการเดินทางพรุ่งนี้ เพราะไม่ว่าเราจะซื้อตั๋วของเจ้าไหน ก็จะมีรถมารับเราไปส่งยังสถานีขนส่งอยู่ดี เมื่อรถมารับที่หน้าบริษัททัวร์เสร็จก็เดินทางไปยังสถานีขนส่ง รถออกเวลาประมาณ 10:30 น. จากนั้นรถจะจอดให้ทานข้าวเที่ยงประมาณเที่ยง แล้วก็วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างการเดินทางของผมในวันนี้มีฝนตกเป็นช่วงๆตลอดทางครับ แล้วรถก็มาจอดอีกทีตอนประมาณ15:00 น. วิวสวยทีเดียวแต่ในวันนั้นฝนตกหนักผมเลยไม่มีโอกาสได้เก็บบรรยากาศและวิวตรงส่วนนี้มาให้ได้ชมกัน และเมื่อทุกคนขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถก็มุ่งหน้าต่อไปยังเมืองหลวงพะบาง และมาถึงเมืองหลวงพะบางประมาณ 17:00 น.

เมื่อมาถึงเมืองหลวงพะบางผมจับรถรวมกับคนอื่นๆที่นั่งรถจากวังเวียงมาด้วยกันโดยคนขับคิดคนละ 10,000 Kip ใครลงที่ไหนก็ราคาเท่ากันหมด ผมไม่ได้จองที่พักมาก่อนแต่อยากได้ริมโขง เลยให้คนขับมาส่งที่หลวงพะบางริเวอร์ลอดจ์ (Luangprabang River Lodge) พอมาถึงถามราคา พนักงานพาไปดูห้องพัก ห้องสะอาดดีครับ ต่อรองราคาได้ที่ ราคา 1,150,000 ซึ่งเป็นราคาที่ทางที่พักลดให้แล้วเป็นเวลา 3 คืน ตอนแรกก่อนที่ผมจะมาถึงนั้นผมคิดไว้ว่าจะเดินหาที่พักและขอชมก่อนอีกหลายที่แต่พอเอาเข้าจริงความขี้เกียจก็เริ่มขึ้น เอาที่นี่แหละจะได้พักผ่อนซักที เพราะที่นี่ก็ดูสะอาดน่าพัก ผมเลยตกลงพักที่นี่ และรีวิวครั้งนี้ผมจะรีวิวที่พักนี้เลยนะครับ

ค่าที่พักนี้รวมค่าอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ที่พักอยู่ใกล้แม่น้ำแต่มีถนนขั้นอยู่ ที่พักตั้งอยู่ตรงห้วมุมถนนบริเวณแคมโขง ใกล้กับตลาดเช้า และเดินไม่ไกลหากจะไปเที่ยวตลาดมืด ที่นี่ได้ความสงบในช่วงเย็น และได้ดูวิถีชีวิตชาวบ้านริมโขงในตอนเช้า อีกอย่างอยู่ตรงข้ามกับร้านกาแฟประชานิยมขวัญใจหลายๆคนเลยครับมีอีกเรื่องคือตอนผมพักที่นี่ผมได้ใช้บริการซักผ้าและผมเพิ่งรู้ว่าที่นี่เขาไม่มีบริการรีดผ้านะครับ ซักอย่างเดียว แต่ที่นี่ซักมาเสื้อผ้าสะอาดและหอมใช้ได้เลยทีเดียวแถมพับมาเรียบร้อยเสื้อผ้าก็ดูไม่ยับเหมือนกับรีดมาแล้วเลยครับ สำหรับราคานั้นอยู่ที่ 50,000 Kip แต่ผมจำไม่ได้ว่ากี่กิโลกรัม แต่ในวันนั้นผมจำได้ว่าผมซักไปหลายตัวเลยทีเดียวรวมทั้งยีนส์ด้วยสองสามตัว เอาล่ะเขียนมาซะเยอะเลยลองชมรีวิวครั้งนี้ในแบบฉบับของ กัปตันลูกชุบ กันดูนะครับ ^_______^

ป.ล. 1 ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รีวิวและคำแนะนำของเพื่อนๆในห้อง blueplanet ขอบคุณมากๆนะครับ

ป.ล. 2 สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเอ่ยถึงผมบางแห่งผมก็ไม่แน่ใจว่าสะกดเป็นภาษาไทยถูกรึเปล่า นอกจากนี้คำบรรยายต่างๆก็มาจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอ และอ้างอิงจากข้อมูลในหนังสือท่องเที่ยวครับ ถ้ามีผิดพลาดอะไรก็สามารถท้วงติงกันได้นะครับ

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9886485/E9886485.html

ส่วนนี้เป็นตอน1 แวะชมกันได้ครับ >>กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่1: ไปเที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์กันเถอะ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=captainchoob&month=10-2010&date=21&group=12&gblog=1

ตอน2 >>กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่ 2: Hotel Khamvongsa, a hidden gem of Vientiane
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=captainchoob&month=10-2010&date=22&group=12&gblog=2

ตอน3 >>กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่3:เที่ยวเมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำ ที่วังเวียง ประเทศลาว
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=captainchoob&month=10-2010&date=27&group=12&gblog=3

ตอน4 >>กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่ 4: THAVONSOUK Hotel & Resort รีสอร์ทวิวดี ติดริมน้ำซอง เมืองวังเวียง
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=captainchoob&month=11-2010&date=02&group=12&gblog=4

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมซื้อตั๋วไปหลวงพะบางในราคา คนละ 95,000 Kip รถจะมารับที่หน้าบริษัททัวร์ที่ผมซื้อไว้ตอน 9:30 น. แต่ในวันนั้นรถมารับประมาณ 9:40 น. ซึ่งผมคิดว่ารถได้เวียนรับคนในเมืองก่อนแล้วมารับผมเป็นที่สุดท้ายเพราะอยู่ไกลสุด และพาผมมาส่งที่สถานีขนส่ง

พอมาถึงสถานีขนส่งแล้ว ใจผมตอนแรกคิดว่ามาสายแล้วแน่อาจจะไม่ได้จับจองที่นั่งด้านหน้า เพราะว่าในตั๋วไม่ระบุที่นั่งนะครับ มาก่อนนั่งก่อน แต่ปรากฏว่ากลุ่มผมมาเป็นกลุ่มแรก โชคดีอีกแล้วครับเลยเลือกที่นั่งหน้าสุดไว้ก่อน รถที่จะเดินทางไปหลวงพะบางนั้นแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นรถ VIP แต่ก็ไม่เป็นไปตามชื่อเลยครับ ดูเก่ากว่ารถที่เดินทางมาจากเวียงจันทน์เยอะพอสมควร อีกอย่างแอร์ไม่เย็นด้วยครับคันนี้ ผมเลยใช่วิธีเปิดหน้าต่างให้ลมพัดเข้าแทน

อีกเรื่องที่ต้องระวังคือช่วงที่ผมไปจะมีรถบัสไปหลวงพะบางแค่วันละคัน ไม่แน่ใจว่าเป็นเช่นนี้ตลอดรึเปล่า ซึ่งวันนั้นที่นั่งไม่พอ เพราะผู้โดยสารเกินมาสองคน ใครมาช้าก็ต้องนั่งเก้าอี้เสริมซึ่งเป็นเก้าอี้นั่งแบบพลาสติกธรรมดาเหมือนแบบพวกตามร้านอาหาร โดยจะตั้งตรงกลางทางเดินเลยครับ วันนั้นมีผู้โชคดีได้นั่งหนึ่งที่ซึ่งเป็นฝรั่งตัวโตซะด้วย ลำบากน่าดูครับ เขาขึ้นรถมาก็อึ้งเพราะเขามากันเป็นคู่ซะด้วย คนหนึ่งนั่งกับคนขับ อีกคนนั่งเก้าอี้เสริม

ประมาณ 17:00 น. ก็เดินทางถึงสถานีขนส่งเมืองหลวงพะบาง จากนั้นจับรถมาลงที่ หลวงพะบางริเวอร์ลอดจ์ (Luangprabang River Lodge)

บริเวณด้านหน้าของที่พัก

อีกมุมครับ จะเห็นว่าอยู่ใกล้แม่น้ำโขงแต่มีถนนกั้น

ขึ้นไปชั้นบนกัน เนื่องจากวันที่ผมเข้าพักนั้น ห้องชั้นล่างที่เป็นห้องเตียงเดี่ยวมีคนเข้าพักแล้ว ผมจึงเลือกพักที่ชั้นสองแทน

จากที่เล่าด้านบนผมเลือกพักที่นี่ ไปชมภายในห้องกันครับ

เข้ามาจะเป็นส่วนของห้องน้ำ

อีกมุมของห้องน้ำครับ

ถัดมาภายในห้องก็จะมีทีวี กระจก ที่นี่ผมเสียดายอย่างเดียวสำหรับผมซึ่งเป็นคนที่ชอบทานของเย็น คือไม่มีตู้เย็นครับ

ภายในห้องอีกมุม

มุมเตียงนอน เตียงนอนนอนสบายครับ หัวถึงหมอนแล้วหลับสนิททุกคืน ไม่รู้เพราะเหนื่อยหรือเปล่า ^___^

บรรยากาศมุมเตียงนอนอีกมุม

ภายในห้องกับบรรยากาศมุมเตียงนอนรวมๆครับ

หลังจากจัดการกับตัวเองเรียบร้อย ผมจึงออกไปเดินชมเมืองหลวงพะบางยามค่ำคืนแถวที่พักสักหน่อย

ชมแม่น้ำโขงหน้าที่พัก มีเสน่ห์อย่างที่หลายคนว่าไว้จริงๆ

มองไปอีกด้าน ฝั่งซ้ายมือมุมถนนคือร้านกาแฟประชานิยม เช้าๆคงคึกคักกว่านี้ครับ

หันกลับไปมองที่พักตัวเองอีกรอบ ท้องฟ้ามืดลงทุกที

ป้ายด้านหน้าของที่พัก

ผมเดินขึ้นไปเพื่อเดินไปยังเมื่อถึงแยกเลียวขวาจะเป็นไปรษณีย์ ถนนเจ้าฟ้างุ่ม (Chaofa Ngum Road) ทางฝั่งนี้ตอนกลางคืนจะมืดนิดหน่อยครับ แต่เดินไปนิดจะเจอร้านโจมา (Joma) ขวัญใจผมสำหรับทริปหลวงพะบาง หลายคนอาจงงว่าทำไมเป็นขวัญใจผม เพราะตั้งแต่ชมมาที่สาขาเวียงจันทน์ก็เห็นแต่ร้าน ไม่เห็นผมจะถ่ายอะไรมากมายมาให้ชม แต่เอาเป็นว่าขวัญใจผมแล้วกัน ไม่มีเหตุผลจริงๆแค่ชอบร้านนี้น่ะครับ ^_____^

หากตรงแยกนั้นเราเลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนสีสะหว่างวง (Sisavangvong) ซึ่งตอนกลางคืนจะเปลี่ยนมาเป็นที่ตั้งของร้านขายของของชาวบ้าน หรือที่เรียกกันว่าตลาดมืดครับ ตึกสูงๆ สีขาวที่เห็นนั้นเป็นที่พัก ที่มีชื่อว่า Ancient Luang Prabang Hotel

ผมเดินผ่านไปเรื่อยๆ เนื่องจากวันนี้ยังไม่อยากจะซื้ออะไร ขอเดินชมและเดินไปหาอาหารทานก่อนซักมื้อ

เดินมาสักระยะ ผ่านจุดที่ชาวบ้านตั้งของขายกัน ก็จะเป็นร้านอาหาร ร้านทัวร์ต่างๆ ร้านขายของเยอะแยะทีเดียวครับ แต่ตอนนี้ขอเลือกเข้าไปทานอาหารร้านนี้แล้วกัน ร้านที่มีชื่อว่า Tum Tum Bamboo

บรรยากาศภายในร้าน

ผมเลือกนั่งมุมนี้

จานแรกที่สั่งวันนี้ คือ Water Cress Salad น้ำสลัดเป็นแบบเปรี้ยว อร่อยมากครับ ผมว่าอร่อยกว่าสลัดหลวงพะบางซะอีก ^_____^ ทางร้านบอกว่าเป็นน้ำสลัดที่คิดเองทำเองครับ

จานสุดท้ายสำหรับมื้อนี้ ลาบหมู + ข้าวเหนียวเหมือนเดิม มื้อนี้ผมจ่ายไปรวมน้ำเปล่า 1 ขวดด้วยนะครับ ราคาอยู่ที่ 85,000 Kip

จากนั้นพอท้องอิ่มเดินเที่ยวนิดหน่อยแล้วตัดสินใจกลับที่พักเพื่อพักผ่อนครับ ในรูปจะเป็นทางขึ้นไปยังชั้นสอง

ทางเดินชั้นสอง ห้องผมไม่ใช่ห้องที่เห็นประตูนะครับ จะอยู่ด้านซ้ายมือ

พอกลับเข้ามาปรากฏว่าเปิดแอร์แล้วแอร์มีปัญหานิดหน่อยครับ เลยทำให้ต้องย้ายห้องซึ่งเป็นห้องข้างๆกัน แต่ห้องนี้จะมีหน้าต่างเยอะกว่า มีหน้าต่างตรงหัวนอนด้วยครับ พนักงานก็ขอโทษเป็นการใหญ่

มุมเตียงของห้องใหม่ที่ได้

มุมเตียงนอนอีกมุม เท่ากับห้องนี้จะมีหน้าต่าง 3 บาน ส่วนในเรื่องการจัดวางอย่างอื่นเหมือนห้องเก่าครับ และห้องน้ำก็เป็นแบบเดียวกัน ผมเลยไม่ได้เอาภาพลง ในส่วนของของใช้ภายในห้องจะมีสบู่ก้อนเล็ก แชมพู head & shoulders แบบซอง แปรงสีฟัน + ยาสีฟัน หมวกอาบน้ำ และผ้าเช็ดตัว

นี่คือวิวจากหน้าต่างภายในห้องพักครับ

อีกมุม

บรรยากาศหน้าที่พักช่วงเช้าของอีกวัน ในรีวิวนี้ผมขอรีวิวที่พักคราวนี้ให้จบเลยแล้วกันนะครับ เพราะการอยู่ที่หลวงพะบางในครั้งนี้ผมยังได้มีโอกาสพักที่อื่นอีกหนึ่งที่

เนื่องจากราคาที่พักนี้ได้รวมอาหารเช้าไว้แล้ว พอตอนเช้า พนักงานจะจัดโต๊ะให้ด้านหน้าตรงส่วนนี้ครับ

ทานกันโต๊ะนี้

อาหารของวันแรกและวันที่สองจะเป็นแบบเดียวกัน คือเป็น ABF ให้เลือกไข่เจียวหรือไข่ดาว ครัวซอง และมีขนมปังฝรั่งเศสให้พร้อมเนยและแยม

จานแรก

อีกจาน

และตบท้ายด้วยผลไม้ทุกเช้าครับ จะจัดมาเป็นถ้วยลักษณะนี้ พร้อมน้ำเปล่า และมีกาแฟลาว ชา โอวัลตินให้เลือก

ส่วนวันสุดท้าย ทางพนักงานบอกว่ากลัวผมจะเบื่อเลยทำข้าวต้มหมูให้ทาน รสชาติดีทีเดียว

ทานคู่กับปาท่องโก๋ และมีเครื่องดื่มและผลไม้ให้ทานเหมือนสองวันแรก แต่ผลไม้นั้นจะเปลี่ยนไปทุกวันนะครับไม่ซ้ำกัน

นี้จะเป็นมุมด้านข้าง ชั้นล่างก็จะเป็นห้องพัก ห้องด้านล่างก็ดูสบายดีครับมีประตูบานใหญ่ด้วยแต่อาจขาดความเป็นส่วนตัวไปนิด ส่วนของผมอยู่ชั้นบนริมสุด

ปิดท้ายด้วยภาพตึกของที่พักหลวงพะบางริเวอร์ลอดจ์ (Luangprabang River Lodge) กันครับ แล้วรีวิวครั้งหน้าเราเริ่มไปเที่ยวเมืองหลวงพะบางกับผมกันครับ

สื่งที่ประทับใจ/จุดเด่น

- พนักงานบริการดีครับ ยิ้มแย้มทักทายกันตลอดเวลา
- ห่างจากตลาดมืดไม่มากแต่ช่วงกลางคืนนั้นได้ความสงบและคนไม่วุ่นวายบริเวณรอบที่พัก
- ห้องพักสะอาด ทำความสะอาดและเติมของใช้ในห้องให้ทุกวัน
- ได้วิวแม่น้ำโขง
- ข้าวต้มรสชาติอร่อยครับ รวมไปถึงกาแฟและปาท่องโก๋ด้วย ^______^ ความชอบส่วนตัว


สิ่งที่ไม่ประทับใจ/ควรปรับปรุง/จุดด้อย

- ไม่มีตู้เย็น
- ไฟภายในห้องไม่สว่างมากนัก
- ไม่มีตู้เสื้อผ้า แต่มีราวแขวนผ้าแทน และไม่มีตู้เซฟ (ส่วนใหญ่ที่พักในลาวจะไม่ค่อยมีตู้เซฟอยู่แล้วนอกจากที่พักที่หรูๆ)
- ที่นี่จะมีกฏคือ ห้ามซักผ้าและตากผ้าในห้องครับ

Link โรงแรม //www.luang-prabang-river-lodge.com/

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 15:44:49 น.		8 comments
Counter : 3353 Pageviews.
Share Tweet