กัปตันลูกชุบ

กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่3:เที่ยวเมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำ ที่วังเวียง ประเทศลาว

สวัสดีครับ หลังจากรีวิวนครหลวงเวียงจันทน์สองตอนผ่านมา ตอนที่สามนี้ เราก็จะมาถึงเมืองวังเวียง (Vang Vieng)กัน ผมออกเดินทางมาจากนครหลวงเวียงจันทน์เวลาประมาณ 10:30 น. และมาถึงที่เมืองวังเวียงประมาณ 14:00 น. อยู่ที่นี่เป็นเวลา 3 วัน 2 คืนโดยเข้าพักที่โรงแรมถาวรสุก (THAVONSOUK Hotel & Resort) ซึ่งจะรีวิวให้ได้ชมกันในตอนที่สี่ครับ

แผนการเที่ยวคราวนี้มีดังนี้ คือ วันแรกมาถึงก็บ่ายสองแล้ว เลยตัดสินใจใช้เวลาพักผ่อนและเดินเที่ยวชมบรรยากาศในเมืองวังเวียงยามเย็น แล้วกลับมาพักผ่อนเพื่อรอเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น ซึ่งผมตัดสินใจว่าผมจะไม่ไปเที่ยวกับทัวร์เพราะผมไม่อยากจะเล่นกิจกรรมทางน้ำสักเท่าไหร่ จึงตัดสินใจที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เอง โดยค่าเช่าเป็นดังนี้ คือ ราคาค่าเช่าส่งคืนไม่เกิน 18:00 น. อยู่ที่ 50,000 Kip และค่าน้ำมันอีก 30,000 Kip (ค่าน้ำมันจะออกแนวมัดมือชกอยู่พอสมควรครับ เพราะมอเตอร์ไซค์ที่เช่าจะไม่มีน้ำมันให้ ต้องซื้อเติมเอง ส่วนตอนคืนก็ไม่ต้องเติมเต็มถังมา ดังนั้นก็เลยต้องซื้อน้ำมันจากคนให้เช่าครับ) นอกจากนี้อย่าลืมนะครับว่าการขับขี่รถในประเทศลาวนั้นจะต้องชิดขวาครับ ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านเรานะครับ ห้ามลืมเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย และแผนของผมคือไปเที่ยวถ้ำปูคำ(PouKham Cave) ชมบลูลากูน ( Blue Lagoon) แล้วไปต่อยังถ้ำจัง ต่อจากนั้นก็ไป Organic Farm ซึ่งผิดแผนไปนิดหน่อย แต่จริงๆแล้วหากไปกับทัวร์ก็จะได้ไปเที่ยวชมสถานที่เยอะกว่าที่ผมไปอีกนะครับ ที่เมืองวังเวียงนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอีกเยอะมากทีเดียว ถ้าผมมีเวลามากกว่านี้อีกสักวันก็คงดีครับ

ผมว่าที่วังเวียงนี้เป็นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ ถ้าผมมีเวลาผมก็อยากจะกลับไปเที่ยวชมอีกสักครั้ง แต่คราวนี้ผมมีเวลาน้อยไปนิดแต่ที่นี่ก็ได้ความประทับใจจากผมไปมากมายทีเดียวไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือผู้คนในเมืองและนักท่องเที่ยวที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับผมในเมืองๆนี้ในวันที่ผมท่องเที่ยวและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ พูดมาเยอะแล้วครับยังไงไปชมเมืองวังเวียงในแบบฉบับของกัปตันลูกชุบกันดูนะครับ ^______^

ป.ล. 1 ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รีวิวและคำแนะนำของเพื่อนๆในห้องblueplanet ขอบคุณมากๆนะครับ

ป.ล. 2 สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเอ่ยถึงผมบางแห่งผมก็ไม่แน่ใจว่าสะกดเป็นภาษาไทยถูกรึเปล่า นอกจากนี้คำบรรยายต่างๆก็มาจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอ และอ้างอิงจากข้อมูลในหนังสือท่องเที่ยวครับ ถ้ามีผิดพลาดอะไรก็สามารถท้วงติงกันได้นะครับ

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9848121/E9848121.html

ส่วนนี้เป็นตอน1 แวะชมกันได้ครับ >>กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่1: ไปเที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์กันเถอะ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=captainchoob&month=10-2010&date=21&group=12&gblog=1

ตอน2 >>กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่ 2: Hotel Khamvongsa, a hidden gem of Vientiane
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=captainchoob&month=10-2010&date=22&group=12&gblog=2

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากรีวิวครั้งก่อนผมรอรถมารับจากที่พัก Hotel Khamvongsa ประมาณ 09:30 น.แล้วรถก็แวะรับคนตามทางเพื่อจะนำมาส่งยังบริษัทรถชื่อ Phanthavong Tourist Transport Cooperation ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณวงเวียนน้ำพุ เมื่อมาถึงก็สามารถขึ้นรถทัวร์ได้เลย รถทัวร์เป็นรถ VIP แต่จะไม่สบายเหมือนบ้านเรานะครับ ตั๋วจะไม่ระบุที่นั่งครับใครมาก่อนขึ้นก่อน มีเปิดหนังให้ดูด้วย วันที่ผมไปเจอเปิด Twilight พอหนังจบก็เป็นเพลงลูกทุ่ง ภายในรถมีเพื่อนโดยสารทั้งไทย จีน ฝรั่ง ลาว รวมๆกันไปครับ



รูปตั๋วรถ VIP



ผมโชคดีไปถึงเป็นกรุ๊ปแรกเลยได้นั่งโซนด้านหน้า ภายในรถไม่กว้างมากครับ แต่ก็พอนั่งได้ รถออกประมาณ 10:30 น. ครับ ระหว่างที่นั่งไปก็มีลุ้นบ้างแต่ก็ราบรื่นดีครับ แอร์เย็นตลอดเลยทำให้ไม่มีอะไรต้องห่วง นั่งชมวิวระหว่างทางสบายๆ วิวระหว่างทางก็จะมีบ้านของชาวบ้านสลับกับวิวบ้างเล็กน้อย รถแวะให้เข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นร้านขายของสภาพใช้ได้ครับ แต่มีค่าเข้าอยู่ที่คนละ 8,000 Kip และมาแวะอีกครั้งให้ทานข้าวเที่ยงกัน สรุปว่าตอนที่ผมเดินทางไปวังเวียง (Vang Vieng) นั้นรถแวะ 2 ครั้งและสภาพโอเคทั้ง 2 ที่ครับ



การเดินทางมาเมืองวังเวียงของผมในครั้งนี้ ใช้เวลาตั้งแต่ 10:30 น. และมาถึงที่เมืองวังเวียงประมาณ 14:00 น. ครับ พอมาถึงรถจะมาจอดที่รีสอร์ทที่ชื่อทวีสุก (Thavisouk Hotel) ไม่ได้จอดที่สถานีจอดรถตามที่เคยอ่านจากรีวิวเพื่อนๆครับ เข้าใจว่าพอรถมาส่งคนที่วังเวียงเสร็จก็น่าจะรับคนเพื่อวิ่งกลับเวียงจันทน์เลย เพราะมีนักท่องเที่ยวยืนรอกันอยู่บริเวณนั้นเยอะพอสมควร แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะจะได้ไม่ต้องต่อรถจากสถานีขนส่งเข้ามาที่พัก เพราะจากแผนที่แล้วโรงแรมที่ผมจองไว้อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ เลยตัดสินใจเดิน จริงๆแล้วมีรถสองแถวรอรับด้านในด้วยนะครับ แต่พอดีวันนั้นผมอยากเดินชมวิวลุยๆหน่อยเลยขอเดินเองสักนิด



หลังจากเก็บของเข้าที่พักที่ชื่อ ถาวรสุก (THAVONSOUK Hotel & Resort)ซึ่งในเรื่องของที่พักนั้นผมจะขอรีวิวในรีวิวถัดไปนะครับ ผมเก็บของและพักผ่อนสักพักก็ออกมาเดินชมเมืองวังเวียงครับ ผ่านสถานที่ต่างๆ



เข้าสู่ย่านร้านค้าขายของต่างๆ เมืองนี้แม้นักท่องเที่ยวจะเยอะแต่วันที่ผมไปนั้นก็ยังดูสงบเดินเที่ยวสบาย นอกจากมีร้านขายของแล้วผมว่าที่เมืองนี้มีร้านขายทัวร์เยอะแยะทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมต่างๆที่มีให้ทำ หรือใครจะหาทางไปเที่ยวเส้นทางไหนต่อมีให้เลือกตัดสินใจเยอะแยะทีเดียว



ระหว่างเดินไปก็ชมวิวและหาซื้อแผนที่ ผมซื้อแผนที่ของวังเวียง และของหลวงพะบาง ราคาแผ่นละ 25,000 Kip แผนที่ที่ซื้อเป็นของ Hobo Maps ซึ่งมีรายละเอียดพอสมควร ใครสนใจลองดูจากในเว็ปไซต์ก่อนนะครับ //www.hobomaps.com/ หากชอบก็ช่วยสนับสนุนเค้าหน่อยนะครับมีขายตามร้านขายของ และร้านหนังสือทั่วไป เพราะถือว่าราคาไม่แพงเลย



ต่อจากนั้นผมตัดสินใจเดินชมเมืองไปเรื่อย พอดีระหว่างทางกลับรีสอร์ทเห็นที่นี่เข้าเลยถ่ายไว้สักหน่อย



ผมเดินชมบรรยากาศไปเรื่อย บรรยากาศงามจริงๆครับที่นี่



หลังจากทำธุระเสร็จที่รีสอร์ท ผมตัดสินใจว่ามื้อนี้จะไปทานกันที่นี่ครับ ร้านNazim เป็นร้านอาหารอินเดีย ในวันนี้การเดินทางของผมใช้เดินทั้งหมดครับสามารถเดินเที่ยวได้ไม่เหนื่อยมากครับ



ผมเลือกนั่งด้านนอก บรรยากาศในร้านครับ



ในวันนี้ผมสั่ง จานแรกเป็น ข้าวหมกแพะ และอีกจานเป็นข้าวหมกไก่ รสชาติดีทีเดียวครับ ค่าอาหารมื้อนี้รวมน้ำเปล่าขวดใหญ่แล้วอยู่ที่ราคา 71,000 Kip



จากนั้นพอทานเสร็จผมก็ไปเดินเล่นต่อ ที่นี่แม้ร้านอาหารจะคึกคักและมีอยู่มากมายแต่ก็ไม่ได้ดูแล้ววุ่นวายเลยครับ



เดินชมไปเรื่อยๆ



เช้านี้ผมตื่นเวลา 06:00 น. แต่ที่นี่ผมรู้สึกว่าสว่างมากแล้วครับ ผมทานมื้อเช้าที่รีสอร์ทแล้วก็ออกเดินทางจากที่พักเพื่อไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ประมาณ09:30 น. ราคาค่าเช่าส่งคืนไม่เกิน 18:00 น. อยู่ที่ราคา 50,000 Kip และค่าน้ำมันอีก 30,000 Kip ชึ่งจริงๆแล้วใช้ไม่หมดครับลดไปไม่เกินสองช่องจริงๆ ภาพนี้ระหว่างทางที่จะไป ถ้ำปูคำ (PouKham Cave) ได้เห็นวิวแบบนี้ไปตลอดทางเลยครับ แต่การจะไปถึงยังที่หมายนั้นจะต้องข้ามสะพานที่ชื่อ Namsong Bridge และที่สะพานนั้นผมจ่ายค่าข้ามวันนั้นไป 10,000 Kip รายละเอียดราคาตามนี้นะครับ
- Pedestrian = 4,000 Kip
- Bicycle = 6,000 Kip
- Motorcycle = 10,000 Kip
ราคานี้จะเป็นราคารวมทั้งไปและกลับแล้วครับ



ระหว่างทางไปจะเป็นถนนประมาณนี้นะครับ



วิวระหว่างทาง



เข้ามาถึงจะเป็นลานกว้างทีเดียวครับ ถ้ำนี้เปิดเวลา 08:00 น.- 17:00 น.



เดินเข้ามาอีกนิดก็จะเห็นทีที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำกัน



สะพานข้ามไปครับ



สีของน้ำสมชื่อจริงๆ บลูลากูน ( Blue Lagoon)



มีปลาด้วยครับ



ด้านหน้าก่อนจะเข้าถ้ำ



การไปเที่ยวในถ้ำครั้งนี้ผมใช้ไกด์นำทางครับ ลุงเขาบริการเป็นอย่างดี ค่าบริการตอนนั้นผมไปสองคน จ่ายไป 60,000 Kip เพราะว่าผมไม่รอไปกับเพื่อนกลุ่มอื่น แต่ราคานี้จะเป็นราคากลุ่มสำหรับ 5 คนนะครับ รวมค่าไฟฉายแล้วด้วยครับ ข้อดีของการมีไกด์ก็คือเราจะสามารถเข้าไปได้ลึกกว่าปกติซึ่งตอนที่เข้าไปนั้น บอกได้เลยว่าถ้าไม่มีไกด์ผมคงจะได้เข้าไปถึงแค่ตรงพระพุทธรูปเท่านั้น คงไม่กล้าไปต่อ เพราะข้างในถ้ำค่อนข้างมืด ถ้าหลงนี่คงน่ากลัวทีเดียว



ทางขึ้นเดินไปค่อนข้างเหนื่อยทีเดียว ต้องปีนขึ้นไปครับ



ทางลงถ้ำ



เมื่อเข้ามาภายในถ้ำนิดนึง ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ประดิษฐานอยู่



เพดานถ้ำค่อนข้างสูงโปร่งทีเดียว



อีกมุมภายในถ้ำ ผมไมได้หยุดชมแค่ตรงนี้ แต่ไกด์พาเดินไปด้านในดูเหมือนจะเป็นวงกลม วกไปวนมาและมืดมากๆครับ ผมไม่สามารถเก็บภาพมาให้ชมได้เลย เพราะแค่ปีนป่ายก้อนหินอย่างเดียวก็เกือบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว อย่าว่าแต่จะหยิบกล้องมาถ่ายเลยครับ ^^ เดินชมไปเรื่อยๆไกด์ก็ส่องไฟให้ดูนู่นดูนี่ และที่สำคัญสุดสำหรับการเข้าถ้ำนี้ก็คือ ผมได้เจอปูคำ ปูคำเป็นปูตัวไม่ใหญ่มาก มีสีแดงๆครับ ซึ่งลุงไกด์บอกว่าเป็นปูศักดิ์สิทธิ์ ใครเจอปูตัวนี้ถือว่าโชดดีและมีบุญมากๆ เป็นความเชื่อของคนที่นั่นครับ ก็ถือว่าผมโชดดีไป เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าไปหลังผมไม่เห็นปูตัวนั้นแล้ว



ต่อจากเห็นปูแล้วไกด์ก็นำทางมาออกทางเดิมที่เข้ามานั่งพักเหนื่อยสักพักก็ถึงเวลาลงแล้ว ทางขึ้นทางลงก่อนจะเข้าถ้ำจะเป็นแบบรูปนี้ครับ



ทางขึ้นทางลงใช้ทางเดียวกันครับ แต่พอจะมีที่ให้รอขึ้นและรอลงกันได้



ก่อนกลับถ่ายภาพบลูลากูนพร้อมนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำกันอีกภาพ ดูสนุกสนานกันจริงๆครับ



ก่อนกลับแวะถ่ายวิวระหว่างทางนิดหน่อย



สะพานข้ามก่อนกลับ



อีกมุมครับ



ไม่มีรถผ่านเลยถ่ายมาอีกมุม



จากมุมสะพานมองไปเห็นที่พักด้วย



ชัดๆอีกภาพ



จากนั้นผมตัดสินใจซื้อบาแกตต์ (Baquette) ราคา 20,000 Kip มาทานที่รีสอร์ทและพักผ่อนนิดหน่อย ก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปคือ ถ้ำจัง



การเดินทางมาที่นี่จะต้องเข้ามาทาง Vang Vieng Resort เพราะว่าที่นี่อยู่ในพื้นที่นี้ และจ่ายค่าเข้าคนละ 15,000 Kip ต่อมาตอนข้ามสะพานเสีย 3,000 Kip และสุดท้ายก่อนขึ้นไปชมถ้ำอีกด่าน เสียคนละ 2,000 Kip



จอดรถเสร็จจะเห็นสะพานสีส้มข้ามแม่น้ำดูสวยงามจริงๆ



ข้ามสะพานไปกันครับ



วิวระหว่างข้ามสะพาน



วิวอีกฝั่ง



เดินตามทางนี้ไปเพื่อไปยังถ้ำครับ



ก่อนทางเข้าถ้ำ



ทางขึ้นไปยังถ้ำครับ



อีกมุมเดินไปพักไป



ระหว่างพักหันมาถ่ายวิวหน่อย สวยงามจริงๆ



ดูเดินขึ้นมาสูงทีเดียว



ภายในถ้ำ



ขึ้นมาชมยังจุดชมวิว



อีกมุม



ภายในถ้ำ การเข้ามาในถ้ำนี้ผมไม่ได้ใช้บริการไกด์ครับ ภายในถ้ำเปิดไฟสว่าง สามารถเดินชมกันเองได้สบายๆ



เดินชมไปเรื่อยๆ



ภายในถ้ำเย็นสบายไม่อึดอัด



ถ่ายภาพนี้ออกมาดูน่ากลัวทีเดียว



ทางเดินภายในถ้ำเป็นทางเดินสบายๆครับ



ชมหินงอกหินย้อยกันต่อ



อีกมุม



หลังจากชมภายในถ้ำเสร็จก็กลับลงมาทางเดิมและมาชมส่วนด้านล่างกันต่อ



มีที่เล่นน้ำกันด้วยครับ แอบถ่ายมานิดหน่อย



ลำธาร



เดินกลับกันครับ



บรรยากาศแม่น้ำซองอีกมุม



อยู่บนสะพานถ่ายกลับไปที่ถ้ำอีกสักรูป



สะพานอีกหน่อย



อีกรูปสีสดดีครับ



ภาพสุดท้ายก่อนกลับออกจากที่นี่ จุดหมายต่อไปไปต่อที่ Organic Farm



ไม่ทันครับปิดไปแล้ว Organic Farm เป็นฟาร์มชาใบหม่อน (Mulberry) และผักสดๆปลอดสารพิษ



จากจุดนี้จะเห็นบาร์น้ำอยู่ไกลๆเลยแวะดูสักนิด



ซูมไปอีกนิด นักท่องเที่ยวเยอะแยะดูสนุกกันจริงๆครับ เสียดายผมไม่มีโอกาสได้แวะเข้าไป



อีกมุมกับบาร์น้ำ



อีกสักรูปกับแม่น้ำซอง



ต่อจากนั้นผมก็ตัดสินใจนำรถมอเตอร์ไซค์ไปคืนก่อนเพราะกลัวว่าจะเลยเวลาที่ได้ตกลงเช่าไว้ คืนเสร็จจึงเดินมาทานอาหารที่ร้านนี้ครับ ร้านSanaxay



บรรยากาศภายในร้าน



อาหารที่สั่งมาทานวันนี้ จานแรกปลาเผา



จานสอง ลาบหมู + ข้าวเหนียว



จานสาม ต้มยำไก่ รวมค่าน้ำอัดลมและน้ำแข็งแล้วมื้อนี้จ่ายไปราคา 103,000 Kip



ออกมาจากร้านอิ่มของคาวแล้ว ออกมาเดินชมบรรยากาศแถวๆร้านต่ออีกนิด



ระหว่างนั้นเดินชมร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อยๆ



แล้วมาแวะทานร้านหลวงพะบางเบอเกอรี่ (Luang Prabang Bakery) สาขาวังเวียง



มี้อนี้ผมสั่ง ชาแตงโมและช็อกโกแลตเค้กมาทาน ราคา 20,000 Kip หลังจากนั้นผมเดินเที่ยวต่ออีกนิดแล้วรอเดินทางไปยังหลวงพะบางต่อในวันรุ่งขึ้น โดยผมซื้อตั๋วไว้แล้วครับ ราคาคนละ 90,000 จากที่เดินดูตามบริษัททัวร์ต่างๆแล้ว ราคาไม่ต่างกันเท่าไหร่ และมีรถรับส่งไปที่สถานีขนส่ง เลยตัดสินใจซื้อกับบริษัททัวร์หน้าโรงแรม เพราะสะดวกกว่า รถที่นั่งเป็นรถ VIP เช่นกัน แต่สภาพต่างกันกับรถที่มาจากวังเวียงโดยสิ้นเชิง แล้วอย่าลืมตามต่อรีวิวครั้งต่อไปกับรีวิวที่พัก ชื่อถาวรสุก (THAVONSOUK Hotel & Resort) กันนะครับ




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2553
11 comments
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 15:53:18 น.
Counter : 3735 Pageviews.

 

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ
คิดถึงวังเวียงจริงๆ คนเยอะจังเลยนะคะ
โชคดีตอนที่ไป ไม่ค่อยมีคนเลย ^^ อยากกลับไปอีกจัง

 

โดย: Panino 28 ตุลาคม 2553 11:13:51 น.  

 



เป็นจุดหมายที่อยู่ในใจเลย...วังเวียง
อยากไปเล่นน้ำ นั่งห่วงยางลอยตามสายน้ำ

เห็นภาพน้ำที่บลูลากูนแล้ว น่าเล่นมา ใสเขียวเชียว

ขอบคุณ review ดีๆ จุดประกายการเดินทางครับ

 

โดย: the fivedog 29 ตุลาคม 2553 9:00:55 น.  

 

รูปล่างๆ ดูไม่ได้ค่ะ สงสัยเราเปิดหลายบล็อกเกินไป เสียดายจัง

รีวิวละเอียด ภาพสวยค่ะ โหวตให้แล้วนะคะ สู้ๆ นะคะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 29 ตุลาคม 2553 14:50:16 น.  

 

สวัสดีคะกัปตัน

ตามมาเที่ยววังเวียงด้วยคะ เห็นแล้วคิดถึงเหมือนกันคะ โดยเฉพาะสะพานสีส้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยจังเลยคะ เคยไปเมื่อ 3 ปีก่อนตอนนั้นถนนกำลังปรับปรุง ไปพักวังเวียงรีสอร์ท ใกล้ๆ แม่น้ำ บรรยากาศดีมากเลยคะ

แวะมาโหวตให้แล้วคะ

 

โดย: Maew-Tua-Lek 30 ตุลาคม 2553 14:48:07 น.  

 

โหวตก่อนจ้ะ

เดี๋ยวพี่มาเก็บใหม่

ดูนาน...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 30 ตุลาคม 2553 20:53:22 น.  

 

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
น้ำสีสวยมากจริงๆ

 

โดย: vuitton 30 ตุลาคม 2553 21:58:10 น.  

 

รู้สึกว่าจะพักที่เดียวกัน... กับทริปฤดูร้อนตอนหน้าแล้งที่ผ่านมาซึ่งผมเอารถคันเล็กขับไปเรื่อย ๆ จนถึงหลวงพระบาง

ที่วังเวียงนี่ใจจริงอยากนอนสักสองคืน แต่เจอความพลุกพล่านไม่ค่อยกลมกลืนธรรมชาติ(บางจุด) เลยแวะเฉพาะตอนขาไปประมาณสองชั่วโมงกับตอนขากลับแวะนอน 1 คืน ก็โอเคนะ

ประมาณปลายมกราคมว่าจะแวะผ่านอีกรอบ แต่คงเลี้ยวขวาที่แยกพูคูนไปนอนแถวเมืองงอยครับ

ปล. ภาพแจ่มดีจริง ๆ

 

โดย: sirimas_m 31 ตุลาคม 2553 20:00:38 น.  

 

โหวตค่ะ

ชอบวิวระหว่างทาง...กับวิวสะพาน ทุกรูปเลยค่ะ



เหมือนอยู่ใกล้ๆ "ลาว" แต่ไม่ได้ไปซักที เฮ้อ...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 2 พฤศจิกายน 2553 10:40:14 น.  

 

ดูภาพเพลินเลยค่ะ

บรรยากาศทำให้คิดถึงเชียงใหม่ตอนเราเด็ก ๆ และปายค่ะ

ดูสบาย ๆ ดีจัง

 

โดย: tuk-tuk@korat 2 พฤศจิกายน 2553 14:28:51 น.  

 

วังเวียงสวยมีเสน่ห์ เสียดายผมมีเวลาอยู่ที่นั่นแค่หนึ่งคืนและตื่นมาต้องรีบเดินทางกลับเวียงจันทน์ ถ้ำก็ไม่ได้ไป

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 28 มกราคม 2554 11:04:11 น.  

 

นั่งเรือเที่ยวด้วยแล้วเปลี่ยนมานั่งรถมั่งดีก่า สวยมากมายเลยค่ะ
ตอนไปฝนตกอ่ะ ไม่ได้ไปน้ำตกด้วย

สงสัยต้องไปซ่อม

 

โดย: AdrenalineRush 29 มกราคม 2554 11:14:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กัปตันลูกชุบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กัปตันลูกชุบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.