สวัสดีครับ รีวิวคราวนี้ผมจะพาไปเที่ยวเมืองนอกบ้าง แต่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับเราเท่าไหร่ครับประเทศเพื่อนบ้านนี้เอง รีวิวครั้งนี้กว่าจะจบบริบูรณ์คงจะมีต่ออีกหลายตอนเลยทีเดียวครับ ยังไงแล้วถ้าชอบก็ตามชมกันได้นะครับ ผมจะรีบรีวิวให้ได้ชมกันแบบไม่ขาดตอน เผื่อเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะได้ใช้เป็นแนวทางได้บ้าง รีวิวของผมนั้นก็จะแยกเช่นเดิม ที่พักส่วนที่พัก เที่ยวส่วนเที่ยวแต่จะเรียงไว้ตามลำดับวันที่และการเข้าพักนะครับ

การเดินทางของผมสรุปเป็นดังนี้ คือ นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพมหานครไปหนองคายแล้วเข้าเวียงจันทน์ ใช้เวลาเที่ยวและนอนพักในเวียงจันทน์ 1 คืน ต่อจากนั้นนั่งรถต่อไปวังเวียง เที่ยวในวังเวียงและนอนที่นั่น 2 คืน แล้วจึงนั่งรถไปยังเมืองหลวงพระบางค้างที่นั่น 5 คืน แล้วกลับมายังเมืองไทยโดยนั่งเรือช้า ค้างที่ปากแบ่ง 1 คืน และที่ห้วยทรายอีก 1 คืน ก่อนข้ามฝั่งมายังประเทศไทย ตรงอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เที่ยวในเชียงราย 1 วัน แล้วขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพช่วงดึก จากแผนของผมก็คงจะรู้แล้วนะครับว่าคงเป็นรีวิวที่ยาวนานพอสมควร ^_________^ อย่าลืมตามชมกันนะครับ

รีวิวคราวนี้ของผมจะเป็นรีวิวตั้งแต่ที่ขนส่งหนองคายแล้วข้ามแดนมายังประเทศลาว และใช้เวลาที่เหลือของวันนั้นเที่ยวชมเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศลาวครับ ส่วนที่พักที่ผมเลือกพัก ชื่อ คำวงสา (Khamvongsa) ซึ่งผมจะรีวิวเป็นรีวิวถัดไป สถานที่ที่ผมจะพาไปเที่ยวมีดังนี้ครับ หอพระแก้ว (Haw Pha Kaeo) วัดสีสะเกด (Wat Sisaket) แล้วเดินไปชมประตูชัย (Patuxai) ต่อด้วย พะทาดหลวง (Pha That Luang) ก่อนจะเดินชมเมืองช่วงใกล้ค่ำอีกรอบแล้วกลับไปพักผ่อนยังที่พักเพื่อเตรียมลุยต่อกับทริปวันรุ่งขึ้น พูดมาเยอะแล้วครับ ผมว่าได้เวลาไปชมรีวิวเที่ยวเวียงจันทน์ในแบบฉบับของกัปตันลูกชุบกันได้แล้วครับ^_________^

ป.ล. 1 ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รีวิวและคำแนะนำของเพื่อนๆในห้องblueplanet ขอบคุณมากๆนะครับ

ป.ล. 2 สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเอ่ยถึงผมบางแห่งผมก็ไม่แน่ใจว่าสะกดเป็นภาษาไทยถูกรึเปล่า นอกจากนี้คำบรรยายต่างๆก็มาจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอ และอ้างอิงจากข้อมูลในหนังสือท่องเที่ยวครับ ถ้ามีผิดพลาดอะไรก็สามารถท้วงติงกันได้นะครับ

ป.ล. 3 ผมได้เข้าร่วมโครงการกินเที่ยวทั่วไทยสไตล์บล็อกเกอร์ของ ททท ผมขอฝากบล็อกของผมไว้หน่อยนะครับ หากชอบก็ช่วยโหวตให้หน่อยนะครับ คนโหวตมีสิทธิ์ลุ้นที่พักด้วย ^__^ ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ ขอบคุณมากๆครับผม

//www.thaitravelblog.com/index.php?cmd=show&pid=3380

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9830229/E9830229.html#107

ส่วนนี้เป็นตอน2 แวะชมกันได้ครับ >> กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่2: Hotel Khamvongsa, a hidden gem of Vientiane
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=22-10-2010&group=12&gblog=2

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมเดินทางจากกรุงเทพนั่งรถทัวร์ที่ขนส่งหมอชิตมาลงที่ขนส่งจังหวัดหนองคายออกจากหมอชิต 20.25 น. ถึงประมาณ 5.45 น. ของอีกวัน แปรงฟันล้างหน้าและนั่งรอซื้อตั๋วประมาณ 6.30 น.เพื่อขึ้นรถเที่ยวแรกข้ามแดนไปประเทศลาวครับ แต่เนื่องจากการที่ไปรถเที่ยวแรกจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาอีก 5 บาทครับ เลยกลายเป็นค่ารถ 60 บาทถ้วนครับผม แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อเที่ยวนี้แต่ซื้อตามเวลาที่เห็นในรูปก็จะจ่ายแค่ 55 บาทเป็นค่ารถครับ

คันนี้ครับที่จะพาผมข้ามแดนไปนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

อีกมุมของขนส่งจังหวัดหนองคายก่อนรถออก

รถวิ่งมาได้สักพักก็จะถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองแต่เราจะเจอด่านขาออกของประเทศไทยเราก่อน ก็กรอกเอกสารให้ถูกต้องไม่มีอะไรมากครับผม

ในการไปลาวครั้งนี้ผมใช้หนังสือเดินทางครับ เพราะตามเงื่อนไขแล้วในครั้งนี้ผมเดินทางไปไกลพอสมควร ทำให้บัตรผ่านแดนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ

ต่อจากนั้นก็กลับมาขึ้นรถคันเดิมนะครับ เพื่อที่เราจะนั่งรถเพื่อข้ามสะพานไปยังนครหลวงเวียงจันทน์กัน

รถจะจอดเพื่อให้เราลงไปยังที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าของฝั่งลาวครับ ในส่วนนี้พอจะมีที่แลกเงินอยู่ครับ มีทั้งด้านฝั่งก่อนตรวจและเมื่อตรวจเสร็จแล้วแต่ผมไปเช้าฝั่งที่ตรวจเข้ามาแล้วยังไม่เปิดครับ แต่ผมไม่ทราบเลยทำให้ผมไม่ได้แลกเงินที่ตรงส่วนนี้ แต่สำหรับด้านฝั่งก่อนตรวจนั้นเปิดแล้วนะครับ

หลังจากนั้นรถจะพาเราไปส่งที่ บริเวณใกล้ๆกับตลาดเช้าพอถึงผมเดินไปแลกเงินก่อน จากนั้นผมจึงเรียกรถสามล้อเพื่อไปส่งที่พัก ชื่อคำวงสา(Khamvongsa) แต่ผมจะรีวิวในครั้งถัดไปครับ เก็บของเข้าที่พักเสร็จผมออกเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ถ้าดูจากแผนที่ผมเดินจากถนนขุนบุลม แล้วเลี้ยวขวาไปยังถนนเสดถาทิลาด เดินไปชมเมืองไปครับ ผ่านวัดนี้แต่ไม่ได้แวะเข้าไปครับผม

ตามทางเดินที่ประเทศลาวจะมีภาพวาดลักษณะนี้วางขายเยอะมากๆครับ

เดินตามทางตรงไปเรื่อยๆจะเจอร้าน Joma ซึ่งถือว่าเป็นร้านกาแฟชื่อดังเลยทีเดียวครับ อร่อยและรสชาติดีครับ แต่ผมขอแวะทานอาหารที่ร้านเยื้องๆกันกับร้าน Joma ก่อนนะครับ

ร้านนี้มีชื่อว่า ร้านขอบใจเด้อ ใกล้กับวงเวียนน้ำพุ ขายอาหารลาว เป็นร้านชื่อดังของเวียงจันทน์เช่นกันครับ บรรยากาศภายในร้าน

เครื่องดื่มที่สั่งมาทานในมื้อนี้ครับ

ภายในร้านอีกมุม

อาหารที่สั่งครับ มื้อนี้ผมสั่งอาหารเป็น Set ซึ่งมี อาหารดังนี้ จานแรกลาบหมู ข้าวเหนียว

ส้มตำ

ส่วนในหม้อเล็กๆ คือต้มยำปลา

ขนมชั้นครับ รวมอยู่ใน Set ด้วย มื้อนี้จ่ายไป 91,000 Kip

ต่อจากนั้นข้ามถนนมาร้านJoma ซึ่งอยู่เยื้องๆกับร้านอาหารขอบใจเด้อ เพื่อหาเครื่องดื่มทานนิดหน่อย

บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสวยงามน่ารักมากครับ

ต่อจากนั้นเดินไปยังวงเวียนน้ำพุ บรรยากาศช่วงเที่ยงครับ ร้อนจริงๆ

ป้ายบอกทางของนครหลวงเวียงจันทน์

ผมจะเดินไปยังหอพระแก้ว ระหว่างทางผ่านหอคำ ปัจจุบันใช้เป็นที่พักรับรองอาคันตุกะของประเทศลาวครับ

เดินมาอีกนิดตามถนนเส้นเดิม ก็จะเจอหอพระแก้ว (Haw Pha Kaeo) ค่าเข้าชมตอนที่ผมไปนั้นอยู่ที่คนละ 5,000 Kip

หอพระแก้ว (Haw Pha Kaeo) สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช และเป็นอดีตวัดหลวงประจำราชวงศ์ลาว สร้างขึ้นเพื่อใช้ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากอาณาจักรล้านนา แต่ตอนนี้พระแก้วมรกตไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแต่ได้ปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บสิ่งของโบราณทางพระพุทธศาสนาเอาไว้

ภายในลวดลายสวยงามจริงๆครับ

เดินชมความสวยงามกันต่อ

อีกมุมของที่นี่

อีกมุมครับ

จากนั้นผมข้ามฝั่งไปฝั่งตรงข้ามและเดินกลับไปทางเดิมเพื่อไปยัง วัดสีสะเกด (Wat Sisaket) ใช้ศิลปะแบบไทย และปัจจุบันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของลาว

เข้าไปเที่ยวชมกันครับ

รายละเอียด ค่าเข้าชมและเวลาเปิดปิดครับ

ภายใน

สวยงามมากครับผม

ความหมายของสิม

ส่วนนี้กุฏิ

ภายในอีกภาพครับ

ชัดๆอีกรูป

อีกมุมมอง

มุมโดยรวม

ต่อจากนั้นผมเดินมาเข้าถนนล้านช้างเพื่อเดินตรงไปยังประตูชัย (Patuxai) เดินไปเรื่อยๆผ่านธนาคารกรุงไทยสาขานครหลวงเวียงจันทน์เลยถ่ายมาให้ชมกันนิดนึงครับ

ผมเดินต่อไปหันไปมองภายในซอยรู้สึกจะเป็น พระทาดดำ (Pha That Dam) แต่ไม่ได้แวะเดินไปชมครับ

เดินต่อไปอีกนิดใกล้จะถึงจุดหมายแล้วครับแต่อากาศก็ร้อนพอสมควร

ประตูชัย เดี๋ยวข้ามไปชมใกล้ๆกันครับ

อีกมุม

แวะชมป้ายชื่อกันหน่อย ประตูชัย (Patuxai) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่สละชีวิตในการต่อสู้เรียกร้องเอกราชจากฝรั่งเศส จะเห็นว่ารูปลักษณะภายนอกจะคล้าย Arc de Triomphe ที่กรุงปารีสแต่ประตูชัยที่ลาวจะตกแต่งด้วยลักษณะแบบผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก

เดี๋ยวขึ้นไปชมด้านในกันครับ

อีกมุม

ภายในด้านล่างนี้จะเป็นที่นั่งพักผ่อนโดยรอบเลยครับ

ลวดลายการตกแต่งด้านบน

มองออกไปด้านนอก

ประตูชัยที่นี่จะสามารถขึ้นมาชมวิวด้านบนได้ครับ เสียค่าขึ้นคนละ 3,000 Kip ระหว่างที่เดินขึ้นไปก่อนจะถึงชั้นบนสุดก็จะมีร้านขายของเล็กๆน้อยๆ ขายให้นักท่องเที่ยว

ลงมาด้านล่าง ชมกันอีกมุม

เห็นเก้าอี้การบินไทย เลยถ่ายมาให้ชมกันครับ

มองไปยังประตูชัยอีกมุม

ตึกสำนักงานตั้งอยู่ด้านข้างไม่แน่ใจว่าสำนักงานอะไรครับ ^__________^

จากชมประตูชัย จุดมุ่งหมายต่อไปคือ พะทาดหลวง (Pha That Luang) แต่จะให้เดินไปคงไม่ไหวแล้วครับ เลยตัดสินใจเรียกรถสามล้อ ราคาอยู่ที่10,000 Kip

ใกล้แล้วครับเดี๋ยวเดินไปชมกัน

ก่อนถึงพะทาดหลวงจะเจอ อนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ด้านหน้า

พะทาดหลวง (Pha That Luang) ค่าเข้าชมคนละ 5,000 Kip

พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงสร้างพะทาดหลวงขึ้น โดยสร้างขึ้นครอบองค์พระธาตุศรีธรรมาโศกเดิม ยอดพระธาตุสูงถึง 45 เมตร และได้สร้างพระธาตุล้อมรอบอีก 30 องค์ ซึ่งชาวบ้านเรียว่าธาตุหลวง ซึ่งมีชื่อทางการว่า พระธาตุโลกจุฬามณี

บริเวณภายในสวยงามมากทีเดียว

ชมกันชัดๆครับ

อีกมุม

จากนั้นผมเรียกรถให้ไปส่งที่พัก ค่ารถคราวนี้ 20,000 Kip เก็บของเรียบร้อยเย็นๆเดินไปทางเดิมครับเพื่อไปยังวงเวียนน้ำพุแวะกินพิซซ่าร้านนี้

พิซซ่าหน้าซีฟู๊ด มื้อนี้หมดไป 100,000 Kip

บรรยากาศช่วงเย็นๆบริเวณร้านอาหารแถววงเวียนน้ำพุ

ภาพสุดท้ายบรรยากาศถนนช่วงค่ำด้านตรงข้ามกับแถววงเวียนน้ำพุ และผมขอจบรีวิวครั้งนี้ไว้เท่านี้นะครับ คราวหน้าอย่าลืมตามชมกันต่อนะครับผม ^__________^

Create Date : 21 ตุลาคม 2553
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 16:01:18 น.		15 comments
Counter : 4503 Pageviews.
Share Tweet