TBA2011 กัปตันลูกชุบพาชม Pattara Resort & Spa สัมผัสความสงบกลางเมืองพิษณุโลก สวัสดีครับ รีวิวนี้ค่อนข้างจะแตกต่างจากรีวิวที่ผ่านๆมานะครับ เพราะคราวนี้ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ Thailand Boutique Awards 2011 เพื่อไปเยี่ยมชมโรงแรมหรือรีสอร์ทที่ผ่านเข้ารอบ แล้วเอามารีวิวเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินรอบถัดไปของคณะกรรมการ และให้เพื่อนๆได้ชมกัน โดยหนึ่งในโรงแรมที่ได้รับมอบหมายก็คือ Pattara Resort & Spa Pattara Resort & Spa ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆของจังหวัดได้ค่อนข้างสะดวก แต่ช่วงที่ผมไปเส้นทางมุ่งไปยังจุดหมายกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้การเดินทางติดขัดนิดหน่อย มีต้องขับรถลุยน้ำบ้าง แอบกังวลเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี โชคดีที่รีสอร์ทไม่ได้ประสบปัญหาน้ำท่วม แถมฟ้าก็เป็นใจให้ถ่ายรูป ฝนจะตกก็ช่วงกลางดึกเท่านั้น นับว่าโชคดีมากทีเดียวสำหรับทริปนี้ ^^ Pattara Resort & Spa ร่วมประกวดในหมวดหมู่ "Luxury hotels and resorts" ประเภท "อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Green, Nature and Environment)" โดยมีห้องพักทั้งหมด 64 ห้อง แบ่งเป็นตึก 5 ตึก สำหรับห้อง Superior กับ Deluxe ส่วน Float Villa และ Pool Villa จะมีอย่างละ 2 หลัง เป็นวิลล่าแยกออกจากตัวตึกครับ แนวคิดของที่นี่- Natural Life in Town ดูจะเหมาะสมทีเดียว เพราะรีสอร์ทนี้เงียบสงบและเป็นธรรมชาติมาก แตกต่างจากสภาพแวดล้อมภายนอกรีสอร์ทมากพอสมควร เหมือนเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เราจะสามารถหลีกหนีวุ่นวายมาพบกับความสงบ ความเป็นส่วนตัว ชาร์จพลังเพื่อกลับไปผจญกับความวุ่นวายต่างๆอีกครั้ง เช่นเดียวกันกับรีวิวที่ผ่านๆมา ผู้ชมควรใช้วิจารณญาณในการรับชม เพราะรีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณที่พบเจอ ณ ช่วงเวลาหนึ่งๆ เท่านั้น ซึ่งมักจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เอาล่ะครับ พูดมายาวเหยียดเลย ไปชมรีวิวPattara Resort & Spa ในแบบฉบับของกัปตันลูกชุบกันดีกว่าครับ ขอเสริมอีกเรื่องใครมี Facebook แวะมาทักทายพูดคุยกันได้นะครับที่ Facebook- Captain.Lookchoob ขอบคุณครับ ^________^ แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11112801/E11112801.html ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ผมเดินทางออกจากกรุงเทพประมาณ 7.00 น. ถึงพิษณุโลกประมาณ 12.00 น. ก่อนจะเข้ารีสอร์ทผมแวะไปไหว้พระที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันว่า วัดใหญ่ก่อน แล้วค่อยเข้ารีสอร์ทประมาณบ่ายสองโมงครับ รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวจะแยกเป็นอีกหนึ่งตอนภายหลังนะครับ Pattara Resort & Spa ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองบนถนนไชยานุภาพ ห่างจากตัวเมืองออกมาเล็กน้อย ผมขับรถจากกรุงเทพฯใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงวังน้อยแล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเซีย)ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท เข้านครสวรรค์ เข้าทางหลวงสาย 1 ต่อด้วยสาย 117 ไปเรื่อยๆ เข้าถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ รีสอร์ทจะอยู่ทางขวามือซึ่งเราต้องกลับรถครับ ก่อนจะถึงแยกทางไปจังหวัดสุโขทัย ลานจอดรถอยู่บริเวณด้านในครับ ตอนเข้าไปวันนั้นไม่เจอพนักงานและรปภเลยครับ ต้องหิ้วกระเป๋าไปที่ Lobby เอง ทางไป lobby ครับ วันที่ไปฟ้าใสไม่เจอฝนเลยครับ จะตกก็แค่ตอนช่วงดึกเท่านั้น ถือว่าโชคดีทีเดียว นอกเรื่องนิดนึง ระหว่างทางไปผมรู้สึกหดหู่อย่างมาก ทุ่งนาเขียวๆก็โดนน้ำท่วมไปเกือบหมด กลายเป็นทะเลสาบขนาดย่อมตลอดสองข้างทางบ้านเรือนหลายหลังเหลือให้เห็นแต่ชั้นสองหรือหลังคา ผู้คนต้องอพยพกันมาปักหลักอยู่ตามทางหลวง เป็นภาพที่น่าสงสารมากครับ ขอเอาใจช่วยให้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆนี้ไปได้นะครับ ระหว่างเดินไปยัง Lobby ด้านหน้าตัวตึก จะผ่านร้านอาหารของรีสอร์ท มีชื่อว่า Ton-Tan Restaurant (ต้นตาล)ซึ่งเป็นห้องอาหารเดียวของรีสอร์ทครับ ส่วนมุมนี้เป็นทางเข้าด้านหน้าของรีสอร์ทครับ เดินผ่านประตูเข้ามาแล้วก็จะเป็นส่วนด้านหน้า ทางขวามือจะเป็นส่วนของ Lobby ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Library ครับ หลังจากเช็คอินเรียบร้อย มี welcome drink ให้เป็นน้ำตะไคร้ แต่ผมไม่ได้ถ่ายมา พนักงานก็พามายังห้องพักครับ ห้องที่ได้เป็นห้องแบบ Superior Room ที่ตึก 3 ชั้น 2 ครับ บรรยากาศภายนอกก่อนเข้าตัวตึก ขึ้นมายังชั้น 2 ถึงห้องพักในวันนี้แล้วล่ะครับ เปิดประตูไปชมห้องด้านในกันครับ บรรยากาศมุมเตียงนอน ภายในห้องมีทั้งพัดลมเพดาน และแอร์ครับ ห้องพักไม่แคบถือว่ากว้างเลยทีเดียว มาดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ มีอ่างอาบน้ำ และ foam bath ให้ด้วย น้ำแรงดีครับ แต่มีข้อติตรงส่วนที่อาบน้ำนิดหน่อย คือในห้องน้ำได้ทำการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งแล้วแต่เหมือนยังไม่ดีพอ เวลาผมอาบน้ำน้ำจะเลอะออกมายังส่วนแห้งเยอะทีเดียว และอีกเรื่องคือ โถสุขภัณฑ์นั้นอยู่ในส่วนของส่วนเปียกถึงจะมีระแนงไม้กั้นไว้ระบายน้ำแล้ว แต่ความเป็นจริงน้ำมันแรงและกระเด็นไปทำให้ส่วนของโถสุขภัณฑ์เปียกครับ ข้าวของเครื่องใช้ที่มีให้ถือว่าครบครันทีเดียวครับ เป็นกลิ่นมะลิ หอมทีเดียว ถัดจากห้องน้ำผมจะพาออกไปในส่วนของระบียงห้อง ถ้าเปิดประตูระเบียงทิ้งไว้เกินสามนาที แอร์จะตัดโดยอัตโนมัติครับ มุมระเบียงห้องครับ ภายในรีสอร์ทมีต้นไม้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว จนบางครั้งผมแอบคิดว่าออกจะรกไปนิด แต่ก็ทำให้ดูร่มรื่นดีทีเดียว มุมมองจากระเบียงห้อง ต้นไม้ช่วยกั้นทำให้มีความเป็นส่วนตัวตรงส่วนของระเบียงมากยิ่งขึ้น ดูอย่างภาพนนี้จะมองไปยังสระยังมีต้นไม้บังเยอะทีเดียว หลังจากชมระเบียงเรียบร้อย ก็มาชมในส่วนของมุมมินิบาร์กันต่อ ตามต่อด้วยมุมทีวี และในส่วนของโต๊ะทำงาน ขอชมอีกเรื่องคือที่นี่จะมีหนังสือธรรมะตั้งไว้ด้วย ไม่ได้มีเฉพาะไบเบิ้ลอย่างเดียว เข้าห้องมาได้สักพัก ไม่นานพนักงานก็มาเคาะประตูนำ welcome fruit มาให้ อีกมุมในส่วนของโต๊ะทำงาน ที่นี่มี wifi ให้ใช้ด้วยนะครับ สัญญาณแรงดี มี cable ให้ดู กับ dvdให้ยืมด้วยครับ แต่หนังเก่าไปนิด อีกมุม ออกจากห้องไปชมบรรยากาศภายในรีสอร์ทตรงส่วนอื่นๆกันต่อ เดินลัดไปยังสระว่ายน้ำส่วนกลางกันครับ สระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่ครับ ว่ายน้ำไปชมบึงบัวไป บรรยากาศมุมสระว่ายน้ำ ต้นไม้เยอะทีเดียวเห็นไหมครับ ตึกนี้จะตรงกับสระว่ายน้ำเลย ผมว่าที่นี่บริเวณสระว่ายน้ำสวยตกแต่งได้ลงตัวทีเดียว ทำให้การถ่ายรูปในทริปนี้ ดูดูแล้วจะลงเอยด้วยภาพสระว่ายน้ำส่วนกลางเยอะกว่าที่อื่นครับ เสียดายอยู่อย่างครับ วันที่ไปคงเป็นเพราะวันก่อนหน้ามีฝน รีสอร์ทเลยใช้ผ้าคลุมพวกเก้าอี้ โต๊ะ และส่วนอื่นๆไว้หมด ซึ่งจริงๆแล้ววันนั้นแดดออกทั้งวันน่าจะเอาออก ตอนที่เดินเล่นถ่ายรูปก็มีแขกลงเล่นน้ำ แล้วก็ต้องเอาข้าวของตั้งไว้บนผ้าใบครับ ตึกนี้หากมีแขกอยู่บริเวณสระเยอะอาจทำให้ไม่เป็นส่วนตัวนิดหน่อย การตกแต่งแนวนี้เพิ่มความน่าสนใจบริเวณนี้ได้เยอะทีเดียวเลยครับ เดินชมกันต่อ ที่นี่จะใช้น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของรีสอร์ท ทำให้แขกที่มาพักผ่อนคลายมากทีเดียว แต่ข้อเสียของมันก็คือจะต้องทำความสะอาดค่อนข้างบ่อยครับ ซึ่งตรงนี้ผมว่ารีสอร์ทควรดูแลมากกว่านี้เพราะสระบัวบริเวณ lobby และห้องอาหารค่อนข้างเหลืองทีเดียว เข้าใจว่าน่าจะดูแลรักษาลำบาก มุมบึงบัวมองไปยังตัวตึกห้องพัก มีดอกบัวอยู่เยอะทีเดียว ส่วนห้องพักแบบนี้เรียกว่าห้องแบบ Float Villa เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปชมด้านในกันครับ เดินไปชมส่วนอื่นๆกันต่อ ด้านนี้ตัวอาคารส่วนของ Lobby ส่วนอาคารนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Lobby เป็นส่วนของห้องสมุด เดินออกมาแล้วผมเลยออกมาถ่ายตรงส่วนด้านหน้าอีกหน่อย มุมทางเข้าด้านหน้าอีกมุม อีกรูปครับ รูปเยอะพอสมควรเลยทริปนี้ เดินไปชมในส่วนของร้านอาหารต้นตาลกันครับ ส่วนด้านนี้เป็นมุมด้านหน้าของร้านอาหาร ที่นี่จะมี afternoon tea & coffee ไว้คอยบริการด้วยนะครับ อ้อ กาแฟเป็นกาแฟสดครับ ^^ บรรยากาศภายใน ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารเดียวของรีสอร์ทใช้รับประทานอาหารทุกมื้อ ส่วนของโต๊ะนั่งรับประทานอาหารอีกมุม จากนั้นก็เดินทะลุไปยังส่วนอื่นต่อครับ ตรงส่วนนี้ร่มรื่นดีจริงๆ นั่งชมวิวชมบรรยากาศไปเพลินๆ วันนี้บรรยากาศดีจริงๆ แม้จะร้อนไปหน่อยก็ตาม ชอบบรรยากาศของ Float Villa จริงๆ ที่นี่มีดอกบัวเยอะแยะเลย ยังไงมาแล้วต้องถ่ายไว้สักรูป จากนั้นผมก็ขอพนักงานเข้าชมและเก็บรูปห้องอื่นๆ ปกติแล้วรีวิวอื่นๆผมจะไม่มีโอกาสได้ถ่ายห้องอื่นมาเลย แต่เนื่องจากการไปพักครั้งนี้เป็นของโครงการ TBA เลยทำให้มีโอกาสได้เห็นห้องอื่นๆด้วย ก็ดีไปอีกแบบครับ อย่างเรื่องถ่ายรูปก็จะได้ไม่ต้องหลบๆพนักงานสักเท่าไหร่ อีกเรื่องคือเขิลอ่ะครับ ^^ ห้องแรกผมจะพาไปชมห้อง Deluxe Room ครับ บรรยากาศมุมเตียง วิวจากห้องพักห้องนี้ ผมว่าห้องนี้จัดตกแต่งได้สวยงามน่าพักทีเดียว ผมว่าสวยกว่า superior ค่อนข้างเยอะเลย มุมห้องน้ำ ผมมองแล้วรู้สึกว่ากว้างกว่าห้อง Superior และแยกส่วนเปียกส่วนแห้งได้ดีกว่าเพราะ shower จะแยกออกต่างหากครับ ห้องนี้มี oil burner ให้ด้วยครับ จากนั้นพนักงานก็พานั่งรถกอล์ฟเพื่อไปชมห้อง Float Villa บรรยากาศหน้าห้อง เดี๋ยวเข้าไปชมด้านในด้วยกันครับ มุมนั่งเล่นหน้าห้องพัก เข้าไปชมในตัวห้องกัน เปิดเข้าไปจะเจอมุมเตียงนอนก่อนเลย ชอบบรรยากาศห้อง Float Villa จริงๆครับ มุมห้องน้ำ อ่างอาบน้ำจะเป็นแบบ open air ครับ เอาไว้ชมดาวไปแช่น้ำไป ^^ มุมนั่งเล่นอีกมุม มองไปยังตัวตึก ชมห้องถ่ายเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปชมจุดอื่นต่อ ไปกันต่อ จริงแล้วผมยังขาดไปอีกห้อง คือห้องแบบ Pool Villa ส่วนนี่เป็นบรรยากาศหน้าห้องแบบห้องพัก Pool Villa ห้องพักแบบนี้จะอยู่ด้านในสุดของตัวรีสอร์ท และดูจะสงบและเป็นส่วนตัวมากที่สุด แต่วันที่ผมเข้าชม สภาพห้องไม่ค่อยพร้อมและค่อนข้างอับครับ น่าจะเป็นเพราะว่าไม่ค่อยมีแขกมาพักห้อง type นี้ สระก็ค่อนข้างเหลือง ผมเลยไม่ได้เอารูปมาให้ดูครับ ระหว่างทางเดิน บรรยากาศต้นไม้ข้างทางเยอะทีเดียว มาชมในส่วนของสปาของทางรีสอร์ทกันต่อ บรรยากาศสปาของที่นี่ครับ พอดีเข้าไปแล้วไม่เจอพนักงาน เลยไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรมาเท่าไหร่ ยังไงลองชมภาพดูครับ อีกมุมภายในห้องสปา ที่ไหนมีน้ำที่นั้นก็ต้องมีดอกบัวครับที่นี่ หากใครจะใช้บริการติดต่อได้ที่นี่และที่ Lobby ครับ มุมนั่งเล่น เข้ามาดูข้างในกัน เดินชมเสร็จแล้วผมก็มานั่งเล่นริมสระว่ายน้ำต่อ บรรยากาศริมสระว่ายน้ำยามเย็น ^ ^ บรรยากาศดี นั่งชมวิวภายในรีสอร์ทอยู่นานทีเดียวครับ นั่งเล่นริมสระเพลินๆ จนถึงเวลานัดทานข้าวเย็นกับรีสอร์ทไว้เลยครับ ไปกันครับ ผมนัดทานข้าวไว้ ช่วง 18:30 น. มีนัดไว้ที่ห้องอาหารตรงฝั่งนู้นครับ เดินมาถ่ายในส่วนของห้องสมุดสักหน่อย เพราะอยู่ใกล้ๆกัน เข้าไปชมด้านในห้องสมุดกันหน่อยครับ ภายในแต่เป็นช่วงใกล้ค่ำแล้ว ไฟน้อยไปนิดครับ หรือผมหาที่เปิดไม่เจอก็ไม่รู้ ภายในห้องสมุดอีกมุม มุมนี้สวยทีเดียว แต่ผมถ่ายมามืดไปนิดนึง เก็บบรรยากาศ Lobby ช่วงนี้มาอีกรูป บรรยากาศฝั่งบึงบัว จากนั้นก็ได้เวลาทานอาหารมื้อค่ำกันแล้ว วันนี้ผมนั่งโต๊ะนี้ครับ บรรยากาศโต๊ะนั่งมุมด้านนอกอีกมุม โต๊ะอื่นๆ ด้านนอก มองไปยังมุมด้านหน้า ซึ่งเป็นห้องสมุดและ Lobby ของรีสอร์ท ส่วนนี้เป็นบรรยากาศโต๊ะนั่งด้านใน ภาพอาหารมื้อนี้ รวมๆครับ มี สลัดภัทธารา ยำซีฟู้ดตะไคร้ทอด โรตีกับแกงเขียวหวาน อาหารรสชาติดีทีเดียว จากนั้นผมก็กลับเข้าห้องพัก เพื่อพักผ่อนครับ ตอนค่ำไม่มีการ Turn Down ให้นะครับ ตื่นมาตอนเช้าก็รีบเดินไปถ่ายไลน์อาหารมาสักหน่อย ชมบรรยากาศห้องอาหารตอนเช้ากัน มุมอาหาร พนักงานบอกว่าวันนี้มีแขกพอสมควรทางรีสอร์ทเลยจัดอาหารเช้าไว้เป็นแบบ buffet ผมว่าอาหารมีให้เลือกเยอะพอสมควร คุณภาพอาหารก็จัดว่าดีทีเดียว ลองชมกันดูครับ ซูมหน่อย มุมสลัด ซูชิ ผลไม้ มุมขนม กลับมามุมสลัดอีกรอบ ส่วนภาพนี้เป็นส่วนที่ตักมาทาน (ในครั้งแรกนะครับ ^ ^) บะหมี่น้ำ ทานอิ่มแล้ว เดินไปชมส่วนของ Fitness กันครับ บรรยากาศมุมภายใน เนื่องจากพอมีเวลาและเห็นฟ้าสวย ผมเลยเดินเก็บภาพต่ออีกหน่อย มุมห้องสมุด แสงช่วงสายๆกับบรรยากาศริมสระว่ายน้ำ เก้าอี้อาบแดดริมสระ อีกมุม ผมว่าทริปนี้ผมถ่ายบรรยากาศริมสระว่ายน้ำของที่นี่มาเยอะทีเดียว อีกสักรูป สระว่ายน้ำมีอ่างจากุชชี่ด้วยครับ เห็นไหมล่ะครับว่าถ่ายมาเยอะจริงๆ จากนั้นผมก็ถึงเวลาเดินกลับห้องพัก และเก็บของ ได้เวลากลับบ้านกันแล้ว ภาพสุดท้าย กับภาพบรรยากาศของห้อง Float Villa ซึ่งภาพนี้ผมซูมมาจากระเบียงห้องพักผมครับ สำหรับรีวิวในครั้งผมคงต้องจบกันที่ภาพนี้แล้วล่ะครับ ขอบคุณที่ตามชมแล้วพบกันใหม่รีวิวครั้งหน้านะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม ^___________^ สื่งที่ประทับใจ/จุดเด่น - ภายในห้อง Superior ที่ผมเข้าพัก เพดานสูงทำให้รู้สึกว่าห้องโปร่งสบาย และห้องพักกว้างขวางดี - ภายในห้องมีอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้บริการให้ครบครัน รวมไปถึง Safety boxค่อนข้างใหญ่ ใส่ notebook ได้สบายๆ - บรรยากาศภายในรีสอร์ทร่มรื่น เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้เยอะมากๆครับ - พนักงานบางคนยิ้มแย้มและเอาใจใส่ดีพอสมควรครับ และเฉพาะในส่วนของพนักงานของฝ่ายห้องอาหารทำได้ดีมากทีเดียว ดูแลเอาใจใส่ผมดีทีเดียว - ที่นี่มีบริการให้ยืม DVD และมีช่องเคเบิ้ลให้ดูหลากหลายช่องทีเดียว รวมไปถึงมี Wi-Fi ให้ใช้ภายในจุดต่างๆของรีสอร์ทอย่างทั่วถึง - ผมว่าจุดเด่นของที่นี่คือดีไซน์และการตกแต่งครับ อาคารต่างๆและบริเวณส่วนกลางของรีสอร์ทตกแต่งได้สวยงามและให้ความรู้สึกลงตัวดีครับ - อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย สิ่งที่ไม่ประทับใจ/ควรปรับปรุง/จุดด้อย - ห้อง Superior ที่ผมเข้าพัก การแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งภายในห้องน้ำทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ - ในส่วนของห้องน้ำนั้น ตรงจุดที่มีตะแกรงไม้รูระบายน้ำคั่นระหว่างจุดที่ยืนอาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์ พอดีผมสังเกตเห็นเศษเส้นผมอยู่ตรงจุดระบายน้ำนี้เยอะพอสมควร ทำให้ดูไม่สะอาด คาดว่าพนักงานคงลืมทำความสะอาดครับ - ตอนช่วงค่ำผมบริเวณทางเดินภายในรีสอร์ทมืดไปนิด แสงสว่างไม่เพียงพอ แต่ตอนที่ผมจะกลับห้องทางรีสอร์ทเสนอจะให้รถกอล์ฟมาส่งซึ่งก็เป็นทางเลือกอีกทาง - ห้อง pool villa ที่เข้าไปชม ไม่ได้รับการดูแลรักษาเท่าที่ควร คาดว่าเนื่องจากไม่ค่อยมีแขกเข้าพัก ซึ่งก็เข้าใจได้ครับ เพราะว่าห้อง type อื่นๆก็โอเคครับ - การบริการและความเอาใจใส่ของพนักงานที่นี่โดยรวมยังถือว่าอยู่ระดับปานกลางครับ มีเรื่องที่ต้องติอีกเรื่องคือตอน reservation ผมส่งเมล์ติดต่อไปสาม-สี่ครั้ง แต่ไม่มีการตอบกลับครับ จนสุดท้ายต้องโทรไปครับ ผมมองว่าจริงๆแล้ว การบริการและการเอาใจใส่ของพนักงานคือหัวใจที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งของ boutique resort ครับ การที่รีสอร์ท position ตัวเองเป็นรีสอร์ทระดับบน ความคาดหวังต่างๆจากแขกที่มาพักก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในส่วนนี้ถ้ามีการปรับปรุงก็จะทำให้สมบูรณ์ขึ้นเยอะเลยครับ สุดท้ายนี้ Pattara Resort & Spa ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกหนึ่งของพิษณุโลก หากมีโอกาสคงได้กลับไปเยือนอีกครั้งครับ   Create Date : 27 กันยายน 2554 14 comments Last Update : 28 กันยายน 2554 0:23:53 น. Counter : 3645 Pageviews. Share Tweet

ช่วงนี้ up blog เร็วเหลือเกิน เกือบติดตามผลงานไม่ทัน   โดย: ON THE WAY (MyEos50 ) 28 กันยายน 2554 2:55:13 น.

ขอบคุณคะ   โดย: แมงซุ่มมืด IP: 118.174.120.23 28 กันยายน 2554 5:03:35 น.

อ่านข้อดี-เสียแล้วก็ต้องโหวตให้เลยค่ะ ละเอียดดีค่ะชอบๆ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 28 กันยายน 2554 7:40:27 น.

โดย: Kavanich96 28 กันยายน 2554 7:55:41 น.

แวะมาชมค่ะ ทาง จขบ เป็นกรรมการ Tourism Award หรอคะ แล้วปีหน้ายังเป็นชุดเดิมหรือเปล่าคะ   โดย: rakpama07 28 กันยายน 2554 8:45:16 น.

สวัสดีตอนบ่ายๆ ครับ ..... ธรรมดาแล้วพิษณุโลกสำหรับผม มักจะเป็นแค่ทางผ่านเวลาไปเที่ยวทางเหนือ อย่างมากก็อาจแวะไปกราบพระพุทธชินราชก่อนเดินทางต่อ เคยไปพักอยู่ครั้งนึงแต่ตอนนั้นก็พักที่กลางเมืองที่ท็อปแลนด์ที่เป็นทั้งโรงแรมและห้างสรรพสินค้ากลางเมือง ..... เพิ่งรู้ว่าที่นี่มีรีสอร์ทสวยๆ แบบนี้อยู่ด้วย บรรยากาศดีน่าพักมาก แต่ดูแล้วท่าทางราคาจะไม่ใช่น้อยเลยนะครับเนี่ย .....   โดย: NET-MANIA 28 กันยายน 2554 14:02:51 น.

อ่อ..ที่นี่ นี่เอง เวลากลับบ้านที่พิดโลก เวลาจะไปตลาดก็ขับผ่านประจำคะ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เข้าพักเลย หรูหราดีจังเลยนะคะ   โดย: strawberry banana&cream 28 กันยายน 2554 21:42:49 น.

รีสอร์ทสวยมากๆเลยค่ะ ชอบบรรยากาศมากๆค่ะ ร่มรื่นจริงๆ ค่ะ   โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า 30 กันยายน 2554 8:13:41 น.

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ   โดย: ชมจันทร์ IP: 202.29.77.2 30 กันยายน 2554 15:25:22 น.

เดินตามจนเมื่อยเลยค่ะ ชอบวิลล่าลอยน้ำ น่าอยู่มาก ชอบห้โต๊ะำงานชมบึงค่ะ   โดย: tuk-tuk@korat 2 ตุลาคม 2554 21:23:28 น.

ไม่ได้มาทักทายเสียนานเลย เป็นรีสอร์ทที่สวยมากๆ เลยค่ะ น่าไปพักเนอะ ชอบห้องพัก ตกแต่งด้วยสีเขียว สบายตามากๆ เลยค่ะ   โดย: Lovely December 3 ตุลาคม 2554 22:08:24 น.

เป็นรีสอร์ทที่ร่มรื่น น่าพักมากเลยค่ะ เห็นห้องนอนแล้วอยากไปพักผ่อนจัง   โดย: chenyuye 5 ตุลาคม 2554 13:15:50 น.

สวยดีจ้ะ ดูเงียบๆ เหมาะแก่การพักผ่อนมากเลยเนาะ   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 7 ตุลาคม 2554 13:41:14 น.

แวะมาชมอีกแล้วครับ   โดย: Thanachai -แซงค์ ปทุมเทพ (ชายคาตะวัน ) 11 ตุลาคม 2554 9:33:24 น.