สวัสดีครับ รีวิวครั้งนี้เป็นรีวิวตอนจบของทริปเชียงรายแล้วนะครับ จากที่ผมได้มาเที่ยวจังหวัดเชียงราย 3 วัน 2 คืนในครั้งนี้ รีวิวแรกเป็นที่ Le Meridien Chiang Rai Resort ส่วนในรีวิวที่สองนั้นเป็นรีวิวพาเที่ยวของผมทั้งหมดในทริปเชียงรายคราวนี้ และมาถึงครั้งนี้ก็ถึงคราวของที่พักอีกคืนหนึ่งซึ่งก็คือไร่แสงอรุณ รีสอร์ทติดริมแม่น้ำโขง ที่นี่เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ผมประทับใจมากๆครับ

ไร่แสงอรุณ รีสอร์ทที่เน้นธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ที่ตั้งของรีสอร์ทอยู่บนทิวเขาเลียบริมแม่น้ำโขงกึ่งกลางระหว่าง เชียงแสนและเชียงของ การเดินทางมาถึงที่นี่อาจจะลำบากนิด แต่เมื่อมาถึงแล้วผมเชื่อว่าหายเหนื่อยจริงๆครับ ที่นี่ตัวบ้านพักจะมีหลายแบบและจะได้วิวที่ต่างกัน โครงสร้างบ้านแต่ละหลังนั้นจะเน้นวัสดุที่ทำจากไม้เก่าซึ่งนำมาใช้ใหม่เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้สำหรับผมแล้วรู้สึกว่านี้คือจุดเด่นและเป็นจุดที่น่าสนใจที่สำคัญสำหรับที่นี่เลยล่ะครับ ที่นี่จะเน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติเป็นสำคัญ และเน้นความเรียบง่ายซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ดึงดูดผมซึ่งเป็นผู้เข้าพักได้อย่างดีทีเดียว และไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ที่ทำให้ผมประทับใจรีสอร์ทริมน้ำโขงแห่งนี้ แต่ด้วยความใสใจในการบริการที่เป็นกันเองของเจ้าของที่พักและพนักงานทุกคนของทางไร่แสงอรุณ ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ดึงดูดใจทำให้ผมอยากกลับไปพักที่นี่อีกครั้ง

ในครั้งนี้ผมมีโอกาสได้เข้าพักห้องพักที่ถือว่าใกล้ส่วนของ Lobby มากที่สุดและไม่เหนื่อยที่สุด ทำไมผมถึงบอกว่าไม่เหนื่อยที่สุด เดี๋ยวผมจะขอเฉลยไปพร้อมกับภาพรีวิวเลยแล้วกันนะครับ ผมเข้าพักบ้านพักที่มีชื่อว่า บ้านริมโขง1 บ้านพักแบบนี้จะได้ใกล้ชิดแม่น้ำโขงมากที่สุดครับ ได้นอนชมวิวแม่น้ำโขงจากห้องพัก นอกจากเรื่องบ้านพักแล้วที่นี้ยังมีจุดเด่นด้านอาหารอีกด้วยเนื่องจากว่าที่นี่มีการปลูกผักที่จะนำมาประกอบอาหารเอง ทำให้ผักของที่นี่สดมากๆครับ เพราะทางไร่จะเก็บผักสดจากต้นมาทำให้เราทาน อาหารก็อร่อยมากๆ ติดใจจริงๆครับ เอาเป็นว่ามาตามต่อกันกับรีวิวไร่แสงอรุณในแบบฉบับของ กัปตันลูกชุบ กันเลยครับ ^____________^

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9716189/E9716189.html

ส่วนนี้เป็นตอน1 และตอน 2 แวะชมกันได้ครับ

กัปตันลูกชุบพาเที่ยวเชียงราย ตอนที่ 1: Le Meridien Chiang Rai Resort รีสอร์ทมีเสน่ห์ติดริมแม่น้ำกก แวะชมได้ที่นี่เลยครับ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=08-09-2010&group=3&gblog=20

กัปตันลูกชุบพาเที่ยวเชียงราย ตอนที่ 2: เที่ยวพระตำหนักดอยตุง แวะสักการะพ่อขุนเม็งราย ชมความงามวัดร่องขุ่น แวะชมได้ที่นี่เลยครับ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=21-09-2010&group=2&gblog=15

ขับรถมาจากตัวเมืองเชียงราย ขับเรื่อยมาและมาเข้าถนนเลียบแม่น้ำโขง ขับมาเรื่อยๆจนเจอป้ายบอกทางไปไร่แสงอรุณ ขับมาตามทางเรื่อยๆสิ่งแรกที่เจอและรู้ว่าถึงไร่แสงอรุณแล้วครับ

ที่นี่ห่างจากสนามบินเชียงราย เป็นระยะทาง 96 กิโลเมตร เดี๋ยวขึ้นไปเช็คอินกันครับ

อาคารนี้เป็นทั้งส่วนของ Reception และส่วนของร้านอาหาร

ภายในครับ

อีกมุม

ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นอาคารที่ขายของที่ระลึกรวมถึงของใช้ของฝากของทางรีสอร์ท

ระหว่างทางเดินไปห้องพักจะเห็นไร่และวิวแม่น้ำโขง รวมไปถึงตัวอาคารที่เป็นห้องประชุมของที่นี่

ต้องลงบันไดมานิดครับ

วันที่ผมไปแปลงตรงส่วนนี้ใช้ปลูกสตรอเบอร์รี่

ในครั้งนี้ผมเข้าพัก บ้านพักที่มีชื่อว่า บ้านริมโขง K1

นี่คือแผนที่ทั้งหมดของไร่แสงอรุณ และเป็นคำเฉลยที่ผมเกริ่นไว้ว่าทำไมผมถึงไม่เหนื่อยที่สุด เพราะที่นี่แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่ผมพักนั้นติดแม่น้ำโขงและมีส่วนของอาคาร Reception อยู่ต้องส่วนนี้ และฝั่งนี้จะมีบ้านพักอยู่สามหลัง ซึ่งคือบ้านริมโขงทั้งสิ้นใช้ชื่อเรียงตัวเลขกันไป คือ K1 K2 และ K3 แต่ในส่วนของบ้านอื่นๆนั้นจะต้องเดินข้ามถนนเล็กๆไปอีกฝั่งจะมีบ้านบึงบัวอยู่ล่างสุดนอกนั้นจะต้องเดินขึ้นไปบนเขา ก่อนที่จะถึงบ้านพักครับ แต่ผมว่าแม้จะเดินเหนื่อยเท่าไหร่แต่สิ่งที่ได้ก็คุ้มทีเดียวล่ะครับ หากผมมีเวลามากกว่านี้ผมก็อยากจะอยู่บ้านอีกฝั่งเช่นกัน

มาชมภายในบ้านกันต่อครับ

ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ห้องที่ผมเข้าพักนั้นไม่ใหญ่และไม่เล็กมากครับแต่พักผ่อนได้สบาย

วิทยุเล็กๆไว้ฟังเพลงให้หายเหนื่อย

ส่วนของห้องน้ำ กว้างสบาย

ห้องน้ำแบบ Open ครับ

มินิบาร์ทานได้ฟรีทั้งหมดครับ

มุมโต๊ะนั่งทำงาน

บรรยากาศฝั่งเตียงนอนรวมๆ

ระเบียงนั่งชมแม่น้ำโขงและ แผ่นดินเพื่อนบ้านของเราครับ

Welcome fruit เป็นสตรอเบอร์รี่เพราะไปเป็นช่วงมีนาคมซึ่งทางไร่ยังปลูกสตอรเบอร์รี่อยู่ครับ

ส่วนนี้เป็นน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นที่สั่งมาครับ

นั่งชมวิวไปทานสตรอเบอร์รี่ไปมีความสุขจริงๆครับ

มองจากระเบียงจะเห็นบ้านริมโขงหลังอื่น

ออกมาชมด้านนอก เดินไปด้านข้างส่วนนี้จะเป็นทางเดินไปบ้านริมโขง K2 และ K3

จากบ้านพักเดินไปยังด้านหน้าซึ่งเป็นส่วนของอาคาร Reception จะมีแปลงผักของทางรีสอร์ทปลูกไว้อยู่ตลอดทางเดินครับ

อีกรูป

ตรงมาด้านหน้าก็จะถึงอาคาร Reception

เดี๋ยวเราข้ามถนนไปชมฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักอื่นๆกันครับ

ป้ายบอกทางไปบ้านต่างๆ ฝั่งนี้จะมีบ้านบึงบัว บ้านเดือนแจ่ม บ้านเพียงออ และบ้านแสงอรุณครับ

ทางเดิน หากมาช่วงที่ทางรีสอร์ทใช้พื้นที่ส่วนนี้ในการปลูกข้าวคงเขียวสวยงามมากทีเดียว

มุมจัดกิจกรรมและที่นั่งพักเล็กๆน้อยๆ

เดินไปกันต่อครับ ต้องด้านล่างนี้จะมีบ้านบึงบัวอยู่แต่ผมไม่ได้ถ่ายมาครับ

พื้นดินบริเวณนี้ในช่วงที่ผมเข้าพัก

อีกภาพครับ หากถึงหน้าที่ปลูกข้าวเป็นสีเขียวคงสบายตาทีเดียว

เอาล่ะครับจากจุดนี้ต้องเดินขึ้นบันไดก่อนจะไปถึงที่พักของบ้านอีก 3 แบบ

เดินขึ้นไปโปรดสังเกตเจ้าตัวเล็กนี้หน่อยนะครับ ระวังนิดครับอย่าไปเหยียบเข้า

มองลงไปด้านล่าง กอไผ่ที่ขึ้นบังเหมือนหลังคาทำให้ทางเดินนั้นสวยงามมากทีเดียว

ป้ายบอกทางไปบ้านหลังต่างๆ

เจอแล้วครับหนึ่งหลัง

ทางเดินที่นี่สวยงาม เดินชมแล้วรู้สึกสบายใจทีเดียวลดความเหนื่อยไปนิด ^__________^

ส่วนของบ้านเพียงออ บ้านแต่ละหลังของที่นี่ให้ความเป็นส่วนตัวได้อย่างดีและเหมาะแก่การพักผ่อนเอาแรงได้ดีจริงๆ

ส่วนหลังนี้บ้านเดือนแจ่ม แต่ละหลังนอกจากชื่อจะไม่เหมือนกันด้านในก็ตกแต่งไม่เหมือนกัน และชื่อของแต่ละหลังก็ยังบอกถึงลักษณะและจุดเด่นของบ้านอีกด้วยครับ

หลังนี้จำชื่อไม่ได้

ส่วนหลังนี้จำได้เพราะมีป้ายติดไว้ คำเตือนถึงเพื่อนๆที่ชอบดองรีวิว การดองรีวิวจะทำให้ท่านสูญเสียความทรงจำและรายละเอียดบ้างส่วนหากท่านกลัวหลงลืมควรจดบันทึกไว้ครับ ^______^ อย่าเอาอย่างผม

เหนื่อย-หอบ-ประทับใจ-เหนื่อย-หอบ-ประทับใจ สลับกันไปตลอดการเดินขึ้นมาชมบ้านพักทางฝั่งนี้ของผม ถึงเวลาลงแล้ว

อีกมุม เดี๋ยวกลับลงไปขอทานอาหารเย็นเป็นอันดับแรกเลยครับ

ถึงแล้วแต่ในครั้งนี้ผมเตรียมพร้อมไว้อย่างดี รู้ว่าต้องหอบลงมาเลยสั่งอาหารไว้ก่อนแล้วล่ะครับ ^________^ นัดเวลาทานไว้เรียบร้อย

ผมเลือกทานอาหารเย็นไปพร้อมกับชมวิวของแม่น้ำโขงและแปลงสตรอเบอร์รี่

ชมวิวกันก่อนทานอาหารเย็นครับ

จานแรก สำหรับผมคิดว่าอาหารที่นี่อร่อยทุกอย่าง

ผัดผักสดอร่อยจริงๆ

ต้มข่าไก่ของโปรด

คราวนี้ผมคิดว่าอาหารที่นี้แต่ละจานเยอะมากแล้ว แต่ด้วยความอร่อยปนความหิวหรือความเหนื่อยที่เดินชมรีสอร์ทก็ไม่ทราบครับ ทำให้ผมสั่งสลัดมาอีกจานแถมเยอะมาก อร่อยมากและสดมากๆ แถมยังมีน้ำสลัดทำเองถึง 3 อย่างที่แปลกและต่างจากที่เคยทานคือน้ำสลัดสตรอเบอร์รี่ที่อร่อยสมชื่อฝีมือไร่แสงอรุณจริงๆ

นั่งทานชมวิวแม่น้ำโขงจนดึกเลยทีเดียวครับ

นั่งชมวิวพร้อมพุงกางไป

เดินมาชมบรรยากาศช่วงค่ำด้านหน้า นี้คืออาคารที่ขายของของทางรีสอร์ท

ส่วนทางนี้อยู่ตรงข้ามกันเป็นอาคาร Reception

เดินกลับไปยังโต๊ะที่เรานั่งทานอาหารกันครับ

อีกบรรยากาศ ที่นั่งทานอาหารสบายๆนั่งชมวิวแม่น้ำโขงเพลินเลยทีเดียว

ป้ายด้านหน้าของทางรีสอร์ทอีกบรรยากาศ

กลับมาชมบรรยากาศภายในห้องพักช่วงค่ำกันบ้าง

ภายในอีกมุม

มุมเตียงนอนกันต่อ

โต๊ะนั่งทำงานอีกมุม

ชมวิวแม่น้ำโขงช่วงค่ำ

แปลงสตรอเบอร์รี่

จากที่ทานอาหารมองผ่านไร่ไปจะเห็นบ้านที่พัก

บรรยากาศโต๊ะนั่งทานอาหารชมวิวแม่น้ำโขงช่วงสาย

อาหารเช้าครับ

อีกจาน

สลัดผักสดอร่อย

ซุปข้าวโพดอร่อยครับ

ทานอาหารเช้าไปชมวิวไปมีความสุขจริงๆครับ

แปลงสตรอเบอร์รี่อีกภาพนะครับ

อีกมุม

ดอกไม้สักภาพครับ

สตรอเบอร์รี่อีกสักภาพ

อีกมุม

เดินไปชมแปลงผักซึ่งอยู่ใกล้ๆกับที่ทานอาหาร

ผักกวางตุ้งสดๆเชียว

จะเห็นว่าแปลงผักอยู่ใกล้กับที่ทานอาหารเลยครับ

เดี๋ยวเดินลงไปชมห้องประชุมติดแม่น้ำโขงของที่นี่กันครับ

ระหว่างกำลังเดินลงหันไปมองบ้านพักนิดนึงครับ บรรยากาศดีจริงๆ

นี่ครับห้องประชุมริมน้ำโขง

ยังไม่หยุดที่จะหันมองไปบ้านพักที่เลือกพักในครั้งนี้

หันไปหันมาก็เจอเจ้าตัวนี้ครับ คงมองผมด้วยความงง เลยขอถ่ายมาหน่อย

ลงไปชมกันต่อครับ

ด้านหน้าของห้องประชุมครับ ถ้าจำไม่ผิดจุได้ประมาณ 50 คน

อีกมุม

ประชุมไปชมวิวแม่น้ำโขงไปก็เพลินดีนะครับ

จากจุดนี้มองไปยังบ้านริมโขง

กลับขึ้นบ้านกันต่อครับ เพราะว่าวันนี้ผมคงไม่ขึ้นไปเดินชมบ้านฝั่งนู้นแล้วล่ะครับ ^_________^"

นั่งชมวิวที่ระเบียงบ้านพัก

สายน้ำโขงดูมีเสน่ห์ชวนหลงใหลจริงๆ

อีกมุมกับส่วนของระเบียงบ้าน ที่ที่น่านั่งและน่านอนมากๆ

ภาพสุดท้ายสำหรับรีวิวในครั้งนี้ครับกับมุมด้านหน้า อาคารร้านขายของของที่นี่ ชมรีวิวนี้จบแล้วอย่าลืมตามต่อกับรีวิวครั้งต่อไปของ กัปตันลูกชุบนะครับ

สื่งที่ประทับใจ/จุดเด่น

- รีสอร์ทเน้นความเป็นธรรมชาติและรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจัง
- การตกแต่งและการใช้วัสดุที่นำมาสร้างอาคารบ้านพักหรือสิ่งต่างๆภายในของรีสอร์ท ทุกรายละเอียดสร้างมากจากการใส่ใจและคิดถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
- วัตถุดิบของอาหารโดยส่วนมากแล้วทางรีสอร์ทจะใช้ของที่รีสอร์ทปลูกเอง ทำให้อาหารที่ได้ทานนั้นสดและอร่อยมาก
- บรรยากาศที่ได้จากการพักผ่อนในครั้งนี้ได้ทั้งวิวแม่น้ำโขงและภูเขาทำให้ผ่อนคลายและหายเหนื่อย
- พนักงานและเจ้าของรีสอร์ทให้การต้อนรับและให้บริการอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง

สิ่งที่ไม่ประทับใจ/ควรปรับปรุง/จุดด้อย

- ห้องพักที่ไม่อยู่ติดกับแม่น้ำโขงนั้นอาจไม่เหมาะกับบางท่านที่เดินลำบากหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะจะอยู่ไกลและจะต้องขึ้นไปบนเนินเขาก่อนจะถึงบ้านพัก
- รีสอร์ทอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควรและการเดินทางมาอาจทำให้ลำบากนิดหน่อยกว่าจะถึงรีสอร์ท
- บ้านริมโขงที่ผมเข้าพักนั้น ในส่วนของห้องน้ำจะเป็นแบบ Open และส่วนนั้นจะติดกับทางเดินที่ทำให้เวลาทำธุระอะไรในห้องน้ำแล้วด้านนอกตรงทางเดินจะได้ยินเสียงเราครับ

Create Date : 24 กันยายน 2553
Last Update : 21 ตุลาคม 2553 20:58:12 น.		30 comments
Counter : 11866 Pageviews.
Share Tweet