กัปตันลูกชุบ

กัปตันลูกชุบพาชมรีสอร์ทน้องใหม่ที่เขาใหญ่ The Piano Resort Khao Yai

สวัสดีครับ

ห่างหายไปพอสมควรเลยกว่าจะได้ทำ รีวิวที่ 3 ของปีนี้ งั้นรีวิวครั้งนี้ผมจะขอพาไปพักผ่อนกันแถวเขาใหญ่กันบ้างนะครับ ในทริปนี้ผมได้มีโอกาสไปพักรีสอร์ทเปิดใหม่ ย่านเขาใหญ่ ซึ่งมีชื่อว่า The Piano Resort Khao Yai ที่นี่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 29 ไร่ บนถนนธนะรัชต์ (กิโลเมตรที่ 9) ต้องเลี้ยวเข้าซอยไปหน่อยนะครับ ไม่ได้อยู่ติดถนนเลย ในครั้งนี้ผมมีโอกาสได้เข้าพักในห้องแบบ Deluxe ซึ่งผมซื้อเป็นแพคเกจไว้พร้อมเซตอาหารมื้อค่ำเป็นบาร์บีคิวซีฟู้ด ยังไงเดี๋ยวตามชมบรรยากาศห้องและบรรยากาศในรีสอร์ทกันได้ในรีวิวนะครับ

The Piano Resort Khao Yai มีห้องพัก 3 แบบ คือ The Piano Superior, The Piano Deluxe (ซึ่งเป็นห้องที่ผมพัก), The Piano Suite ในวันนั้นผมเข้าพักที่นี่เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ที่นี่เปิดมาได้ไม่นานนัก ผมคิดว่าเลยทำให้หลายๆอย่างอาจดูยังใหม่อยู่บ้าง และไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการบริการหรือสภาพแวดล้อมภายในตัวรีสอร์ท งั้นในส่วนรายละเอียดและข้อติชมบ้างอย่าง ผมจะขอเอาไปสรุปไว้ท้ายกระทู้เช่นเคยนะครับ ส่วนรีวิวนี้ก็จะมีทริปแทรกมานิดหน่อยเป็นการเที่ยวระหว่างทางก่อนจะเข้าเช็คอินในรีสอร์ท ยังไงลองตามชมกันดูครับ

เขียนมาถึงตอนนี้นึกอะไรไม่ออกแล้วล่ะครับ เอาเป็นว่าเราไปชมรีวิว The Piano Resort Khao Yai ในแบบฉบับของ กัปตัน ลูกชุบ กันเลยดีกว่าครับ

ขอเสริมอีกเรื่องใครมี Facebook แวะมาทักทายพูดคุยกันได้นะครับที่ Facebook- กัปตันลูกชุบ (captain lookchoob) ขอบคุณครับ ^________^

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11780894/E11780894.html



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทริปนี้ผมเดินทางออกจากกรุงเทพเช้าหน่อย ประมาณ 6.00 น. ผมขับรถไปตามทางเพื่อไปยังจุดหมายเรื่อย บังเอิญหันไปเห็น ชื่อผมติดไว้ก่อนนะครับบังเอิญลืม ^ ^'' ดูสวยงาม ต้องขอโทษด้วยที่ผมจำพิกัดไม่ได้ แต่คุ้นๆว่าจะอยู่แถวๆกลางดงฝั่งขาไปเขาใหญ่ครับ



เลยตัดสินใจกลับรถ เพื่อแวะไหว้สักการะสักหน่อย ตอนวันที่ไปยังมีส่วนที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จด้วย แต่เมื่อมองแล้วรู้สึกสะดุดตาสวยงามมากทีเดียวครับ



เมื่อแวะไหว้สักการะเรียบร้อย ผมก็เดินทางไปยังจุดหมายต่อไป



ในครั้งนี้ผมเลือกที่จะแวะเข้ามาเที่ยวยังไร่องุ่นที่มีชื่อว่า GranMonte (กรานมอนเต้ เขาใหญ่) ส่วนในภาพนี้พอเข้ามาด้านในก็จะเจอตำแหน่งที่จอดรถ



มองย้อนกลับไปยังทางที่เข้ามา บรรยากาศของไร่องุ่นดูสวยงามทีเดียว



มาถึงเรียกได้ว่า พอลงจากรถแล้วก็เดินเข้าไร่ได้เลย ^ ^



ช่วงที่ไปเดือนมกราคมมีองุ่นเยอะพอสมควรเลยครับ แต่มาไร่องุ่นแล้วถ่ายรูปใกล้ๆได้ แต่ระวังเรื่องจับต้ององุ่นหน่อยก็ดีนะครับ ถือคติ ดูแต่ตามืออย่าต้องของจะเสียครับผม ^ ^



ส่วนยอดของต้นองุ่น



พอชมต้นองุ่นได้สักพัก ผมเลยเดินข้ามไปยังส่วนของ ร้าน Montino



ร้าน Montino เป็นร้านขายของ ซึ่งของในร้านจะผลิตขึ้นมาจากทางไร่กรานมอนเต้เอง



หลังจากนั้นก็เก็บภาพและเดินชมไร่องุ่นอีกนิดหน่อย



องุ่นสดๆจากต้น ^ ^



บรรยากาศระหว่างทางเดินชมไร่ ไม่นานผมก็เดินทางออกจากที่นี่ และดูเวลาแล้วเที่ยงพอดี



เลยตรงมาแวะทานมื้อเที่ยงที่ร้านนี้ครับ ครัวเขาใหญ่ ผมเองตั้งใจทุกครั้งว่าจะถ่ายหน้าร้านมาให้ได้ แต่น่าเข็กหัวตัวเองนัก ถ้าสังเกตุดูภาพผมแทบจะไม่มีหน้าร้านเลย เพราะเหตุผลเดียวครับเวลาลงจากรถก็รีบเข้าร้าน หิว พอออกจากร้านก็ดันลืม แต่ตั้งใจว่าทริปหลังๆจะพยายามเก็บหน้าร้านมาฝากกันนะครับ ^ ^ จานแรกเป็นไส้กรอก ไม่ใช่เมนูจากครัวของทางร้านนะครับ รู้สึกจะเป็นของ EZ'S



ครัวเขาใหญ่ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ ฝั่งขาเข้าเข้าใหญ่ ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือนะครับ ส่วนจานนี้มาจากครัวของทางร้านแฮมกระดูกอ่อนครับ



จานที่สามเป็นแฮมพริกไทยดำ



จานที่สี่เป็นยอดดอกทานตะวันผัด มื้อนี้มีข้าวอีก 1 จาน โค้กเล็ก 2 ขวด น้ำแข็ง รวมแล้วราคาอาหารที่ร้าน 490 บาท ส่วนไส้กรอกของ EZ'S 150 บาทครับ



ทานเสร็จยังไม่ถึงเวลาเช็คอินรีสอร์ท ผมเลยแวะมาเดินเที่ยวที่ Palio คั่นเวลาไปก่อน



เดินเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ แม้จะร้อนไปนิด แต่ที่นี่ก็ไม่เคยขาดผู้คนเลย



บรรยากาศในส่วนของตึกบางมุมของที่นี่ครับ



ส่วนตึกนี้เป็นส่วนด้านหน้าที่พักของ Palio



ตึกนี้เดินๆอยู่มันดึงดูดผมเหลือเกิน จำได้ว่าไปทีไรก็อดมองข้ามไม่ถ่ายตึกนี้มาไม่ได้สักที



มาเก็บอีกมุม เหมือนส่วนนี้จะถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของที่นี่น่าจะได้นะครับ



วันที่ไปคนเยอะพอสมควรเลยพยายามหามุมที่จะสามารถหลบคนได้บ้าง



เดินเที่ยวกันต่อ



ผมว่าตึกนี้ดูสวยดีนะครับ เป็นอีกตึกที่ไปทีไรก็ต้องถ่ายกลับมาทุกครั้ง



อีกมุม เดินเที่ยวชมไปก็เก็บภาพไปเรื่อยล่ะครับ



ผมคงต้องลา Palio ไว้ที่ภาพนี้แล้วล่ะครับ มีโอกาสคงได้กลับมาเที่ยวที่นี่ใหม่



ออกจาก Palio ผมก็มุ่งตรงมายังรีสอร์ทซึ่งเป็นจุดหมายของผมในครั้งนี้ The Piano Resort Khao Yai ที่นี่ชื่อก็น่าจะฟ้องแล้วว่าเกี่ยวกับเปียโน เกี่ยวกับเสียงเพลง เข้ามาปุ๊ปผมเลยเจอตัวโน๊ตเลย ^ ^



บรรยากาศลานจอดรถ จะอยู่ใกล้กับ Lobby เลยครับ เห็นภาพแล้วรู้สึกร้อนใช่ไหมครับ ^ ^



ส่วนจุดนี้จะอยู่ใกล้บริเวณลานจอดรถครับ แวะไหว้สักการะกันสักหน่อย



เรียบร้อยแล้วผมก็เดินเข้าไปยัง Lobby เพื่อทำการเช็คอิน



ตอนไปผมพนักงานไม่ได้นำ Welcome drink มาให้ผม แต่ผมสังเกตุว่าจะมีน้ำกระเจี๊ยบให้กดดื่มเอง เลยคิดว่าน่าจะเป็นตรงนั้นมั้งครับ พอทำการเช็คอินไม่นาน พนักงานก็พานั่งรถกอลฟ์ไปส่งยังอาคารที่พักครับ ซึ่งในครั้งนี้ผมเข้าพักห้องแบบ Deluxe ในส่วนของห้องนี้จะตั้งอยู่ในอาคารซึ่งเหมือนกับคีย์เปียโนนี่ล่ะครับ และถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ในส่วนของห้องแบบ Deluxe นั้นจะจำลองเหมือนเราอยู่ใต้คีย์เปียโน



เดินเข้าห้องกันครับ ผมต้องขอบอกก่อนว่าพอดีถ้าใครอยากเข้าพักและต้องการห้องที่มีเตียง King นั้น ควรจะรีเควสไปก่อนนะครับ เพราะจากที่ผมสอบถามจากพนักงานเหมือนห้องแบบ Deluxe จะมีไม่กี่ห้องที่มีเตียง King อยู่



พาเข้ามาชมห้องนอนกันครับ ส่วนวันนี้ผมได้เตียงเดี่ยว แต่เป็นเตียงเดี่ยวที่มีขนาดประมาณ 4.5 ฟุต ได้ครับ



บรรยากาศเตียงนอน หมอนเข้ากับบรรยากาศของชื่อรีสอร์ท สำหรับเตียงนอนนั้นผมขอติหน่อย มันดูไม่ค่อยสะอาดเลยครับมีรอยหมึกเลอะ และเจอขนบนเตียงด้วยหนึ่งเส้น ><



ส่วนนี้จะแยกออกจากห้องนอนและระเบียงครับ ตรงส่วนนี้จริงๆแล้วเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอก่อนเลย



และจะแบ่งครึ่งกันระหว่างส่วนของห้องน้ำ และส่วนของตู้เสื้อผ้าและมินิบาร์



อ่างล้างหน้าตรงมุมนี้จะคั่นกลางระหว่างห้องอาบน้ำและห้องขับถ่ายครับ ^ ^



ถัดมาก็จะเป็นห้องขับถ่ายอย่างที่บอก



ส่วนนี้เป็นข้าวของเครื่องใช้ที่ตั้งไว้ให้บริเวณตู้เสื้อผ้า



เสื้อคลุมของที่นี่



มุมชากาแฟที่มีบริการให้ฟรีภายในห้อง



มุมมินิบาร์



สำรวจเรียบร้อย เราก็มากันต่อยังส่วนของห้องนอนอีกรอบ



โต๊ะเก้าอี้ชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งภายในส่วนของห้องนอนเช่นกันครับ



บานประตูห้องนอนเปิดออกมาจะมาทะลุบริเวณระเบียงด้านนอกของห้องพักครับ



หลังจากสำรวจภายในห้องแล้วเดี๋ยวไปสำรวจด้านนอกกันสักหน่อยครับ ส่วนภาพนี้เป็นบริเวณภายนอกรีสอร์ทซึ่งมองเห็นจากประตูหน้าห้องผมครับ



เดินออกมาก็จะเจอห้องพักแบบอื่นๆ



ไม่แน่ใจว่าเป็นห้องแบบไหน แต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นแบบ Superior ครับ หลังละสองห้อง



เดินผ่านมายังระแวกห้องพักแบบอื่น ซึ่งห้องพักแบบอื่นนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องพักแบบ Deluxe ที่ผมเข้าพัก มีน้ำเป็นตัวคั่นกลาง แต่ตอนผมไปนั้นเหมือนรีสอร์ทยังไม่พร้อมเท่าที่ควรดูแห้งแล้งไปหน่อย



เดินไปยังส่วนด้านหน้าต่อ ที่เห็นเป็นหลังๆนั้น ผมเดาว่าน่าจะเป็นห้องคาราโอเกะครับ



ส่วนอาคารที่เห็นนั้นเป็นห้องอาหาร จะแบ่งเป็นส่วนของบาร์รวมถึง Lobby และอื่นๆ ด้วยครับ



มุมห้องอาหาร



เดินไปดูภายในห้องอาหารกันครับ



ห้องอาหารผมรู้สึกว่าจะแตกต่างจากที่รีสอร์ทเคยโฆษณาไว้ในโบรชัวร์พอสมควรเลยทีเดียว อย่างที่เพื่อนๆเคยรีวิวไว้ เหมือนโรงอาหารเลยครับ ^^



พอดีวันที่ไปทางรีสอร์ทมีการจัดงานรำลึกถึง Elvis Presley พอดีครับ โดยรีสอร์ทได้แจกบัตรเข้างานให้ฟรี 2 ใบ ราคาใบละ 200 บาท



ไปที่อื่นกันต่อ หากออกจากห้องอาหารจะสามารถเดินตรงไปทางนี้เพื่อไปยังห้องแบบที่ผมพักได้เลย ไม่จำเป็นต้องเดินไประแวกห้องพักแบบอื่นครับ



ไม่ไกลจากห้องอาหารเท่าไหร่ จะเป็นสระว่ายน้ำส่วนกลาง ผมชอบดีไซน์ของสระมีลูกเล่นดูคล้ายคีย์เปียโน



มุมนั่งเล่นนอนเล่นริมสระ



เนื่องจากตอนเข้ามาที่ Lobby วุ่นวาย ยังไม่ได้ลองทานน้ำกระเจี๊ยบ เลยเดินไปกดมานั่งทานเอง ^ ^ ส่วนห้องที่ได้ในครั้งนี้ก็ตามเบอร์ที่ออกนี่ล่ะครับ แต่ผมอยากจะแนะนำว่าห้องเลขต้นๆก่อนหน้าผมน่าจะมีวิวระเบียงที่เป็นส่วนตัวกว่าครับ



เสียดายที่ดูร้อนและแห้งแล้งไปนิด คือผมว่าต้นไม้มีพอสมควรนะครับ แต่มันยังไม่โตเท่าไหร่และบางส่วนก็แห้งตายไปเยอะพอสมควร





บริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลางจะมีโต๊ะอาหารอยู่นิดหน่อยครับ



มุมสระว่ายน้ำอีกสีกรูป ถ้าร่มรื่นกว่านี้บรรยากาศว่ายน้ำไปชมภูเขาไปก็คงลงตัวดีนะครับ



อีกมุมกับบรรยากาศริมสระว่ายน้ำส่วนกลาง



โต๊ะนั่งเล่นบริเวณสระว่ายน้ำ



ผมพามาชมโต๊ะทานอาหารด้านในกันต่อ พอดีตอนผมไปถ้าไม่นั่งบริเวณสระก็จะมีตรงส่วนนี้อีกที่ที่สามารถนั่งทานอาหารกันได้ตอนมื้อค่ำ เป็นลานเล็กๆกลางแจ้งครับจะไม่มีหลังคา



มีมุมเก้าอี้ให้นั่งเล่นด้วยตรงส่วนนี้



เดินเข้ามาก็จะเจอบาร์



ถัดจากส่วนของบาร์ก็จะเป็นส่วนของ Lobby และยังสามารถทะลุไปยังห้องอาหารได้ด้วย คอมพิวเตอร์จะอยู่บริเวณ Lobby มีให้ใช้บริการได้ฟรี



มุมนี้ประดับอยู่ในบริเวณ Lobby



อีกภาพครับ



ชมเสร็จผมก็เดินทะลุมาด้านนอกอาคาร



ระหว่างทางเดินกลับห้อง มองไปยังห้องพักแบบอื่นๆ



ส่วนอาคารนี้จะเป็นห้องจัดประชุมครับ เดินมาอีกนิดก็จะเป็นตึกห้องพักผมแล้วล่ะ



ภาพนี้มองจากระเบียงห้องพักผมนะครับ



ใกล้ถึงค่ำแล้วล่ะ วันนี้บรรยากาศดีทีเดียว



แอบส่องไปยังห้องพักที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ผมเดาว่าห้องแบบนี้น่าจะเป็นห้องพักแบบ Superior



พักผ่อนได้สักพักก็ถึงเวลานัดทานมื้อค่ำ ผมเลยเดินไปยัง Lobby อย่างที่บอกในวันนั้นมีการจัดงาน Elvis Presley ที่ห้องอาหารพอดี



เดินเข้ามด้านในตรงลานนี้ทางรีสอร์ทได้จัดไว้ให้ทานอาหารค่ำกันเรียบร้อย แต่ของผมไม่ทานตรงนี้นะครับ ผมขอทานที่ริมสระว่ายน้ำแทน ไม่ใช่เรื่องมากแต่พนักงานถามและผมเลือกตรงนู้นครับ ^ ^



ผมนั่งตรงบริเวณส่วนนี้ คนล่ะบรรยากาศแต่ก็น่านั่งทั้งสองที่เลย ^ ^



ถ่ายจากโตีะอาหาร เก็บรูปเรื่อยๆ ระหว่างรอทานอาหาร



อย่างที่บอกว่าผมซื้อแพคเกจบาร์บีคิวซีฟู้ดกับทางรีสอร์ทไว้ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะ 900 บาท ไม่เยอะมากผมว่าดูน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับราคา และกุ้งไม่ค่อยสด (ความคิดส่วนตัวนะครับ) สลัดจานใหญ่ทีเดียว



หน้าตาอย่างในรูป ^ ^



ทานอิ่มก็เข้ามาเก็บบรรยากาศด้านในต่อ



Lobby



ส่วนนี้อยู่บริเวณ Lobby ครับ เป็นที่ขายของของทางรีสอร์ท



ส่วนของ Reception



บรรยากาศ Lobby อีกรูปก่อนเดินกลับห้องพัก ส่วนงาน Elvis Presley ผมได้แค่ไปยืนส่องดูนิดหน่อยไม่ได้เข้าไปชมครับ เลยไม่มีรูปวันงานมาฝากกันเลย



ตัดสินใจเดินกลับไปพักผ่อนที่ห้องดีกว่า



หันกลับไปมองสถานที่จัดงาน หลังจากนั้นก็กลับเข้าห้องครับ



เช้าวันนี้ตื่นแล้วก็ออกมาถ่ายตรงระเบียงก่อนเลย จากภาพจะเป็นฝั่งตรงข้ามระเบียงห้องผม อย่างที่ผมบอกว่าฝั่งห้องผมระเบียงจะไม่ค่อยส่วนตัวสักเท่าไหร่ถ้าหากห้องอีกฝั่งมีแขกเข้าพัก ผมแนะนำให้เลือกห้องที่มีตัวเลขน้อยกว่า 220 ซึ่งผมเข้าพักห้องนี้



หิวแล้วเดินไปทานข้าวมื้อเช้ากันครับ



ลักษณะห้องแบบ Deluxe ที่ผมเข้าพักในครั้งนี้



มาสายไปหน่อยครับ แขกเข้าพักเยอะทีเดียวเลยเก็บภาพเต็มๆห้องอาหารมาฝากไม่ได้



อาหารเช้ามีสลัด ข้าวต้ม ข้าวสวยมีกับข้าวประมาณสองอย่าง เมนูไข่ ขนมปัง ไส้กรอก แฮม พวกซีเรียลต่างๆ น้ำมีน้ำส้ม น้ำองุ่น ที่จำได้ประมาณนี้นะครับ



จานหลักที่ตักมาครับ



ข้าวต้มอีกสักถ้วย



เก็บบรรยากาศภายในห้องอาหารเพิ่มเติมอีกหน่อย ^ ^



ก่อนกลับถ่ายช้อนส้มมาฝากหน่อย แต่ตั้งสลับกันครับ (ไม่ใช่รีสอร์ทตั้งสลับนะครับ ผมตั้งเอง ^ ^)



กินเสร็จก็เดินกลับห้อง พร้อมเก็บบรรยากาศระหว่างทางด้วย



มาที่นี่ผมชอบตันไม้ต้นนี้จัง จากนั้นผมก็กลับห้องพัก



คงต้องทิ้งท้ายที่นี่ไว้ที่ภาพนี้แล้วล่ะครับ ภาพนี้เป็นมุมระหว่างห้องพัก Deluxe และห้องประเภทอื่นจะมีสระน้ำกั้นกลางอยู่ แต่น้ำน้อยไปนิดนะครับ ^ ^



พอผมเช็คเอ้าท์เรียบร้อย รู้สึกตัวเองเริ่มหิวเลยตรงดิ่งไปทานอาหารที่ร้านบ้านไม้ชายน้ำสักหน่อย



บรรยากาศส่วนหนึ่งของร้าน



มาถึงวันนี้แขกในร้านเยอะพอสมควร แต่รอคิวไม่นานครับ



หลนปลาอินทรีย์



ถ้าจำไม่ผิดจานนี้เป็นยำกุ้งกรอบมั้งครับ ลืมไปแล้ว T T



ปิดท้ายด้วยต้มข่าปลาสลิด มื้อนี้จำราคาไม่ได้แล้วครับ ลืมไปจริงๆ แต่ไม่น่าจะเกิน 500 บาทครับ



ก่อนออกจากร้านเดินเที่ยวดูของในร้านต่ออีกหน่อย แล้วก็เดินทางออกจากบ้านไม้ชายน้ำครับ



จุดหมายต่อไปคือที่นี่ ถึงแล้วล่ะครับ



วันนี้ไม่ได้มาทานอาหารนะครับ แวะมาแค่ทานไอศกรีม



ที่นี่มีคนเยอะตลอดเลยครับ ผมมาทีไรไม่เคยเห็นคนน้อยเลย



นั่งทานด้านในไม่ได้ก็เลยออกมาหาที่สงบนั่งทานด้านนอก พอจะมีที่ว่างอยู่ ^ ^



ส่วนวันนี้ก็ทานกันคนละถ้วยเช่นเคย ^ ^

สำหรับรีวิวในครั้งผมคงต้องจบกันที่ภาพนี้แล้วล่ะครับ ขอบคุณที่ตามชมแล้วพบกันใหม่รีวิวครั้งหน้านะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม ^___________^




สื่งที่ประทับใจ/จุดเด่น
- มี wifi ให้ใช้ สัญญาณค่อนข้างดี
- ระเบียงมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร เพราะผนังกั้นห้องทำแบบปิด ทำให้ไม่เห็นห้องข้างๆ แม้จะได้ยินเสียง
- พนักงานค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว โดยเฉพาะพนักงานที่ห้องอาหาร เว้นแต่ตอนเช็คอินไม่มีใครมาช่วยยกกระเป๋า


สิ่งที่ไม่ประทับใจ/ควรปรับปรุง/จุดด้อย
- บรรยากาศช่วงนี้ค่อนข้างแห้งแล้งมาก อาจเป็นเพราะเพิ่งเปิดต้นไม้ยังไม่ทันโต โชคดีที่ช่วงที่ไปอากาศกำลังดี เลยไม่ร้อนเท่าไหร่ อีกอย่างสระน้ำหน้าห้องก็ไม่มีน้ำ เลยดูไม่สวย
- อย่างที่ติไปตอนต้น ผ้าปูที่นอนถือว่าไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ ส่วนชักโครกก็กดไม่ค่อยลง ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะห้องที่พักรึเปล่า
- ที่นี่มีเตียง double bed น้อยมาก เพราะฉะนั้นควรต้องรีเควสไว้ก่อนเนิ่นๆ
- ห้องที่พักจะอยู่ตรงข้ามกับห้องอีกแบบ ซึ่งหากมีคนเข้าพักเยอะ อาจไม่เป็นส่วนตัวได้ แนะนำว่าควรเลือกห้องเบอร์ต้นๆ น่าจะโอเคกว่า (ผมพักห้อง 220)
- ผมซื้อ voucher ที่มีอาหารค่ำด้วยราคา 900 บาท ซึ่งผมคิดว่าไม่คุ้มกับราคาเท่าไหร่ อาหารทะเลไม่ค่อยสด และน้อยไปนิด (ความเห็นส่วนตัว)




 

Create Date : 07 มีนาคม 2555
6 comments
Last Update : 7 มีนาคม 2555 16:00:53 น.
Counter : 7315 Pageviews.

 

ตามไปเที่ยวเขาใหญ่ค่ะ ช่วงนี้อากาศคงร้อนน่าดู

Piano resort ใหม่มากๆๆ สะดาดสะอ้าน น่าพักเชียวค่ะ

 

โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง 7 มีนาคม 2555 16:27:48 น.  

 

ไม่ได้แวะร้านไอติมแดรี่ควีนนานแล้ว ถ้วยละเท่าไหร่แล้วคะ หลังสุดที่ไปน่าจะ 50-55 เนี่ยค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 7 มีนาคม 2555 21:05:39 น.  

 

สวัสดีตอนดึกๆ ครับ .....

The Piano รีสอร์ทน้องใหม่ เพิ่งได้ยินชื่อจากบล็อกนี้เองครับ .....

หลังคาห้องพักทำเป็นรูปคีย์เปียโน ดูเหมือนจะเก๋ไก๋

แต่มองไปมองมาตรงส่วนตัวห้องมันให้ความรู้สสึกรู้สึกเหมือนเป็นเรือนแถวมากไปหน่อยนะครับ

ห้องแบบเป็นหลังๆ นั่นดูดีกว่าเยอะ .....

 

โดย: NET-MANIA 7 มีนาคม 2555 23:39:25 น.  

 

 

โดย: Kavanich96 8 มีนาคม 2555 10:01:12 น.  

 

 

โดย: Kavanich96 8 มีนาคม 2555 10:01:49 น.  

 


จำได้ว่างานไทยเที่ยวไทย คราวก่อน พี่หยิบแผ่นพับที่พักที่นี่มา สวยมากแผ่นพับนะ รู้เลยว่า้ต้องแพง...เขาใหญ่ที่พักเยอะมาก แต่ราคาก็ไม่ถูกลงซักที


พี่ไปแวะไร่กรานต์มอนเต้ทีไร เป็นช่วงลูกปิดเทอมตลอด องุ่นไม่เคยมีเลยค่ะ

บ้านไม้ชายน้ำ บางคนไปกินว่าอร่อย บางคนว่าไม่อร่อย พี่ว่าคงแล้วแต่เมนูที่เราสั่งด้วยเนาะ



สวัสดีวันศุกร์ค่ะคุณกัปตัน



 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 9 มีนาคม 2555 14:27:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กัปตันลูกชุบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กัปตันลูกชุบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.