ไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองชมพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จังหวัดสุพรรณบุรี
รีวิวคราวนี้เป็นการรีวิวพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรซึ่งตั้งอยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี นี่เป็นการไปเยือนเมืองสุพรรณอีกครั้งของผม ในวันที่ 8 สิงหาคม 2552 แต่คราวนี้ผมตั้งใจไปที่นี่โดยเฉพาะครับ แต่แอบเสียดายตรงที่ไม่มีโอกาสได้ชม หอระฆังสัมฤทธิ์ศาลากลางน้ำเจ็ดชั้น และศาลาเทียนอันเหมิน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงก่อนผมไปช่วงเช้าผมได้ติดต่อขอซื้อบัตรเข้าชมก่อนในช่วงบ่ายเลยทำให้ไม่ต้องรอคิวครับ และเมื่อไปถึงไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเรียบร้อยเข้าไปติดต่อรับบัตรและก็เข้าชมได้เลย ค่าบัตรเข้าชมสำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก199 บาท และชาวต่างชาติ 499 บาท เด็ก 299 บาท ครับ ส่วนเวลาเข้าชมจะจัดเป็นรอบๆครับ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. หยุดทุกวันจันทร์-อังคารนะครับ
ลองชมรีวิวศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จังหวัดสุพรรณบุรี ในแบบสั้นๆของผมกันดูนะครับ
แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/10/E8435501/E8435501.html
เริ่มกันด้วยที่เห็นนั้นคือพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรมองจากที่จอดรถครับ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร เป็นอาคารทรงมังกรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในเป็นห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์อารยธรรมของชาวจีนย้อนหลังถึง 5,000 ปีครับ
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรครับ อยู่ใกล้กันนิดเดียว
ประตูทางเข้ามองจากด้านในของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
เข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรกันครับ โซนด้านหน้าระหว่างรอเข้าชมแต่ละห้องจะมีการตกแต่งให้ได้ชมกันก่อนครับ
มังกรทองจัดแสดงโชว์ให้ชมอยู่โซนด้านหน้าเช่นกันครับ
แต่ละห้องจัดแสดงจะเป็นทางเข้าลักษณะแบบนี้ครับ ผมอาจจะเก็บรายละเอียดได้ไม่หมดทุกห้องนะครับ แต่ที่ผมทราบมีทั้งหมด 21ห้อง ห้องนี้เป็นห้องแรกห้องฉายภาพยนตร์ครับ
ภายในครับ
ถัดมาที่ห้อง 2 เลยนะครับ ห้องนี้เป็นห้องเทพนิยาย (กำเนิดโลก)
ยังคงอยู่ที่ห้องเดิมนะครับ เรื่องจะเป็นประมาณว่า ชาวจีนเชื่อว่าโลกถูกสร้างขึ้นโดย ''ผานกู่" ซึ่งสละชีวิตแยกแผ่นดินแผ่นฟ้าออกจากกัน
ห้องที่ 3 ห้องเทพนิยาย (กำเนิดมนุษย์) เรื่องจะเป็นประมาณว่า เทพธิดาหนี่วาปั้นชาย-หญิงคู่แรก ขึ้นจากดินแม่น้ำเหลืองแล้วทรงชุบเสกให้มีชีวิต สืบลูกหลานต่อมาถึงปัจจุบัน เลยทำให้เป็นเหตุผลที่ชาวจีนมีผิวสีเหลืองครับ
น้ำจากแม่น้ำเหลืองครับ
ไปต่อกันเลยนะครับกับห้องที่ 4 มีชื่อว่าห้องตำนาน (เสินหนง) บิดาแห่งสมุนไพรและยังเป็นผู้ค้นพบใบชาด้วยนะครับ
ห้องที่ 5 ห้องตำนาน (ปฐมกษัตริย์) "หวงตี้"-''เอี๋ยนตี้" ผู้นำชนเผ่า ผู้ร่วมก่อสร้างแผ่นดินจีน เมื่อ 5,000 ปี ถือเป็นปฐมกษัตริย์ที่ชาวจีนยกย่อง เรียกตนเองว่า "ลูกหลานเอี๋ยน-หวง"
ป้ายสุสานเอี๋ยนตี้
บรรยากาศภายในห้องครับ
รถเข็มทิศ
ต่อกันที่ห้องถัดไปเลยครับ ห้องที่ 6 ห้องราชวงศ์เซี่ย-ซาง ตำนานปลาหลี่ฮื้อกลายเป็นมังกร ''ต้าอวี่" ผู้ค้นพบการแก้ปัญหาอุทกภัยแม่น้ำเหลือง ยุคแห่งการค้นพบสำริดและอักษรกระดองเต่า อักษรจีนยุคแรกในประวัติศาสตร์
จำลองแม่น้ำเหลืองครับ
จำลองมังกรอยู่เคลื่อนไหวอยู่เหนือศีรษะครับ
รูปปั้นต้าอวี่
อีกสักรูปครับกับห้องนี้
ต่อครับห้องที่ 7 นั้นผมไม่มีรูปถ่ายเลยครับ คือห้องราชวงศ์โจว ยุคแห่งนักคิด นักปราชญ์ "ร้อนสำนักประชัน" ผมขอไปห้องที่ 8 ห้องราชวงศ์ฉิน จิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้สร้างกำแพงเมืองจีน และสุสานทหารดินเผ่า
รูปปั้นจำลองหุ่นทหารดินเผาอยู่ใต้พื้นครับ
ห้องที่ 9 ห้องราชวงศ์ฮั่น ยุคแห่งความรุ่งเรืองและความภาคภูมิใจทำให้คนจีนเรียกตนเองว่า "ชาวฮั่น" จุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธนิกายมหายานในประเทศจีน
ห้องที่ 10 ห้องสามก๊ก แต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในราชวงศ์ฮั่น ช่วงที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นสามก๊ก ในห้องนี้ได้นำเหตุการณ์ยุทธนาวีที่ผาแดง ตอนโจโฉแตกทัพเรือมาแสดงให้ชมครับ
เหตุการณ์แสดงเล็กๆน้อยๆครับ
ต่อครับห้องที่ 11 ห้องราชวงศ์สุย ปกครองแผ่นดินจีนแค่ช่วงสั้นๆ ผลงานสำคัญคือ การขุดคลอง "ต้าอวิ่นเหอ" นับพันกิโลเมตรเพื่อเป็นเส้นทางประพาสของฮ่องเต้ จนกลายเป็นเส้นทางการค้าทางน้ำที่สำคัญในเวลาต่อมา
ห้องที่ 12 ห้องราชวงศ์ถัง ยุคแห่งความรุ่งแรือง ตำนานวัดเส้าหลิน บูเชคเทียนฮ่องเต้หญิงองค์แรกและองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีนหยางกุ้ยเฟย หญิงงามได้รับการเปรียบเปรยว่า " มวลผกาละอายนาง "
ผมคิดว่าน่าจะเป็นหยางกุ้ยเฟย
บูเชคเทียนฮ่องเต้หญิง
ห้องที่ 13 ห้องราชวงศ์ซ่งเหนือ (เปาบุ้นจิ้น) ผู้ทรงความยุติธรรมแห่งศาลไคฟง มีหุ้นแสดงการตัดสินประหารราชบุตรเขยให้ได้ชมกันครับ
ห้องที่ 14 ห้องราชวงศ์ซ่งใต้ (งักฮุย) ขุนพลผู้รักชาติ ถูกกังฉินใส่ร้ายจนเสียชีวิตด้วยสุราพิษพระราชทานที่มาแห่งขนมปาท่องโก๋หรือ "อิ้วจาก้วย" ที่ใช้แป้งเป็นสัญลักษณ์ของกังฉินผัวเมียนำมาทอดน้ำมันขบเคี้ยวระบายความแค้น
ห้องที่ 15 ห้องราชวงศ์หยวน ชาวจีนถูกปกครองโดยพวกมองโกลอย่างกดขี่ จึงรวมตัวกันรุกขึ้นต่อต้าน สอดสาสน์ลับใส่ขนมเป็นที่มาแห่งตำนานขนมไหว้พระจันทร์ จำลองสะพานมาร์โคโปโล และหมู่บ้านอายุราว 700 ปี ให้ได้ชมกัน
ใต้สะพานจะเป็นหมู่บ้านจำลอง ลืมบอกไปครับว่าที่นี่ต้องสวมถุงครอบรองเท้าไว้ตลอดการเดินชม โดยจะมีเจ้าหน้าที่แจกให้ก่อนทางเข้าชมเลยครับ
ห้องที่ 16 ห้องราชวงศ์หมิง (เจิ้งเหอ) มหาขันทีผู้รับบัญชาการฮ่องเต้ ผู้นำกองทัพเรือมหาสมบัติ "เป่าฉวน" ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเดินเรือคนสำคัญของโลก ตำนานแห่งเทพเจ้าซำปอกง
ห้องที่17 ห้องราชวงศ์หมิง (เครื่องลายคราม) เครื่องกระเบื้องเคลือบสีขายเขียนลายน้ำเงิน เอกลักษณ์อันโดดเด่นที่รู้จักกันทั่วโลก และยังมีการจัดสวนจีนรวมถึงเครื่องเรือนอันงดงามด้วยศิลปะ
ห้องที่ 18 ห้องราชวงศ์ชิง (โรงงิ้ว - โรงฝิ่น) มีการแสดงงิ้วจำลองเหตุการณ์ปลายราชวงศ์ชิง เมื่อฝิ่นเป็นเหตุทำให้ชาวจีนเป็นคนป่วยแห่งเอเชียตะวันออกก่อให้เกิดสงครามฝิ่นอันนำไปสู่การปล่อยเกาะฮ่องกงให้เช่านานถึง 99 ปี
อีกมุมภายในห้องนี้ครับ
มุมถ่ายรูปอีกก่อนถึงห้องต่อไปครับ
ชมห้องต่อไปกันต่อครับ ห้องที่ 19 ห้องราชวงศ์ชิง (จักพรรดิ์องค์สุดท้าย) "ปูยี" ฮ่องเต้วัย 3 ชันษา ผู้ปิดตำนานการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ "โอรสแห่งสวรรค์" อันยาวนานกว่า 2,000 ปี
ห้องที่ 20 ห้องยุคสาธารณรัฐ จากซุนยัดเซ็ดผู้นำการปฏิวัติโค่นล้มระบบฮ่องเต้เปลี่ยนจีนเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ มาถึงเหม๋าเจอตุงผู้นำประเทศจีนเข้าสู่สังคมนิยม เปลี่ยนผ่านสู้เติ้งเสี่ยวผิงผู้ปฏิวัติจีนเข้าสู่ยุค 4 ทันสมัย กระทั่งกลายเป็นมหาอำนาจของโลกประเทศหนึ่งในปัจจุบัน
มาถึงห้องสุดท้ายครับ ห้องที่ 21 ชาวจีนในประเทศสยามประวัติความเป็นมาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ต้นกำเนิดตระกูลแซ่ต่างๆ สร้างฐานะเป็นปึกแผ่นภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ความภาคภูมิใจของลูกหลานพันธุ์มังกร
รูปส่งท้ายห้องนี้ครับ
รูปปั้นที่ตั้งโชว์บริเวณก่อนถึงทางออกซึ่งเป็นจุดขายของที่ระลึก
ทางเดินออกไปด้านหน้าครับ
ดอกไม้ที่อยู่โซนด้สนหน้าสักรูปนะครับ
รูปสุดท้ายนะครับ ด้านหน้าของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
การไปเมืองสุพรรณในครั้งนี้ของผมเป็นการไปเป็นครั้งที่สอง และเมืองสุพรรณก็ทำให้ผมประทับใจอีกครั้งกับการไปเยี่ยมชมของผมในครั้งนี้ ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ทั้งสถานที่และการจัดแสดงผมคิดว่าน่าสนใจครับ และจัดการเข้าชมได้อย่างเป็นระเบียบจัดสรรแบ่งโซนได้ดี ผมคิดว่าต่อไปที่นี่จะเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดคนที่ไปเที่ยวเมืองสุพรรณแน่นอนครับ และผมเชื่อว่าไม่ว่าผมจะไปเมืองสุพรรณสักกี่ครั้งผมก็คิดว่าเมืองสุพรรณก็มีอะไรให้น่าเที่ยวชมอีกเยอะที่เดียวเชียวครับ
*ข้อมูลทั้งหมดผมได้อ้างอิงจากแผ่นพับที่ทางพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรแจกให้ก่อนเข้าชมครับ*
Create Date : 14 ตุลาคม 2552 |
|
10 comments |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2554 11:30:26 น. |
Counter : 5005 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณนะคะ ที่แบ่งปัน
รูปสวยมากค่ะ