กัปตันลูกชุบ

กัปตันลูกชุบพาเที่ยว Jim Thompson Farm , นครราชสีมาครับ

สวัสดีครับ Happy Chinese New Year ทุกคนนะครับ

รีวิวครั้งนี้ผมจะพาไปเที่ยวชม Jim Thompson Farm กันครับ ที่นี่ภายใน 1 ปีจะเปิดให้เข้าชมกันได้แค่หนึ่งครั้งเท่านั้นครับ ในปีนี้นั้นเริ่มเปิดให้ชมเมื่อวันที่ 18ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 9 มกราคม 2554 แต่ในตอนที่ผมไปนั้นทางฟาร์มประกาศเปิดช่วงเวลาให้เข้าชมเพิ่มแต่จะให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ของช่วงวันที 15 มกราคม ถึง 13 กุมภาพันธ์ 2554 ครับ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. เพราะฉะนั้นเสาร์อาทิตย์ยังมีเวลาไปเที่ยวกันอยู่นะครับ

การไปเที่ยวจิม ทอมป์สัน ฟาร์มครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเลยล่ะครับ ตอนที่ไปนั้นอากาศดีมากจนการเที่ยวชมฟาร์มไม่รู้สึกร้อนเลยทีเดียว ทั้งๆที่แดดก็แรงพอสมควรเลยล่ะครับ ผมว่าการจัดการและการจัดตกแต่งหลายๆอย่างของที่นี่ทำได้ดีมากๆครับ ในหลายๆจุดมีการอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี

ส่วนการเดินทางนั้นผมไปโดยเริ่มจาก กรุงเทพไปสระบุรี ผ่านปากช่อง ไปทางอำเภอสีคิ้ว แล้วไปทางอำเภอโชคชัย (ทางหลวงหมายเลข 24) พอเข้าเส้นนี้แล้วให้สังเกตทางซ้ายมือจะเจอร้านอาหารตอไม้เมื่อเห็นแล้วให้กลับรถครับ พอกลับรถแล้วให้เลี้ยวขวาไปตามถนนมะเกลือใหม่ - บะใหญ่ (ซึ่งถนนนี้จะอยู่ตรงข้ามกลับร้านอาหารเลยครับ) จากนั้นขับไปตามป้ายเรื่อยๆครับ ป้ายของทางฟาร์มจะเป็นป้ายสีแดงเล็กๆอาจจะต้องสังเกตกันหน่อย แต่ก็จะมีบอกเป็นระยะเยอะพอสมควรเลยครับ ต่อจากนั้นขับไปตามถนน 2072 ไม่นานจะถึงจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เอาล่ะครับเกริ่นมาเยอะแล้ว ลองไปชมรีวิว จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ในแบบฉบับของกัปตันลูกชุบกันเลยนะครับ ^_________^

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10198181/E10198181.html

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เปิดมาด้วยภาพนี้ก่อนเลยครับ



ด้านตรงข้ามจะเป็นที่จอดรถของทาง จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ครับ ที่จอดรถมีเยอะพอสมควรและมีการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีครับ



จอดรถเสร็จผมก็ข้ามไปด้านหน้าซึ่งเป็นทางเข้า



ก่อนเข้าฟาร์มต้องเสียค่าเข้าชมอยู่ที่คนละ ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 50 บาท แต่ในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ของช่วงวันที 15 มกราคม ถึง 13 กุมภาพันธ์ 2554 (ช่วงนี้จะเปิดแค่วันเสาร์และอาทิตย์นะครับ) ค่าเข้าชมจะอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท



เดินไปซื้อตั๋วเข้าชมด้านนี้ครับ และจะได้แผนที่ฟาร์มมาคนละใบ



แผนที่ที่ได้มาพร้อมกับตอนซื้อตั๋วจะเป็นแบบนี้นะครับ เพียงแต่เป็นขาฃนาดเล็กกว่าพกพาได้



จริงๆแล้วพอเข้ามาด้านหน้าจะเจอโซนแรก คือทุ่งปอเทืองและสวนลอยฟ้า แต่ผมขอเก็บโซนนี้ไว้สุดท้ายครับ ขอไปโซน 2,3 และ โซน 4 ก่อน



จากด้านหน้าเดินมาขึ้นรถชมฟาร์มกันครับ ทางเดินที่นี่ทำได้ชัดเจน ขึ้นลงรถตรงไหนจัดการได้ดีทีเดียวครับ และการให้บริการเรื่องรถนั้นทำด้ดีพอสมควรในวันที่ผมไป รถของทางฟาร์มมีหลายคันให้บริการหมุนเวียนทำเวลาได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่ต้องแย่งกันขึ้นลงรถและไม่แออัดกันจนเกินไปครับ



พอนักท่องเที่ยวนั่งประจำที่กันครบ ไกด์นำทางก็เริ่มอธิบายส่วนต่างๆภายในฟาร์ม ความเป็นมาของฟาร์ม ประวัติของคุณจิมทอมป์สัน ซึ่งการบรรยายนั้นจะต่อเนื่องกันไปแต่ละโซน โซน1 ไป 2 จะเป็นเรื่องนึง 2 ไป 3 ก็จะเป็นอีกเรื่องนึงครับ



เอาล่ะครับมาถึงโซนที่ 2 แล้วเดี๋ยวเราลงไปเที่ยวชมกันครับ



เส้นไหมทางฟาร์มนำมาจัดให้ได้ถ่ายรูปและชมกันสวยงามดีนะครับ



ระหว่างที่คนส่วนมากเดินไปชมลานฟักทองและทุ่งทานตะวัน ผมขอมายังด้านนี้ก่อนครับ



คนเยอะแยะเลยทีเดียวครับ



วิวมางฝั่งนี้ก็สวยงามไม่แพ้กันครับ



ดูแบบนี้เหมือนจะร้อนนะครับ แต่ในวันนั้นกลับไม่ร้อนเลยครับ ได้ลมหนาวมากกว่าทั้งๆที่ตอนที่ผมไปนั้นก็ประมาณเที่ยงแล้วล่ะครับ



เดี๋ยวข้ามไปชมทุ่งทานตะวันฝั่งนู้นกันครับ



สีเหลืองสวยงาม



ดอกทานตะวันที่ทางฟาร์มปลูกไว้เยอะทีเดียวครับ



อีกสักรูปครับ



เดินผ่านแล้วเก็บมาอีกสักรูป ไปชมลานฟักทองกันต่อครับ



ลานฟักทองปีนี้จัดไว้ให้ได้ชมได้ถ่ายภาพกันในลักษณะนี้ครับ



น่าทานไหมล่ะครับ แต่รู้สึกว่าฟักทองนี้จะทานไม่ได้นะครับ ^ ^



ผมค่อนข้างชอบการจัดวางตกแต่งของโซนนี้พอสมควรเลยครับ



ถือว่าเป็นไฮไลท์ของโซนนี้เลย ภูเขาฟักทองยักษ์สีสันสดใส



เอาล่ะครับเดี๋ยวเดินไปชม ดอกคอสมอสกันต่อ



ตรงส่วนนี้แมลงปอเยอะทีเดียวครับ



ชมทุ่งดอกคอสมอสกันครับ



สวยงามทีเดียว



เอาล่ะครับหลังจะเดินชมอยู่นานพอสมควร ผมจึงเดินไปยังจุดรอรถเพื่อไปยัง โซนต่อไป โซนที่ 3 แต่ถ้าใครอยากเดินจากโซน 2 ไปยังโซน 3 ก็ได้นะครับ มีเส้นทางเดินอยู่ด้วย



ไม่นานรถที่จะพาผมไปยังโซนถัดไปก็มาครับ เมื่อรถเคลื่อนไกด์ก็จะทำหน้าที่



ระหว่างทางก็จะมีสิ่งสวยๆงามๆให้ชมไปเรื่อยครับ





โซนนี้ค่อนข้างคึกคักพอสมควร เพราะมีร้านอาหารและจุดขายอาหารอีสานให้ได้ทานกันด้วย และยังมีกิจกรรมต่างๆที่จัดบริเวณโซนนี้อีกด้วย



โซนนี้เป็นโซนหมู่บ้านอีสานและหมู่บ้านศิลปิน



เดินไปชมกันครับ



ด้านนู้นจะเป็นที่นั่งทานอาหาร



มุมนี้มีให้ได้ถ่ายรูปเก็บไว้กันด้วย



ถัดมาจะเป็นส่วนของโครงการ Jim Thompson Art on Farm



ที่นี่จะจัดแสดงผลงานศิลปะและเวิร์คช็อปจากศิลปินในโครงการนี้



จากนั้นไปชมลานเกวียนกันครับ



ภายในส่วนนี้



อีกมุม จะมีเกวียนแบบต่างๆให้ได้ดูได้ชมกัน



ไปกันต่อครับ



มาถึงส่วนนี้กับการผลิตข้าวอินทรีย์



ส่วนนี้ให้นักท่องเที่ยวได้ลองนวดข้าว ตำข้าว ฝัดข้าว ไม่ได้ทำกันง่ายๆเลยนะครับ ^ ^



ในส่วนนี้ที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมผมว่าทำได้ดีทีเดียวครับ



ไปกันต่อ



มุมนี้จัดให้ได้ถ่ายรูปกัน



ส่วนทางนี้ใครชอบส่งโปสการ์ดก็เชิญได้ครับ



ส่วนของหมู่บ้านอีสาน เฮือนนี้เฮือนนางอ้อยใจครับ



เฮือนอื่นๆ



หลังนี้เฮือนนางแตงอ่อน



มาถึงส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนที่ให้นักท่องเที่ยวได้ลองเล่นกันครับ



พอหลุดมาจากส่วนนั้นแล้วผมก็ตรงดิ่งมาเพื่อจะไปชมเจ้าบุญหลายขวัญใจใครหลายๆคนครับ



แล้วก็มาเจอเจ้าบุญหลายกำลังจะนอนหลับครับ



เจ้าบุญหลายอ้วนน่ารักทีเดียว



ชมเจ้าบุญหลายซะเพลินเลย



มาชมเจ้าบุญล้นต่อ



มองกลับไปยังหมู่บ้านอีสาน เดี๋ยวต้องเดินกลับไปอีกครับ เพราะต้องไปขึ้นรถและไปชมวงจรชีวิตหนอนไหม



เอาล่ะครับไปต่อกัน



อีกภาพในส่วนของหมู่บ้านอีสาน



บรรยากาศอีกมุมของโซนนี้



ในภาพเรียกว่า จ่อครับ เป็นบ้านใหม่ของไหมสุก ไหมจะเข้าไปจับจองช่องในจ่อเพื่อเข้าทำรังเข้าดักแด้ เมื่อผ่านไป 6วัน จะเป็นรังไหมที่แข็งแรงพร้อมนำไปสาวไหมครับ



หนอนไหม



ระยะหนอนไหมครับ



ระยะดักแด้



ระยะผีเสื้อ



ส่วนนี้เป็นไหมครับ



มีการสาธิตให้ดูกันเล็กน้อยครับ



อีกภาพครับ



เรียกว่าไข่ได้หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ ^ ^



เมื่อเสร็จจากโซนนี้ผมก็รอรถเพื่อไปยังโซนที่ 4 ต่อไปครับ หากใครไม่นั่งรถก็สามารถเดินเที่ยวชมไปได้เรื่อยๆจนถึงโซน 4 เลยนะครับ จะมีเส้นทางให้เดินเที่ยวชมอยู่



บรรยากาศระหว่างทางก่อนถึงโซน 4



เห็นดอกไม้หลากสีสีสันสดใสแบบนี้ก็ใกล้ถึงโซน 4 แล้วล่ะครับ



ในโซนนี้ จะมีสวนไม้ดอกและตลาดจิม ทอมป์สัน ซึ่งจะเป็นโซนที่ขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของทางฟาร์มด้วยครับ



ดอกไม้หลากสีสวยงามจริงๆครับ



อีกมุม



แวะไปชมผลิตภัณฑ์สักหน่อย



ภาพรวมๆครับ มีสินค้าให้เลือกซื้อพอสมควร



เดินไปชมด้านนี้ต่อ



ด้านนี้จะมีการแสดงการผลิตผ้าไหมให้ชมกันนิดหน่อยครับ



เส้นใยไหม



สินค้าของทางจิม ทอมป์สัน ฟาร์มจัดแสดงไว้ให้ได้ชม



ภาพรวมๆของอาคารฝั่งนี้ครับ



เอาล่ะครับชมด้านนี้เสร็จเดินไปอาคารนู้นต่อ ภายในจะขายเป็นพวกผักสด ผลไม้ ขนมฯลฯ ของทางฟาร์มครับ



พริกสีม่วง ผมว่าสวยดีครับ วันที่ผมไปก็มีหลายคนที่หิ้วกลับบ้านกันเยอะทีเดียว



มีฟักทองขายด้วยครับ ทั้งแบบทานได้และทานไม่ได้



กองไว้ให้เลือกกันได้ตามสะดวกเลยครับ ผมซื้อกลับมาสองลูก แต่ให้คุณป้าคนขายเลือกให้ ลูกหนึ่งทานได้อร่อยทีเดียวแต่อีกลูกทานไม่ได้ สงสัยผมคงทำผิดวิธีไปอ่ะครับ ^_______^



ส่วนด้านหลังจะมีการปลูกผักไว้ให้ได้ชมกัน



น่าทานจังเลยนะครับ



เมื่อชมโซนที่ 4 เรียบร้อย ผมก็มารอรถต่อเพื่อออกไปยังด้านหน้าทางออก แล้วไปเดินเที่ยวชมโซน 1 ที่ผมข้ามมาเมื่อตอนแรกก่อนกลับครับ



รถมาจอดให้ลงบริเวณนี้ครับ



ทุ่งปอเทือง สวยงามไม่แพ้ทุ่งทานตะวันเลยนะครับ



พอรถจอดเดินมาตรงส่วนนี้จะมีฟักรูปทรงแปลกๆให้ได้ชมกันครับ ผมไม่แน่ใจว่าใช่ฟักหรือเปล่า



ผลฟักเยอะพอสมควรเลยล่ะครับ



รูปร่างแปลกๆ จริงๆมีเยอะกว่านี้ครับแต่ผมไม่ได้ถ่ายมาฝากกัน



ขึ้นไปชมด้านบนกันครับ วึ่งเป็นส่วนของโซนที่ 1 ทุ่งปอเทืองและสวนลอยฟ้า



จากด้านบนนี้มองไปเห็นทุ่งปอเทืองสีเหลือสวยงามทีเดียว



บรรยากาศบนสวนลอยฟ้าครับ



ภาพบรรยากาศวิวจากบนสวนลอยฟ้าอีกภาพครับ



ภาพสุดท้ายของการมาจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม กับทางเข้าและป้ายตรงโซนที่ 1 ทุ่งปอเทืองและสวนลอยฟ้าครับ ผมใช้เวลาเที่ยวชมฟาร์มทั้งหมดประมาณ 3 - 4 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ นี่ขนาดนั่งรถของฟาร์มนะครับ ถ้าเดินคงใช้เวลาทั้งวันแน่ๆ ชมเพลินไปหน่อยครับ



หลังจากเที่ยวฟาร์มเสร็จผมขับรถไปต่อยังวังน้ำเขียวเพื่อไปทานข้าวเย็นที่ Village Farm Winery



รูปนี้เป็นรูปที่ทานตอนจะกลับแล้วล่ะครับ ตอนมายังไม่ดึกเลยแต่ที่นี่บรรยากาศดีจริงๆ เลยนั่งทานข้าวเพลินไปหน่อยครับ



มาที่นี่ก็ต้องทานน้ำองุ่นครับ ผมชอบทานน้ำองุ่นของที่นี่มากๆ



จานแรกครับ สปาเก็ตตี้ขี้เมาเต้าหู้เห็ดหอมสด



สลัดเห็ดหอมสด เบค่อน จานนี้อร่อยครับ ความชอบส่วนตัว ^ ^



ไข่เจียวสมุนไพร



สุดท้ายกับซี่โครงหมูอบบาบีคิว มื้อนี้ผมจ่ายไป 1,205 บาท นอกจากอาหารแล้วยังมี น้ำองุ่น 2 ขวด และข้าวเปล่า 1 จานครับ



ภาพสุดท้ายกัยบรรยากาศช่วงค่ำของร้านอาหาร Village Farm Winery นะครับ ชมรีวิวนี้จบแล้วอย่าลืมตามชมรีวิวครั้งต่อไปของผมกันนะครับ ^__________^




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2554
18 comments
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2554 12:40:33 น.
Counter : 3214 Pageviews.

 

เข้ามาเที่ยวอีกรอบค่ะ

ครั้งหน้าจะหาโอกาสไปบ้างแล้ว

 

โดย: KOPI & CHAYEN 6 กุมภาพันธ์ 2554 13:37:50 น.  

 

บรรยากาศเที่ยวแบบนี้ถูกใจจริงๆค่ะคุณกัปตัน
เพลินๆ แถมแดดสวยจัดชอบมากๆค่ะ
เหนื่อยหิวๆ ก้ได้นั่งสบายๆ ทานอาหารน่าหม่ำนะคะ



 

โดย: Sweety-around-the-world 6 กุมภาพันธ์ 2554 17:45:46 น.  

 

ตามมาเที่ยวค่ะพี่กัปตัน
ปีนี้มีอะไรๆ ให้ชมเยอะเลยนะคะ เยอะกว่าปีที่แล้วอีกค่ะ นาวเคยไปมาปีก่อนนู้น ปีนี้อดไม่ได้ไป

ภาพถ่ายสดใสสวยมากๆ ดูจุใจเลยค่ะ

 

โดย: Lovely December 6 กุมภาพันธ์ 2554 18:27:24 น.  

 

อยากไปบ้างจัง

 

โดย: ใครคือเธอ เธอคือใคร 6 กุมภาพันธ์ 2554 18:49:57 น.  

 

ใครมาบ้านนี้วันนี้คุ้มเลยคะ
ตั้งแต่เข้าจนออก..ละเอียดยิบๆ

ปล. ฟักทองที่โชว์ทราบมาว่าทานได้นะคะ
เห็นว่าเป้นฟักทองญี่ปุ่นค่ะ
ส่วนไข่ที่ว่า เป็นรังไหม(cocoon) นะคะ

 

โดย: mutcha_nu 6 กุมภาพันธ์ 2554 19:31:19 น.  

 

เราชอบฟาร์มนี้นะคะ
แต่จขบ.ไปมา สวยกว่าตอนเราไปอีกหละ อิอิ

เพียงแต่เป็นขาฃนาดเล็กกว่าพกพาได้ - พิมพ์ผิดนะคะ

ที่เป็นเรียวๆ นั่น ไม่น่าจะเรียกไข่ค่า น่าจะเป็นรังน่อ แหะๆ

ชอบมากๆ เลย เที่ยวละเอียดดีค่ะ ไปให้กิฟที่กระทู้นั้นเรียบร้อยแล้วด้วยนะคะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2554 8:41:32 น.  

 

ว่าแล้วก็..โหวตบล็อกท่องเที่ยวให้ซะเลยค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2554 10:13:19 น.  

 

สวยมาก อยากไปแต่ไม่ได้ไปสักที
กำลังหาโอกาสไปปีนี้ให้ได้

 

โดย: begine 7 กุมภาพันธ์ 2554 12:29:55 น.  

 

ดอกไม้สวยจังค่ะ อาหารก็น่าทาน

 

โดย: chava 7 กุมภาพันธ์ 2554 13:38:46 น.  

 

สวัสดีจ้ะคุณกัปตัน

ทั้งภาพและเรื่องละเีอียดดีเหมือนกัน พี่อยากพาลูกไปดู อุตส่าห์รอๆ เพราะรู้ว่าปีนึงเค้าเปิดแค่เดือนเดียว เสาร์-อาทิตย์นี้สุดท้ายแล้วเนาะ จะได้ไปรึป่าวไม่รู้

ฟักทองรูปร่างแปลกๆ อย่าว่าแต่ลูกเลย พี่เองก็อยากเห็นของจริง ดอกไม้คงยังไม่เฉาหรอกเนาะ ร้อนหน่ะพี่สู้นะ แต่กลัวลูกไม่เอาด้วย ถ้าแดดแจ๋...

ไปวิลเลจฟาร์มหลายครั้งแล้ว ยังไม่เคยกินอาหารที่นี่เลยจ้ะ

ขอบคุณภาพสวยๆ จ้ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 7 กุมภาพันธ์ 2554 16:51:18 น.  

 

สวยจังเลย ไปเมื่อ 4ปีที่แล้ว
เห็นแล้วก็อยากไปอีกครับ

 

โดย: REX-REX 7 กุมภาพันธ์ 2554 23:15:49 น.  

 

สวยดีค่ะ ไม่ได้เข้าไปทางนั้นหลายสิบปีแล้วค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 8 กุมภาพันธ์ 2554 16:36:11 น.  

 

สวัสดีพี่กัปตัน

ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ Vivid
ทริปหน้าจะลอง vivid บ้างแล้วสีเจ็บๆ ดี
ขอได้ภาพแค่คครึ่งนึ่งของบ้านนี้ก็ยิ้มแล้ว
เห็น Bromo แล้วฝันเลย อยากไปมั่ง แต่ตอนนี้ขอแค่ฝันไปก่อน

 

โดย: *SUPRA* 8 กุมภาพันธ์ 2554 21:00:35 น.  

 

แวะมาชมค่ะ

 

โดย: นู๋ที 9 กุมภาพันธ์ 2554 10:54:38 น.  

 

สงสัยพี่ไม่ได้ไปจิม ทอมป์สันแน่เลย ปีนี้ เสียดาย...

เที่ยวบ้านนี้ไปก่อน....


 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 9 กุมภาพันธ์ 2554 17:23:55 น.  

 

น่าไปเที่ยวมากเลยคะ เห็นพี่ที่รู้จักเค้าไปมาเอาฟักทองเส้นมาโชว์ด้วยคะ แปลกดีจัง

เสียดายที่คงจะไปไม่ทันแล้ว คงต้องรอปีหน้าฟ้าใหม่


ปล.รูปสวยมากเลยคะ

 

โดย: strawberry banana&cream 11 กุมภาพันธ์ 2554 21:44:30 น.  

 

หวัดดีครับ..

ไปที่นี่มาเหมือนกันครับ วันที่ 9 มกราคม
แต่ลงภาพไว้ไม่เยอะเท่าไหร่...

ได้ชมจุใจจากบล๊อกนี้เลยครับ.
มีความสุขมากมายในวันหยุดนะครับ

 

โดย: wicsir 19 กุมภาพันธ์ 2554 12:44:40 น.  

 

เป็นอีกที่ที่อยากไปค่ะ แต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที

 

โดย: bee_jung (b_cwchy ) 21 กุมภาพันธ์ 2554 15:17:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กัปตันลูกชุบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
6 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กัปตันลูกชุบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.