ความสุขเล็กๆที่ เมืองสุพรรณบุรี
เมื่อปีที่แล้ววันที่ 8 พฤศจิกายน 2551 ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวสุพรรณ แต่เป็นทริปวันเดียว การไปเที่ยวครั้งนี้ผมรู้สึกดีครับ สนุกกับการเดินทาง ผมได้ไปแวะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่เสียดายที่คราวนี้ผมออกจากกรุงเทพสายหน่อยครับ เลยทำให้แต่ละที่นั้นได้ใช้เวลาอยู่ค่อนข้างน้อยและบางสถานที่ที่คิดไว้นั้นก็จำเป็นที่จะต้องยกเลิกไปเพราะเวลามันไม่ลงตัว ผมไปครั้งนี้ช่วงสายผมได้ไปแวะที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ออกจากที่นั้นก็เที่ยงแล้ว ผมไปต่อยังตลาดสามชุก แล้วไปต่อยังบึงฉวากแต่ผมไม่ได้เข้าไปชมอะไรในบึงฉวากเลย เพราะเวลาไม่ทันครับ ตอนไปถึงทางบึงฉวากกำลังจะปิดแล้ว พอออกจากบึงฉวากผมก็ไม่ลืมจะแวะไปดู บรรหารแจ่มใสสักครั้งครับ การเดินทางของผมในครั้งนี้ก็ยังคงประทับใจผมอีกครั้ง และด้วยตัวจังหวัด ความสงบ สบายของเมืองสุพรรณยังคงทำให้ผมคิดและหาโอกาสที่จะไปเยือนเมืองๆนี้อีกครั้งสักครับ
แวะชม Review ใน พันทิปของผมได้ที่นี่ครับ //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/02/E7489626/E7489626.html
ภายในบริเวณวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร วัดนี้เป็นวัดสำคัญของเมืองสุพรรณบุรี เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ตรงข้ามวิหารมีเรือนไทยหลังใหญ่ เรียกว่าเรือนขุนช้าง ช่วงที่ไปค่อนข้างร้อนครับ
ด้านหน้าทางเข้าพระวิหารหลวงพ่อโต
ที่เคารพบูชาพระราหู ด้านข้างขุนแผนครับ
พระพุทธรูปกราบไหว้บูชา องค์พระใหญ่โตมากครับ
ภาพหลวงพ่อบนผนังของวัดครับ
ทางเดินชมภาพผนังของวัด ตามทางเดินจะมีเนื้อเรื่องขุนช้างขุนแผนให้ดูและศึกษากันครับ
รูปบางส่วนที่ อยู่ตรงแนวทางเดินสื่อถึงเรื่องขุนช้างขุนแผนครับ
อีกรูปครับเล่าเรื่องราวสำคัญๆ
ขุนช้าง กับขุนแผนครับ
ตามทางเดินจะมีภาพไปเรื่อยๆ แบบนี้ครับ
ออกจากวัดมาครับ เจอพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ซึ่งประกอบด้วยพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระคชาธารออกศึก และองค์เจดีย์ยุทธหัตถี แต่วันนั้นผมไม่ได้แวะเข้าไป เสียดายครับ
ถึงสามชุก ป้ายอีกด้านหนึ่งครับ ตลาดสามชุก เป็นตลาดเก่าริมน้ำอายุนับร้อยปี เป็นชุมชนชาวจีนที่ยังรักษาสภาพบ้านเรือนและตลาดแบบดั้งเดิมมีอาคารพิพิธภัณฑ์ รวบรวมภาพถ่ายเก่าแก่สามรถเดินชมบรรยากาศและชมอาหารพื้นเมืองได้
เจอของเล่นแบบนี้มั่นใจได้เลยครับว่าคือสามชุก
อีกรูปครับ
ช่างคิดมากครับ
ภาพเก่าโบราณ บ่งบอกถึงสามชุก
ของเก่าแก่ น่าเก็บรักษา
ร้านในตลาดสามชุก ตามชื่อ คิดเอง ทำเอง ขายเองครับ
วันที่ผมไปมีเด็กนักเรียน มาเล่นดนตรีไทยให้ฟังด้วย เดินไปฟังไปเพลินไปอีกแบบครับ
บ้านนี้รวบรวมรูปเก่าแก่ไว้ให้ชมเยอะครับ
เห็นแบบนี้ถึงแล้วครับ บ้านโค้ก
ของภายในบ้านครับ มีแต่โค้ก เหมาะกับคนชอบโค้กจริงๆครับ
มุมนี้เท่ดีครับ
ตอนที่ผมไปมีโค้กซีโร่แล้ว
ออกจากร้านเดินมาเจอสบู่นี้ ไม่เห็นนานมากแล้วครับ
ป้ายร้านน่ารักๆ อีกร้าน
วันที่ไปฝนตก คนเยอะครับ หลบฝนอยู่นานเลย
ออกจากสามชุกผมก็ตรงไปบึงฉวาก แต่เย็นมากแล้วครับ เลยไม่ได้เข้าไปด้านใน เก็บภาพจักรยานน้ำมาฝาก ด้านในที่เป็นจุดเด่น คือมีที่แสดงพันธ์ปลาน้ำจืดในตู้กระจกขนาดใหญ่ มีอุโมงค์ใสลอดใต้น้ำ
อีกมุมครับ
เลยแวะไปเกาะกระต่าย ไปดูกระต่ายน่ารักน่าเอ็นดูกันครับ ตัวนี้สีขาวน่ารัก
ตัวนี้ก็น่ารักครับ
แพนด้าในคราบกระต่าย
ทำที่อยู่ให้กระต่าย ดูน่ารักดีครับ แต่ผมว่าเนื้อที่แอบน้อยไปนิด สงสารกระต่ายบางตัวที่ต้องอยู่ในกรงด้านใน
ข้างๆเกาะกระต่ายจะเป็นกระชังเลี้ยงปลา ปลาตัวใหญ่ๆเยอะเลย
เนื้อที่ของกระชังเลี้งปลาอีกมุมครับ
ท่านบรรหารสนับสนุนครับ ตามป้าย
ไปวนรอบบึงมาหนึ่งรอบ เย็นมากแล้วแวะเก็บภาพป้ายทางเข้าอีกครั้งครับ
นี่คือหอคอยบรรหาร แจ่มใส ยามดึกครับ
ลูกเล่นน่ารักๆ ของที่นี่ครับ
ส่วนของด้านล่างทางขึ้นไปชม ครับ แต่วันนั้นผมไม่ได้ขึ้นไป
ยอดของหอคอยอีกมุมครับ
จากการเดินทางไปสุพรรณในหนึ่งวันของผมครั้งนี้ ได้พบเจอสิ่งใหม่ๆมากมายเลย เจอผู้คนที่มีอัธยาศัยดี มีน้ำใจ ได้พบเจอสถานที่ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนดั้งเดิมเอาไว้เป็นร้อยปี และได้ไปเห็นสถานที่เที่ยวที่ยังคงรักษาธรรมชาติ และยังช่วยเหลือสัตว์ตัวเล็กๆที่ถูกทอดทิ้ง ได้พบเจอความเจริญในเมืองๆนี้ ผมคิดว่าทริปนี้ของผมความสุขที่ผมได้รับ ทดแทนความเหนื่อยล้าจากการเดินทางในหนึ่งวัน เปลี่ยนเป็นความสุขใจและอยากกลับไปเมืองสุพรรณอีกครั้งครับ
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 28 เมษายน 2553 9:08:12 น. |
Counter : 6740 Pageviews. |
|
|
|