เยือนดินแดนแห่งมนต์ขลัง- อินโดนีเชีย: Part III:ผมอยากย้อนเวลากลับไปเยือนบาหลี

รีวิวครั้งนี้ของผมเป็นของวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2552 ซึ่งผมเดินทางออกจากสนามบินสุราบายามุ่งหน้ามายังเกาะบาหลีของประเทศอินโดนีเซียผมออกเดินทางจากสนามบินสุราบายามาด้วยสายการบินWings Air เสียค่าภาษีที่สนามบินสุราบายาคนละ 30,000 Rp แล้วเดินทางต่อไปยัง UBUD ผมเลือกที่จะนั่งรถแท็กซี่โดยติดต่อเคาท์เตอร์ของทางสนามบินซึ่งผมบอกให้เขาไปส่งที่พักเลย วันแรกผมพักที่ Pande Permaiซึ่งในเรื่องของที่พักผมจะนำมารีวิวในตอนต่อไปนะครับ ค่าแท็กซี่จากที่สนามบินมายังที่พักของผม ซึ่งจ่ายที่เคาท์เตอร์สนามบินคิดเป็นเงิน 195,000 Rp ช่วงที่ผมขึ้นแท็กซี่มานั้นประมาณ 17.00 น. ถึง UBUD ประมาณ 18.00 น. ที่บาหลีเวลาเรามาถึงแล้วต้องปรับเวลาให้เร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมงนะครับ ผมเดินทางถึงที่นี่เย็นแล้วจึงตัดสินใจไปดูการแสดงที่ Ubud Palace ซึ่งวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่นี่มีการแสดง Legong เวลา 1 ทุ่มครึ่งครับ ผมไปถึงเวทีการแสดงเวลาทุ่มนึงคนก็เริ่มเต็มแล้วครับ ดังนั้นจึงอยากแนะนำว่าให้ไปก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจบการแสดงจึงไปทานอาหารที่ Lotus Lane Restaurant สาขาถนน Monkey Forest นะครับ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกับรีสอร์ทที่ผมพักในคืนแรก หลังจากนั้นวันนี้ผมก็กลับเข้าที่พักเพื่อพักผ่อน

รุ่งเช้าของอีกวัน วันนี้ผมทำตัวสบายๆนิดนึงหลังจากเดินทางมาเหนื่อยวันนี้ผมเช็คเอ้าท์จากที่พักเมื่อวานเพื่อไปพักอีกที่หนึ่ง ยังไงเดี๋ยวจะนำมาให้ชมอีกตอนนะครับ หลังจากเข้าที่พักใหม่ผมจึงไปเดินตลาดอูบุดซื้อโสร่งเพื่อเตรียมไปเที่ยววัด เมื่อเดินเที่ยวเสร็จผมไปทานอาหารที่ร้าน Bebek Bengil dirty duck dinner แล้วกลับมาพักผ่อนที่พัก ช่วงประมาณ 16.00 น. ผมตัดสินใจไปเที่ยวถ้ำช้างหรือ Goa Gajah เพราะคิดว่าไม่ไกลจากอูบุดนักโดยเช่ามอเตอร์ไซด์ของทางรีสอร์ท หลังจากนั้นวันนี้เป็นวันจันทร์ผมเลือกที่จะไปดูการแสดง Kecakเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ที่ Pura Dalem Ubud เมื่อดูการแสดงจบผมกลับมายังถนน Monkey Forest เพื่อหาร้านอาหารทานและเพื่อหาร้านที่ใช้ internet ได้ด้วยเลยเจอร้านนี้ ส่วนรสชาติอาหารก็ถือว่าใช้ได้

สำหรับรีวิวในครั้งนี้ของผมยังไม่ได้ออกไปยังสถานที่นอกอูบุดสักเท่าไหร่แต่การที่ผมใช้เวลาอยู่ในอูบุดนั้น ทำให้ผมหลงเสน่ห์เมืองนี้มาก อยู่ที่นี่ได้เจอวัฒนธรรม ได้พบเห็นชาวบ้านและวิถีชีวิตของคนที่นี่ ความเป็นอยู่ที่สงบสุขชีวิตเรียบง่าย ทำให้ผมอยากมีวันหยุดให้มากขึ้นเพื่อที่จะอยู่ที่นี่และซึมซับความเป็นอยู่ของคนที่นี่รวมถึงวัฒนธรรมของเมืองๆนี้ให้มากกว่านี้ ความเป็นธรรมชาติของที่นี่ดึงดูดผมให้อยากมีโอกาสกลับไปเยือนที่นี่อีกครั้ง ซึ่งถ้าผมมีโอกาสผมคงอยากจะกลับไปที่นี่อีกครั้งแน่ๆครับ ยังไงลองชมรีวิวของผมกันดูนะครับ

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/06/E7953789/E7953789.html

บริเวณก่อนจะรับกระเป๋าของสนามบินบาหลีภายในประเทศสนามบินภายในประเทศของบาหลีเล็กมากๆเลยครับ

ออกจากสนามบินมาไม่นานเห็นรูปปั้นใหญ่นี้ ดูมีสเน่ห์มากเลยครับ

ผมขอตัดมายังบรรยากาศร้านค้าบนถนน Monkey Forestยามดึกก่อนที่ผมจะเดินทางไปชมLegongที่ Ubud Palaceในคืนวันแรกเลยนะครับ

นี่เป็นที่แสดงอีกที่หนึ่ง ที่นี่จะตั้งอยู่บนถนน Monkey Forest ครับ พวกบัตรการเข้าชมนั้นจะมีชาวบ้านยืนขายตามถนนเยอะเลยครับ หาซื้อกันได้ตามใจชอบราคาเท่ากันหมด Legong ที่ Ubud Palace คนละ 80,000Rp ส่วนอีกวัน Kecakคนละ 65,000Rp ครับ

ร้านค้าต่างๆบนถนน Monkey Forest

เข้ามายังด้านในของการแสดงที่อูบุดพาเลชกัน รอชมการแสดงครับ Ubud Palace จะอยู่ตรงข้ามตลาดอูบุดซึ่งอยู่ตรงข้ามกับถนน Monkey Forest ครับ

บริเวณที่จะมีการแสดง วันนี้ผมมาชมการแสดงLegong วงดนตรีแสดงให้ชมกันสดๆ เลือกที่นั่งเองนะครับมาก่อนจองก่อน

การแสดงLegongครับ ชื่อเต็มๆของการแสดงวันนี้คือLegong of Mahabrata Epic ซึ่ง Legong แต่ละวันแต่ละที่จะมีการแสดงไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ ระบำชุดแรกมีชื่อว่า Tedung Agung Dance หรือ ระบำร่มครับ (Tedung = ร่ม)

น่าชมมากครับ แต่แอบง่วงนิดหน่อย สงสัยคงเหนื่อยจากการเที่ยวในช่วงเช้า

สวยงามน่าชมจริงๆครับ ไม่แพ้การแสดงของบ้านเราเลย แต่เราอาจดูไม่สนุกมากเท่าบ้านเราเพราะว่าเราเข้าใจในการแสดงของบ้านเรามากกว่าก็เป็นได้

เครื่องประดับ ชุดแต่งกายสวยงามมากครับ

การแสดงที่ทุกคนกล่าวถึงกันครับ สังเกตุที่ตาผู้แสดงครับ

การแสดงอีกรูปครับ

ระบำชุดนี้ชื่อ Baris in Group (Warrior Dance)

ส่วนชุดนี้ชื่อ The Legong Supraba Duta of Mahabrata Epic ครับ การแสดงสวยงามมาก จะเป็นการร่ายรำของผู้หญิงห้าคน

ร่ายรำดูสวยงามไปอีกแบบ

คนนี้ฉายเดี๋ยวเลยครับ ได้ทุกรูปแบบจริงๆทั้งเหลือกตา ทั้งยิ้ม สวยงามมากเช่นกันครับ ระบำชุดนี้คือ Taruna Jaya Dance เป็นการแสดงออกเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเด็กที่กำลังจะกลายเป็นวัยรุ่นบาหลี

สวยงามที่เดียวครับ ชุดนี้ชื่อ Cendrawasih Dance หรือระบำนก

ระบำชุดสุดท้ายชื่อ Topeng Arsa Wijaya Dance เป็นระบำของคนสวมหน้ากาก

ดูกันชัดๆ

สุดท้ายนักแสดงทุกคนออกมาขอบคุณครับ

หลังจากชมการแสดงจบระหว่างทางเดินกลับที่พัก ผมแวะทานอาหารร้าน Lotus Lane Restaurant สาขาถนน Monkey Forest

บรรยากาศภายในร้านโซนโต๊ะนั่งด้านหน้า

เมื่อเดินมาประมาณกลางร้านจะมีสระบัวเล็กๆ ทำให้บรรยากาศของร้านนี้น่านั่งมากยิ่งขึ้นครับ

เค้าท์เตอร์บาร์ของที่ร้าน

มาดูอาหารกันบ้างครับ มื้อนี้น้ำดื่มผมสั่งน้ำเปล่าและโค้กแต่ลืมถ่ายโค้กมาด้วยครับ

อาหารจานแรก Fettuccine Verdy Alfredo

ต่อมาพิซซ่าทะเล เรียกว่า Nettuno ครับ อาหารสำหรับคืนนี้ผมสั่งเท่านี้ครับ อาหารที่ได้มาทั้งสองอย่างรสชาดอร่อยทั้งสองอย่างเลยครับ

ชัดๆกับพิซซ่าอีกรูปครับ ค่าอาหารทั้งหมดสำหรับมื้อนี้ของผมรวมค่าภาษีและค่าบริการแล้วราคา 163,000 Rp

ช่วงเช้าครับ ถนนหนทางที่นี่ วันนี้ผมเช่ามอเตอร์ไซด์ของทางรีสอร์ท Tegal Sari เป็นแบบออโต้ ราคาอยู่ที่ 50,000 Rp ไว้ขี่เที่ยวครับ

เห็นรูปปั้นนี้รู้เลยครับ Monkey Forest

ด้านหน้า Ubud Palace ช่วงเที่ยง

เห็นรูปปั้นแบบนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับ Ubud Palace แล้วเดินเลยไปอีกนิดก็จะถึง Ubud Tourist Information

สังเกตป้ายนี้ครับ สามารถไปสอบถามขอคำแนะนำได้ที่นี่ครับ

ตลาด Ubud ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Ubud Palace เลย

เดินเข้ามาด้านใน

อีกมุมครับ ตลาด Ubud มีสินค้าให้เลือกเยอะ ราคาต่อรองดีๆนะครับ ต่อรองได้มากกว่าครึ่งเลย

ตลาดที่นี่จะมีสองชั้นนะครับ ชั้นสองจะขายเสื้อผ้าเยอะกว่า

สินค้าครับเยอะแยะมากมาย

วัดข้างๆตลาด

อีกมุมนึงของตลาด Ubud

อีกสักรูปกับร้านค้าของตลาด

ผมออกจากตลาดมาเพื่อหาอาหารทานก่อนถึงรีสอร์ทTegal Sari แวะทานร้าน Bebek Bengil Dirty Duck Dinner

บรรยากาศภายในร้าน ต้นไม้เยอะ น่านั่งมากครับ โต๊ะนั่งมีหลายโซน

ภายในร้านอาหารมีทุ่งนาเล็กๆให้ชม บรรยากาศดีมากเลยครับ

มาดูเมนูของร้าน Bebek Bengil dirty duck dinner กัน

เครื่องดื่มแก้วแรกเป็นน้ำฝรั่งผสมโซดา Giant Chill

อีกแก้วครับ Padang Tegal Village จำไม่ได้แล้วครับว่ามีส่วนผสมเป็นอะไรบ้าง ร้านนี้ผมก็สั่งโค้กด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ อีกอย่างผมคิดว่าน้ำผลไม้ที่บาหลีอร่อยมากครับ

มาถึงอาหารกันบ้างครับ จานนี้เป็นเป็ดทอดกรอบ Bebek Bengil อาหารแนะนำของร้าน กินได้ทั้งกระดูก จานนี้อร่อยมากๆ

ส่วนจานนี้ Indonesian Favourite มีหมูสเต๊ะ เต้าหู้ทอดและอื่นๆเป็นของทานเล่น

ร้านนี้ก็มีสระบัวดูเป็นธรรมชาติสวยงามไปอีกแบบ

บริเวณโต๊ะนั่งอีกมุมของทางร้าน

ทางเดินไปยังโซนด้านหลังของทางร้าน

ทุ่งนาเล็กๆของทางร้าน

อีกฝั่งกับโซนทุ่งนาและบรรยากาศโต๊ะนั่งทานข้าวติดกับทุ่งนาครับ

ด้านหลังนี้จะติดกับทุ่งนาที่อยู่นอกเขตของทางร้านบรรยากาศดีมากครับ

ทุ่งนาเล็กๆของทางร้าน ตอนผมไปกำลังสวยเลย

มองย้อนกลับไปด้านหน้าร้านครับ

โซนสระด้านหน้าร้านครับ

อีกมุมครับกับโซนด้านหน้า มื้อนี้ราคาทั้งหมดรวมภาษีและค่าบริการแล้วอยู่ที่ราคา 197,000 Rp

หลังจากทานเสร็จมาดูบรรยากาศถนนหนทางกันต่อครับ

ระหว่างทางเจอแบบนี้ บาหลีจริงๆ

อีกรูปครับ

ระหว่างทางไป Goa Gajah เจอทุ่งนาแบบนี้ข้างถนนเลยครับ สวยงามจริงๆเลยครับ

ถึงแล้วครับ Goa Gajah หรือที่เรียกกันว่าถ้ำช้าง

วิวมองไปยังด้านล่างก่อนถึงถ้ำ Goa Gajah ถ้ำช้างนี้เป็นสถานที่สำคัญแต่ไม่มีช้างนะครับ คงมีแต่รูปปั้นพระคเนศเศียรช้างอยู่อยู่ภายใน ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ Ubud

ภายในก่อนถึงถ้ำ

ถ้ำช้างปากถ้ำเป็นหินแกะสลักมองดูคล้ายใบหน้าช้าง แต่ผมกลับมองว่าคล้ายยักษ์อ้าปากมากกว่า

ภายในถ้ำเป็นรูปตัว T ด้านหนึ่งจะเป็นรูปปั้นพระพิฆเนศ อีกด้านเป็นรูปปั้นศิวลึงค์ 3 แท่ง ว่ากันว่า แทนเทพสามองค์ คือพระศิวะ พระนารายณ์ พระวิษณุ ภายในถ้ำทางไม่ยาวมากนะครับ ประมาณ 13 m และทางแยกรูปตัวที่ ประมาณ 15 m

ด้านในครับ

รูปปั้นพระพิฆเนศ ด้านหนึ่งของภายในถ้ำ

อีกด้านเป็นรูปปั้นศิวลึงค์ 3 แท่ง

ออกมาชมด้านนอกหน้าถ้ำกันครับ

บรรยากาศรอบๆภายนอกถ้ำครับ

สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ รูปปั้นอิสตรีจริงๆมีสองฝั่งครับ 6 รูป มีน้ำไหลพุ่งลงมา

ภายในอีกรูปครับก่อนกลับ

กลับออกมาจากด้านในที่ขายตั๋วก็ปิดแล้วครับ พอดีผมมาเย็นแล้วด้วย เกือบลืมบอกไปครับผมใส่ขายาวเข้าถ้ำช้างไม่ต้องนุ่งโสร่งนะครับ

หลังจากผมกลับจากถ้ำช้างผมเข้าไปพักผ่อนนิดหน่อยที่รีสอร์ท เมื่อจวนถึงเวลาการแสดง Kecak เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ที่ Pura Dalem Ubud รูปบันไดทางขึ้นก่อนถึงที่แสดง

บริเวณที่ใช้แสดง

เริ่มได้เวลาแล้วครับ ที่นี่ก็เหมือนกันครับใครมาก่อนได้นั่งก่อนครับ ค่าบัตรเข้าชมอยู่ที่ราคาคนละ 65,000Rp

Kecak หรือเรียกอีกชื่อว่า Monkey Dance ใช้จำนวนผู้แสดงเยอะมากครับ ไม่ใช้เครื่องดนตรีมีแค่เสียงร้องของผู้แสดง

ดูการแสดงเริ่มแรกกันครับ

ระหว่างนี้ผู้แสดงจะร้องทำนองว่า Kecak Kecak Kecakตลอดครับ

เริ่มมีตัวละครหลักของเนื้อเรื่องเข้ามาแล้วครับ

Kecak ผมดูแล้วรู้สึกสนุกไม่ค่อยมีอาการง่วงครับ^^

มีนักแสดงเพิ่มมาเรื่อยๆ

หนุมานครับ

ชมการแสดงกันต่อ

ผมไม่ทราบว่าสองตัวละครนี้เป็นใครแต่สำหรับ Kecak สองตัวละครนี้ที่สร้างความขำขันให้ผู้ชม

ชมกันต่อครับ

มีการต่อสู้กันนิดหน่อย

ชมกันต่อ

ชัดๆครับ

หลังจากนี้การแสดงเนื้อเรื่องจบแล้วครับ แต่ยังมีการลุยไฟต่ออีกนิด

เริ่มก่อไฟ

ลุยไฟครับ ผมไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือไม่แต่ในความคิดผมเหมือนผู้ลุยไฟคือร่างทรงครับ

อีกรูปครับ

สุดท้ายครับ ที่ผมว่าเหมือนร่างทรงเพราะหลับตาตลอดเลยครับเวลาลุยไฟ

ต่อจากนั้นผมได้มาหาร้านอาหารทานบนถนน Monkey Forest เป็นร้านเล็กๆ ชื่อ Barberkyu Kafe มี wifiให้ใช้สำหรับคนที่ทานในร้านฟรีสิบนาที

หิวมากชุดนี้ทั้งชุดกินก่อน ลืมถ่ายไปเลยครับ ต้องขอโทษด้วย แก้วแรกมะพร้าวผสมมินต์ปั่น

ส่วนแก้วนี้น้ำแตงโมปั่น

จานแรกขนมปังกับเนยฟรีครับ

ข้าวผัดซีฟู้ด Nasi Goreng Seafood ครับ

ซีซาร์สลัด มื้อนี้ทางร้านลดราคาให้ด้วย 10% ต้องจ่ายทั้งสิ้น 92,115 Rp

จากการที่ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ผมรู้สึกชอบมากครับ รู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นทุ่งนา เห็นความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เห็นวัฒนธรรมที่ยังคงมีอยู่และยังคงแสดงให้ทุกคนที่ไปเยี่ยมเยือนเมืองๆนี้ได้เห็นกันอย่างชัดเจน ผมชอบความมีน้ำใจความเป็นกันเองที่ได้รับจากคนที่ผมพบเจอในขณะที่ผมอยู่ที่นี่ ชอบความสงบที่ซึ่งซ่อนตัวในเมืองนี้ถึงแม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในเมืองๆนี้ ผมคิดว่าเรายังคงหามุมสงบซึ่งเป็นมุมที่เราจะไว้พักผ่อนทั้งกายและใจของเราได้เสมอ ผมประทับใจมากครับกับการมาบาหลีครั้งแรกของผมและผมหวังว่าผมคงมีโอกาสได้กลับไปตักตวงความสุข และสัมผัสกับบรรยากาศที่ดีๆเหมือนครั้งนี้อีกสักครั้งครับ

ตามต่อรีวิวบาหลีคราวหน้าครับ

ตอนต่อไปครับ

 

Create Date : 08 มิถุนายน 2552		3 comments
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2554 11:40:50 น.
Counter : 6497 Pageviews.
Share Tweet