ตาโต แก้มป่อง
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
ปวดประจำเดือน

หลายคนคงประสบปัญหากับอาการปวดประจำเดือนตัวเราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ปวดประจำเดือนเลยเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการเหล่านี้เพิ่มเติมเพราะจิตตกอย่างแรงกลัวจะเป็นอะไรร้ายแรง เพราะปวดมาตั้งแต่เป็นประจำเดือนครั้งแรกและจนกระทั่งถึงทุกวันนี้  พอมาเจอข้อมูล  โอ้ว กรุปวดแบบ  ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ ( secondary dysmenorrhea ) อาการแบบนี้เลย  ยิ่งอ่านยิ่งจิตตก  นึกย้อนไปถึงตอนที่อยู่ม.ปลายมีเพื่อนที่ปวดประจำเดือนมากๆแบบนี้เหมือนกัน  แล้วไปโรงพยาบาลบอกอาการหมอและอยากตรวจภายในแต่หมอไม่ตรวจให้  บอกว่าอายุยังน้อยไม่ตรวจให้ ตอนที่ไปถามอายุประมาณ 17-18  สรุปคือจะให้ไปใช้งานโชกโชนก่อนชิมิค่ะค่อยมาตรวจมันจะได้ง่ายๆ ไม่สร้างความเจ็บปวด จะให้ไปตรวจเองก็ยังทำใจไม่ได้เพราะเคยได้ยินว่าเครื่องมือตรวจภายในมันสร้างความเจ็บปวดขนาดไหน ช่างมันเหอะ  มาต่อเรื่องที่เป็นสาระดีกว่า

 



 



 


ปวดประจำเดือน ( Dysmenorrhea )
ปวดประจำเดือน หมายถึง อาการปวดท้องขณะมีประจำเดือน พบได้ประมาณร้อยละ 71 ของผู้หญิงในวัยที่มีประจำเดือน ส่วนใหญ่จะปวดไม่มากและสามารถทำงานได้ตามปกติ ส่วนน้อยเท่านั้นที่อาจปวดรุนแรงจนต้องพักงาน

 



 อาการปวดประจำเดือนแบ่งได้เป็น ชนิดปฐมภูมิ ( หรือไม่ทราบสาเหตุ ) ซึ่งพบเป็นส่วนมาก กับชนิดทุติยภูมิ ( หรือมีสาเหตุ ) ซึ่งพบเป็นส่วนน้อย

 



 ปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ ( primary dysmenorrhea ) จะพบในเด็กสาว ส่วนมากจะเริ่มมีอาการตั้งแต่มีประจำเดือนครั้งแรก หรือไม่ก็เกิดขึ้นภายใน 3 ปีหลังมีประจำเดือนครั้งแรก จะมีอาการมากที่สุดในช่วงอายุ 15-25 ปี หลังจากวัยนี้อาการจะค่อยๆลดลงบางรายอาจหายปวดหลังแต่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมีบุตรแล้ว จะมีน้อยที่ยังอาจมีอาการตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน

 



 ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ ( secondary dysmenorrhea ) จะมีอาการปวดครั้งแรกเมื่อมีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป โดยก่อนหน้านี้จะไม่เคยมีอาการปวดประจำเดือนเลย
สาเหตุ
 ปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ จะไม่มีความผิดปกติของมดลูกและรังไข่แต่อย่างใด ปัจจุบันนี้เชื่อว่า มีสาเหตุมาจากเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างมีประจำเดือน และมีการหลั่งสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) มากผิดปกติ ทำให้มดลูกมีการบีบเกร็งตัวเกิดอาการปวดที่บริเวณท้องน้อย
ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ มักมีความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ เช่น เยื่อบุมดลูกงอกผิดที่ (endometriosis ถ้าเป็นที่รังไข่จะชอบมีแพทย์เรียกว่า ซิสชอกโกแลทchocolate cyst) , เนื้องอกมดลูก ( myoma ) , มดลูกย้อยไปด้านหลังมาก , ปีกมดลูกอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
เชื่อว่าอารมณ์มีส่วนเสริมความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนทั้ง 2 ชนิด เช่น พบว่าคนที่อารมณ์อ่อนไหวง่ายหรือมีความเครียดจะมีอาการปวดรุนแรงกว่าคนที่มีอารมณ์ดี

 


อาการ
 จะเริ่มมีอาการก่อนมีระจำเดือนไม่กี่ชั่วโมง และเป็นอยู่ตลอดช่วง 2-3 วันแรกของประจำเดือน โดยมีอาการปวดบิดเป็นพักๆ ที่บริเวณท้องน้อย บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ใจคอหงุดหงิดร่วมด้วย
 ถ้าปวดรุนแรงอาจมีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น มือเท้าเย็นได้

 


การรักษา
1. ถ้าปวดไม่มาก ให้กินยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน หรือพาราเซตามอล ครั้งละ 1-2 เม็ด เวลาปวด ซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง
2. ถ้าปวดมาก ให้นอนพัก ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบหน้าท้อง และให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ เช่น พอนสแตน, ไอบูโพรเฟน ครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหาร ควรกินก่อนมีประจำเดือน 48 ชั่วโมง และกินทุกวันจนเลือดประจำเดือนหยุดออก หรือให้ยาแอนติสปาสโมดิก เช่น อะโทรพีน, ไฮออสซีน ครั้งละ 1-2 เม็ด  บรรเทาปวด ซ้ำได้ทุก 6 ชั่วโมง
3. ถ้าปวดจนมีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น ให้ฉีดแอนติสปาสโมดิก เช่น อะโทรพี หรือไฮออสซีน  - 1 หลอด เข้ากล้ามเนื้อเข้าหลอดเลือดดำ ถ้าไม่ทุเลาควรส่งโรงพยาบาล
4. ในรายที่เป็นอยู่ประจำ อาจให้กินยาเม็ดคุมกำเนิด (กินแบบเดียวกับใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด คือวันละ 1 เม็ด ทุกวัน) เพื่อมิให้มีการตกไข่ จะช่วยไม่ให้ปวดได้ ชั่วระยะหนึ่ง อาจให้ติดต่อกันนาน 3-4 เดือน แล้วลองหยุดยา ถ้าหากมีอาการกำเริบใหม่ ก็ควรให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดต่อไป อีกสักระยะหนึ่งจนกว่าเมื่อยาหยุดแล้ว อาการปวดประจำเดือนทุเลาลงไป
5. ถ้าพบว่าอาการปวดประจำเดือนเริมเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในผู้หญิงอายุมากกว่า 25 ขึ้นไป หรือมีอาการปวดมากหลังแต่งงาน หรือมีเลือดประจำเดือนออกมากกว่าปกติ ควรแนะนำไปโรงพยาบาล อาจต้องตรวจภายใน และทำการตรวจพิเศษ เช่น อัลตราซาวนด์, การใช้กล้องส่องตรวจช่องท้อง (laparoscope) เป็นต้น เพื่อค้นหาสาเหตุให้แน่นอน และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ
ข้อแนะนำ
1. ควรให้ความมั่นใจแก่เด็กสาวที่เริ่มมีอาการปวดประจำเดือนว่า โรคนี้ไม่มีอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด และส่วนใหญ่เมื่ออายุมากขึ้นอาจทุเลาหรือหายได้เอง ตลอดจนให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับประจำเดือน
2. ผู้หญิงที่เคยมีอาการปวดประจำเดือนเป็นประจำ ถ้าหากมีอาการปวดท้องรุนแรงผิดไปจากที่เคยเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีอาการกดเจ็บตรงท้องน้อยข้างขวาก็ควรจะรีบไปหาหมอ อาจเกิดจากไส้ติ่งอักเสบ หรือสาเหตุที่ร้ายแรงอื่นๆ ได้

 



 


//www.thaihealth.net/h/article523.html

 






Free TextEditor


Create Date : 28 มกราคม 2552
Last Update : 28 มกราคม 2552 5:52:35 น. 0 comments
Counter : 117 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

azunrakay
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เธอเห็นไหม เธอเห็นไหม ข้างในดวงตา
อยากให้เธอค้นหา สิ่งที่มันซ่อนอยู่
เธอรู้ไหม เธอรู้ไหม ข้างในดวงใจ
มีเรื่องราวมากมายที่อยากให้เธอรับรู้

แค่เพียงเธอมองให้ลึก มองให้ซึ้งถึงในดวงตา
แล้วเธอจะได้เห็นความจริง คนๆนึงต้องทรมานแค่ไหน
แท้ที่จริงตัวฉันที่เธอว่าใจร้าย ก็มีจิตใจ ที่เหมือนๆเธอ

เธอเห็นไหม เธอเห็นไหม ข้างในดวงตา
ที่มันยังฝันหาความรักแท้ของใคร
อยากขอร้อง อยากขอร้อง ให้เธอจงฟัง
สิ่งที่ตัวฉันหวัง อยากให้เป็นเธอได้ไหม

แค่เพียงเธอมองให้ลึก มองให้ซึ้งถึงในดวงตา
แล้วเธอจะได้เห็นความจริง คนๆนึงต้องทรมานแค่ไหน
แท้ที่จริงตัวฉันที่เธอว่าใจร้าย ก็มีจิตใจ ที่เหมือนๆเธอ

คนเดียวที่คอยรับรู้ คนเดียวที่ยังเข้าใจ
มีบ้างไหม ที่อยู่บนโลกนี้..

แค่เพียงเธอมองให้ลึก มองให้ซึ้งถึงในดวงตา
แล้วเธอจะได้เห็นความจริง คนๆนึงต้องทรมานแค่ไหน
แท้ที่จริงตัวฉันที่เธอว่าใจร้าย ก็มีจิตใจ ที่เหมือนๆเธอ
Friends' blogs
[Add azunrakay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.