|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เลือกคนที่รัก..เลือกพรรคไปคาน
ข้อเสนอจากการเมืองของพลเมือง...""เลือกคนที่รัก เลือกพรรคไปคาน" กระทู้จากราชดำเนิน.....เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ...10 ธค. 47
Create Date : 25 กรกฎาคม 2548 |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2548 2:52:22 น. |
|
82 comments
|
Counter : 716 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Can (ไทเมือง ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:55:32 น. |
|
|
|
โดย: . (ไทเมือง ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:56:54 น. |
|
|
|
โดย: . (ไทเมือง ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:57:57 น. |
|
|
|
โดย: . (ไทเมือง ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:58:46 น. |
|
|
|
โดย: . (ไทเมือง ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:00:35 น. |
|
|
|
โดย: . (ไทเมือง ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:02:01 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:03:51 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:05:06 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:06:08 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:07:31 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:08:26 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:09:41 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:10:52 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:11:32 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:12:53 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:13:55 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:14:59 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:15:58 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:17:20 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:18:02 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:19:14 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:20:03 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:20:42 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:21:16 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:21:46 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:23:27 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:23:58 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:25:06 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:26:42 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:27:18 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:27:50 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:28:54 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:29:53 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:32:50 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:35:27 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:36:05 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:36:57 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:37:51 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:38:35 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:39:54 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:40:39 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:41:47 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:42:49 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:43:22 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:44:01 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:44:50 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:45:25 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:46:53 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:47:28 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:48:39 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:49:14 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:49:51 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:50:22 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:51:00 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:51:35 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:52:09 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:52:45 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:53:21 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:55:14 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:55:51 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:57:36 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:58:13 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:58:58 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:59:34 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:00:10 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:01:20 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:02:42 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:03:50 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:05:43 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:06:20 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:08:12 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:08:49 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:09:29 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:10:07 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:10:46 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:11:24 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:16:02 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:16:58 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:18:04 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:18:44 น. |
|
|
|
โดย: ไทเมือง วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:20:00 น. |
|
|
|
โดย: zzz IP: 61.19.54.238 วันที่: 30 มีนาคม 2549 เวลา:15:24:16 น. |
|
|
|
| |
|
|
จึงขอนำเสนอแนวคิดของประชาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งประชุมสัมนาและได้สรุปแนวทางไว้ ซึ่งจะนำข้อเสนอนี้ไปจัดเวทีอภิปราย ถกเถียงกันในจังหวัดของตน
และขอนำเสนอในกลุ่มผู้สนใจในโลกอินเตอร์เน็ต...คิดอย่างไรในการโหวต 48...."เลือกคนที่รัก..เลือกพรรคไปคาน"
เจตนารมณ์สำคัญหนึ่งของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มุ่งส่งเสริมการเมืองของพลเมือง เพื่อให้ประชาชนมีบทบาทโดยตรงในการกำหนดอนาคตของตนเอง ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และในกระบวนการมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายสาธารณะ
แต่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมามักขาดความตั้งใจที่ผลักดันนโยบายเพื่อส่งเสริมการเมืองของพลเมือง หรือการพัฒนาระบบประชาธิปไตยทางตรง
4 ปีของรัฐบาลปัจจุบัน จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อำนาจตัดสินใจบริหารราชการแผ่นดิน และการแก้ปัญหาของประเทศได้ถูกทำให้รวมศูนย์อยู่ที่กลไกรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีฝ่ายเดียว กลไกระบบตรวจสอบถูกบั่นทอน และแทรกแซง จนลดความสำคัญลงมาก
ประชาชนฐานล่างในชนบทได้รับการหว่านโปรยด้วยโครงการในแนวทางประชานิยมหลากรูปแบบ ระบบเศรษฐกิจใหม่ดูท่าจะสวนทางกับวิถีเศรษฐกิจพอเพียง
ปัญหาทางสังคม ซึ่งมีธรรมชาติและปัจจัยสลับซับซ้อน ที่แก้โดยวิถีของอำนาจ และนิสัยใจเร็วใจร้อนของผู้นำได้นำไปสู่การละเมิดสิทธิของประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งในเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด การชุมนุมเรียกร้องของประชาชนตามสิทธิอันพึงมี และกรณีความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในขณะเดียวกัน นอกจากไม่ส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นพลเมืองแล้ว ยังลิดรอนและปิดกั้นบทบาทขององค์กรภาคประชาชน ปรากฏการณ์ และข้อเท็จจริงเหล่านี้สะท้อนความล้าหลังของประชาธิปไตยแบบเลือกผู้แทน
ช่วงนี้การโหมโรงของพรรคการเมือง เพื่อแย่งชิงที่นั่ง และพื้นที่ในการเลือกตั้งปี 2548 มีความดุเดือดมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นครั้งแรกที่ทุกพรรคการเมืองต่างเสนอนโยบายที่มีจุดเด่นในการเสนอตัวเป็นตัวแทนประชาชนเข้าบริหารประเทศ
สถานการณ์ที่เป็นจำนวนที่นั่ง ส.ส.ของพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน แม้เริ่มต้นจากคะแนนต่ำกว่า 250 เสียง จึงต้องตั้งรัฐบาลผสม แต่ในที่สุดก็มีการยุบพรรคการเมืองอื่นเข้ามาโดยอาศัยความได้เปรียบในการเป็นรัฐบาล โดยเริ่มจากพรรคเสรีธรรม พรรคความหวังใหม่ และพรรคชาติพัฒนา ทำให้รัฐบาลมีคะแนนเสียงรวม 330 เสียง จาก 500 ที่นั่ง จึงมีความพร้อมที่จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว โดยที่ฝ่ายค้านหมดโอกาสจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี
ถ้าพิจารณาในส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทยมี ส.ส.ในระบบบัญชี 63 ที่นั่ง (เป็นไทยรักไทยเดิม 48 ที่นั่ง ความหวังใหม่ 8 ที่นั่ง และชาติพัฒนา 7 ที่นั่ง) กับพรรคชาติไทยอีก 6 ที่นั่ง ส่วนฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์มีเพียง 31 ที่นั่ง
รัฐบาลปัจจุบันจึงมีความเข้มแข็งจนยากที่จะมีใครมาดุลคานได้ ทั้งจากภายใน ได้แก่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และจากภายนอกคือ ฝ่ายค้าน องค์กรอิสระ และพลังนอกรัฐสภา ที่โหวตเชิงยุทธศาสตร์ โหวตเพื่อสังคมเข้มแข็ง และเพื่อเปรียบเทียบนโยบายของพรรคการเมืองโดยใช้ทิศทางว่าด้วย "เศรษฐกิจพอเพียง สังคมเข้มแข็งและสันติภาพ" เป็นกรอบพิจารณา ตลอดจนความน่าเชื่อถือของบุคคลแกนนำและผู้นำของพรรคที่รักษาคำมั่นสัญญา ว่าจะทำจริงตามที่ประกาศไว้
สถานการณ์ปัจจุบันกล่าวได้ว่า ภาคประชาชนจะไม่สามารถเลือกผู้สมัครคนใดและพรรคการเมืองใดแบบง่ายๆ ตรงๆ เพื่อที่จะมอบความไว้วางใจให้เข้าไปผลักดันนโยบายในทิศทางอันพึงประสงค์ได้เลย จึงนำเสนอให้ใช้การโหวตเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแสดงบทบาทของการเมืองของพลเมืองในสถานการณ์เลือกผู้แทนในคราวนี้
โหวตเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่เพียงแค่การโหวตเพื่อเลือกใครมาเป็นผู้แทน หรือเลือกพรรคใดมาเป็นรัฐบาล แต่ประชาชนจะต้องมีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่ใหญ่และลุ่มลึกกว่านั้น
โอกาสของการเลือกตั้งที่กำลังมาถึงนี้ ในฐานะของผู้ปฏิบัติเครือข่ายการเมืองของพลเมืองขอเปิดประเด็นให้มีการพูดคุย ถกเถียงกันให้มากว่า เราจะโหวตเชิงยุทธศาสตร์กันอย่างไร
เวทีนโยบายสาธารณะเพื่อเอาชนะความยากจน เมื่อ 26 พ.ย.มีการเสนอว่า เราควรตั้งเป้าหมายของการโหวตเพื่อให้ได้มาซึ่งสภาวะที่จะเอื้อให้มากที่สุดต่อกระบวนการสังคมเข้มแข็งในอีก 4 ปีข้างหน้า
เราต้องการฐานรากของสังคมที่เข้มแข็ง จากนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงและชุมชนเข้มแข็ง ไม่ใช่นโยบายประชาสงเคราะห์ หรือประชานิยมแบบไม่รู้จบ
ท้องถิ่นเข้มแข็งจากนโยบายกระจายอำนาจ และการพัฒนาศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่การรวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลางหรือรัฐบาล
ภาคสังคมต้องเข้มแข็งจากนโยบายสนับสนุนสื่อมวลชนให้มีอิสระและมีความสามารถ นโยบายสนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรภาคประชาสังคมอย่างเต็มที่ ไม่ใช่นโยบายควบคุมสื่อ และกีดกันบทบาทของภาคประชาชน
ต้องมีองค์กรอิสระที่เข้มแข็งจากนโยบายที่เคารพ และสนับสนุนบทบาทขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่นโยบายที่แทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม
เวลาเดียวกันรัฐบาลต้องมีศักยภาพในการดูแลปัญหาเศรษฐกิจระดับมหภาค การแข่งขันกับต่างประเทศ และการเจรจาต่อรองกับโลกาภิวัตน์ ดังนั้นที่ประชุมจึงเสนอว่า เป้าหมายของการลงคะแนนครั้งนี้ควรมุ่งไปที่การมีรัฐบาลที่เข้มแข็งพอประมาณ และมีพรรคฝ่ายค้านที่มีกำลังเพียงพอเป็นสำคัญ
การระดมความคิดในเวทีนโยบายสาธารณะครั้งล่าสุด กลุ่มแกนประสานเครือข่ายการเมืองของพลเมือง จาก 76 จังหวัด ช่วยกันคิดหาวิธีการที่เป็นรูปธรรมสำหรับการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสังคมเข้มแข็งว่าควรเป็นอย่างไร
เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์ และแนวโน้มจากกระแสความนิยมของประชาชนทั่วประเทศ ทั้งในชนบท และในเมืองเข้ามาประกอบ และแยกแนวทางการเลือก ส.ส.เขตกับการเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคออกจากกัน
เราต้องการคนที่เรารัก เราไว้ใจได้ เป็นผู้รักษาคำมั่นสัญญา และสามารถเรียกใช้ไหว้วานได้ง่ายเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.เขต เพื่อเปิดโอกาสให้กระบวนการทางสังคมได้เข้าไปเชื่อมได้ง่ายขึ้นหลังการเลือกตั้ง เพราะ ส.ส.เขตเหล่านี้จะมีหน้าที่หลักในด้านนิติบัญญัติจึงมีเวลาทำงานร่วมกับประชาชนได้มากกว่าพวกที่ต้องเข้าไปบริหารประเทศ
ส.ส.เขตที่มีอยู่ 400 เสียง จะเป็นตัวชี้ขาดว่า พรรคใดจะได้เป็นรัฐบาล และจะเป็นฐานสำคัญที่ค้ำจุนฝ่ายบริหารที่มาจาก ส.ส.จากบัญชีรายชื่อ และก็เป็นอำนาจดุลคานส่วนหนึ่งที่ฝังอยู่ภายใน
ที่ประชุมมีข้อสรุปเชิงยุทธวิธีว่า "เลือกคนที่รัก" จากผู้สมัครเป็นรายเขต กล่าวคือ ไม่ว่าจะชอบผู้สมัครเป็นการส่วนตัว หรือชอบพรรคที่สังกัดก็ตาม เราจะเลือกคนที่รัก และพรรคที่ชอบผ่านผู้สมัคร ส.ส.เขตตามแนวทางนี้
สำหรับการเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น หากไม่สนใจการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ก็คงให้ไปเลือกพรรคที่ชื่นชอบหรือพรรคที่มีนโยบายเตะตาต้องใจ แต่การเลือกตั้งคราวนี้มีความหมายมากต่อการสร้างสภาวะที่ดุลคานให้พอเหมาะพอดี ระหว่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายตรวจสอบ รวมทั้งฝ่ายประชาชนนอกรัฐสภาด้วย
เราอยากเห็นรัฐบาลที่มีเสียงไม่เกิน 280 เสียง ในกรณีที่เป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือไม่เกิน 300 เสียง (จาก 500 เสียง) ในกรณีที่เป็นรัฐบาลผสม
ถ้าพิจารณาเฉพาะส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ค้ำจุนรัฐบาลด้วยแล้ว ก็อยากเห็นรัฐบาลที่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อรวมกันไม่เกิน 50 เสียง (จาก 100 เสียง) ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือรัฐบาลผสม เพื่อป้องกันการเหลิงจนเกินเหตุ
"เลือกพรรคไปคาน" คือ ยุทธวิธีการโหวตเพื่อสังคมเข้มแข็งสำหรับการเลือกตั้งคราวนี้ กล่าวคือ หากเราประเมินแล้วว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือรัฐบาลผสม ก็จะเลือกพรรคตรงกันข้าม เพื่อ "ไปดุล-ไปคาน" โดยมิได้มีเจตนาที่จะสนับสนุนหรือสกัดกั้นใคร โดยถือว่าผู้สมัครทุกคน ทุกพรรคการเมือง คือ เพื่อน คือ มิตร ซึ่งต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่
"เลือกคนที่รัก เลือกพรรคไปคาน" เป็นเพียงการเปิดประเด็นให้ประชาชนได้มีการถกเถียงกัน และนำไปสู่การเรียนรู้จากปฏิบัติ คือ การเมืองของพลเมืองตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง
บทความนี้ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป หัวเรือใหญ่ของคณะทำงานเครือข่ายการเมืองของพลเมืองสรุปได้ชัดเจนดีแล้วจึงนำมาเปิดหัวปิดท้าย เพื่อสังคมราชดำเนินโดยเฉพาะครับ
มิได้มีเจตนาให้ร้ายหรือโจมตีพรรคการเมืองใดเป็นการเฉพาะ
ท่านใดมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม เชิญเติมความเห็นตามสบายครับ...
จากคุณ : Can - [ วันรัฐธรรมนูญ