การเมืองเรื่องหน้าหนาว.....ลาสาวไปขายแรง
ปลายฝนต้นหนาว ปี พ.ศ. 2547...
การหาเสียงเลือกตั้งกำลังเข้มข้น
นี่คือปรากฎการณ์ในฤดู...ข้าวใหม่...ปลามัน...บันทึกไว้ให้อ่านเล่น
Create Date : 03 กันยายน 2548 |
|
12 comments |
Last Update : 3 กันยายน 2548 3:56:46 น. |
Counter : 664 Pageviews. |
|
|
|
ลมหนาวจากเหนือลอยมาเรื่อย ๆ...
มันลอยมาเอื่อย ๆ ไม่สนใจว่าใครจะหนาวเหน็บ
เสื้อกันหนาวมือสอง..ทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นได้ไม่แพ้เสื้อตัวใหม่...ใหม่ที่นี่...เก่าที่อื่น
พอๆกับ สส.ย้ายพรรค....จากคนรักกลายเป็นคนชัง
สส.มือสอง...ใหม่ที่นี่เก่าที่อื่น...หยิบยื่นเงินให้...4 ปี..ครั้งหนึ่ง
มองดูกองข้าวจากนาข้างเคียงปี้นี้แม้ข้าวราคาดี...แต่ผลผลิตก็ไม่มากเหมือนทุกปี
เวลานำไปขายคงไม่ได้มากพอที่จะนำไปคืนกองทุนหมู่บ้านที่กู้ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 3
หากถึงเวลาจำเป็นตอนนั้นคงต้องกู้หนี้ฉุกเฉิน...
ดอกเบี้ยสูง...มาต่อดอกกองทุนหมู่บ้านเช่นปีที่แล้ว....
เพราะกู้มาปีแรกก็นำไปใช้หนี้เก่าดอกเบี้ยมหาโหดกันหมดแล้ว...
ปีต่อๆมาก็จำเป็นต้องกู้หนี้เพื่อต่อหนี้...เพราะไม่รู้จะหนีไปใหน เกิดที่นี่ เป็นหนี้ที่นี่...จะหนีไปใหน
จากน้ำท่วม...แล้วก็แล้ง...จากแล้งแล้วก็หนาววนเวียนซ้ำซาก
พื้นนาหลังเก็บเกี่ยวเริ่มแตกระแหง....บางแห่งเหลือตอซังไว้ให้วัวควายได้เล็มบ้าง
หนุ่มสาวเดินเป็นกลุ่มๆ มุ่งสู่สถานีรถไฟ....วารินชำราบ อุบลราชธานี
เหมือนเช่นทุกปี...ไปขายแรงงานหลังฤดูเก็บเกี่ยว บ้างเข้ากรุงเทพ บ้างลงใต้ไปเก็บกาแฟ บ้างไปตัดอ้อย...ใกลถึงมาเลย์เซีย...
กลับอีกทีก็คงมาเลือกตั้ง...เขาว่ายังงั้น
มีคนออกค่ารถกลับบ้านพร้อมๆกับค่าแรงงานที
่พอจะเหลือมาต่อดอกเบี้ยชีวิต...เขาบอกเรายังงั้น
เสียงสะนูจากว่าว "ดุ๊ยดุ่ย" หรือว่างสะนูอีสานกล่อมตั้งแต่ยามต้นไปใกล้จนรุ่งสาง.....
บัดนี้เสียงเสนาะหูที่แข่งกันดังหลายเสียง...เริ่มหายไปทีละเสียงสองเสียง....ลมสงัดเมื่อใกล้สาง
เหลือเพียงเสียงกระซิบร่ำไห้ของหญิงม่ายแรงงานที่ต้องเลี้ยงดูลูกเต้าที่กำลังเติบโต....
เหนื่อยหน่อยนะพี่...ปีนี้ก็เหมือนทุกปี เสียงกระซิบอำลาอาลัยเหมือนหยาดน้ำค้างชะโลมใจผู้เป็นสามีที่กำลังจะจากไป
ลมหนาวนี้มันเจ็บและบาดลึกลงไปในหัวใจคนชนบท ที่เขาเรียกซะหรูหราว่า..รากหญ้า...
สัมนาหน้ากองไฟยามเช้าคงขาดสมาชิกไปอีกหลายคน..ลดจำนวน "ข้าวจี่" ลงได้ไม่ต้องเผื่อกันอีก
ลากันทั้งที่หนาว...ลาสาวไปขายแรงงาน...จากท้องทุ่งบ้านหนองแคนมุงสู่แดนศิวิไลซ์ ( คำเก๋ไก๋ปลอบใจคนขายแรง )
เราจะพบกันใหม่เมื่อได้ยินเสียงเรียกให้ไปกาบัตร....
เงินไม่มากาไม่ได้เพราะตัวอยู่ใกล...
ถ้าอยากได้เสียงเอาค่ารถมาสิ.......นโยบายอะไรก็ไม่สนใจแล้ว
นิยายเก่าๆ ฟังครั้งแล้วครั้งเล่า
ก็ร้อยเนื้อทำนองเดียว...
แต่มันก็เป็นความจริงของสังคมคนชายขอบ...ที่จนป่านนี้ยังหาคำตอบให้ชีวิตไม่ได้
หรือเกิดมาเพื่อเป็นคนค้ากำปั้นเช่นนี้ตลอดไป...หาเงินใช้หนี้ เหลือค่อยได้กิน
หยาดเหงื่อจะไหลรินจนหมดร่างเพื่อสร้างหนี้และใช้หนี้
หากยังเป็นเช่นนี้....แล้วเมื่อไหร่จะพอเพียง
หนาวปีนี้...หนาวยิ่งกว่าทุกปี....แม้มีเสื้อกันหนาวมือสอง
เสียงประกาศจากรถหาเสียงผู้แทนเมื่อเย็นวาน...เหมือนสัญญาณบอกให้รู้
เงินกำลังจะไหลมา....แต่ตอนนี้ขอเดินทางไปค้ากำปั้น
ถึงวันนั้นส่งค่ารถไปรับด้วย....เพราะชีวิตที่ต้องก้าวเดินคงเพลิดเพลินบางเวลา
หนทางข้างหน้าจะถูกเบี้ยวค่าแรงหรือไม่....พระเจ้าบนสรวงสวรรค์เท่านั้น จะให้คำตอบได้
อย่างน้อยเราก็ได้ปลอบใจ อีก 4 ปี คนไทยจะหายจน
....เสียงรำพึงจากท้องทุ่ง....