มกราคม 2553

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
การบ้านแม่ภาค2.1 ความรู่้เรื่องIB
- ในที่สุดหลังจากฟังคนนั้นทีคนนี้ที่พาสับสนอลมานในชีวิตเป็นท่ีสุด สุดท้ายก็มาปักหลักที่ระบบIB แล้วไอ้IBที่ว่านี่มันคืออะไร ก็ควานหาข้อมูลมา เผื่ิอเด็กชายโตขึ้นจะได้รู้เหตุผลว่าทำไมเค้าถึงมาโตในระบบนี้ ระบบที่ว่านี่คือ International Baccalaureate (IB) เกิดขึ้นเมื่อปี 1968 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบการศึกษาที่ดีที่สุด และได้รับการยอมรับทั่วโลก การศึกษาในระบบนี้เริ่มตั้งแต่เด็กอายุ 3 จนถึง 19 ปี แบ่งเป็น 3 ระดับด้วยกันคือ

•IB Primary Years Programme สำหรับเด็กอายุ 3-12 ปี เป็นช่วงที่หลักสูตรจะเน้นให้เด็กรู้จัก คิด, ถาม, สื่อสาร, ยอมรับความเสี่ยง, มีหลักการ, เรียนรู้อย่างรอบด้าน, มีความรับผิดชอบ, รู้จักมองตัวเอง, ใจกว้าง และ พอเพียง ทั้งหมดเป็นหลักการที่ครูต้องเอาใจใส่ต่อเด็กอย่างยิ่งยวด

•IB Middle Years Programme สำหรับเด็กอายุ 11-16 ปี (เกรด 6-10) มีรายวิชาทั้งหมด 8 กลุ่ม ได้แก่ ภาษาหลัก, ภาษาเลือก, มนุษยวิทยา, วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, ศิลปะ, พลศึกษา และเทคโนโลยี โดยนักเรียนต้องเรียนอย่างต่ำ 50 ชัวโมงต่อปี ในแต่ละรายวิชา นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถเสนอรายวิชาที่ตัวเองคิดว่าสำคัญต่อการเรียนให้โรงเรียนจัดการสอนให้ได้ด้วย อย่างไรก็ตามการเรียนในระดับนี้นักเรียนต้องมีโครงการส่วนตัว (Personal Project) เสนอก่อนจบ เสมือนการทำวิจัยของนักเรียนหากไม่สำเร็จจะไม่สามารถเรียนต่อในระดับต่อไปได้

•IB Diploma Program สำหรับเด็กอายุ 16-19 ปี มีวิชาบังคับ 6 ตัว ได้แก่ ภาษาหลัก, ภาษาเลือก, สังคมศาสตร์ และปัจเจกวิทยา, วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ ศิลปะ รวมถึงวิชาอื่นๆที่สามารถเลือกเรียนได้ ขึ้นอยู่กับโรงเรียนแต่ละแห่ง การสำเร็จการศึกษาในระดับนี้นักเรียนต้องมี ชั่วโมงเรียนไม่ต่ำกว่า 50 ชั่วโมงต่อปี ในแต่ละรายวิชา รวมทั้งต้องมีเรียงความเชิงทฤษีไม่น้อยกว่า 4,000 คำ การให้เกรดแบ่งเป็นเกรด 1 ถึง 7

ในประเทศไทย

โรงเรียนนานาชาติต่าง ๆ นับสิบได้ใช้หลักสูตร IB ในการเรียนการสอนแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมีเพียงแค่หลักสูตรเดียวคือ หลักสูตรการศึกษาระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ (IBDP) เท่านั้น ขณะนี้ในประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติสามแห่งที่มีการเรียนการสอนในหลักสูตร IB ทั้งสาม ได้แค่
1โรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทยแห่งใหม่ (New International School of Thailand หรือ NIST)
อันนี้อ่านระเบียบการแล้วคงยากมากเพราะเด็กชายไทยแท้ หาได้มีpassportต่างชาติ คงหมดสิทธิ
2โรงเรียนนานาชาติเปรม ติณสูลานนท์ (Prem Tinsulanonda International School หรือ PTIS หรือ Prem Center ในจังหวัดเชียงใหม่) ไกลมากคงต้องย้ายถิ่นฐาน มีเพื่อนที่รู้จักพาครอบครัวย้ายไม่หางานใหม่ที่เชียงใหม่เพื่อให้ลูกได้เรียนที่นี่เลย เก๋มากพ่อแม่ แต่ที่บ้านมิสามารถ
3โรงเรียนนานาชาติคอนคอเดียน(Concordian International School หรือ CIS) คงเข้าทางสุด เพราะนับข้อดีสนับสนุนความคิดตัวเองหรือเปล่าไม่รู้ ข้อดีที่1ได้IB ข้อดีที่2 ได้ภาษาจีน ข้อดีที่3ไม่ไกลบ้านมาก แต่ข้อเสีย แพงมาก ราคาน่ากลัว แต่ชั่งไปชั่งมากอันนี้ก็เข้าวินนะ

ส่วนอันนี้มาใหม่ตัวเลือกใหม่มาเมื่อเช้านั้นคือ KISเดี๋ยววันที่1นี้จะไปvisitดูIBเช่นกัน ไกลบ้านไม่มาก ดูจากwebก็น่าสนใจ เดี๋ยวมาว่ากันต่ออีกที่งานนี้หาข้อมูลเหมือนทำรายงานเลย ขอบคุณgoogleที่มีทุกอย่างให้ ลูกตื่นแล้วไปหล่ะ




Create Date : 19 มกราคม 2553
Last Update : 20 มกราคม 2553 16:03:23 น.
Counter : 2816 Pageviews.

1 comments
  
ขอให้เลือก cis น่าจะเลือกได้นานแล้ว
รออะไรอยู่จะรอให้คุณยายจ้าจักดการให้หรือรออะไร

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: คุณยายจ้า (คุณยายจ้า ) วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:15:33:51 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

callmehenry
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงผู้หญิงทำงานนอกบ้าน บ้างานธรรมดาคนหนึ่ง ที่หลายครั้งคนถามว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร ทำงานไปเพื่ออะไร คำตอบมีมากมาย แต่มาวันนี้ ขณะนี้ละทิ้งทุกอย่างมาเป็น Full time mommy ดูแลลูกลิงน้อยทั้ง 2 และ มีคำตอบให้คำถามเดิมได้ว่า ชีวิตนี้ต้องการให้ลูกมีความสุข มากกว่าที่มี๊เคยมี เคยเป็น รักลูกมาก และ มากขึ้นทุกวัน ขอบคุณลูกที่มอบ ความเป็นแม่ให้มี๊ มี๊จะทำให้ดีที่สุด มี๊สัญญา...