20 กวีชุมนุมวรรณศิลป์ ตอนที่ 3 นิภา บางยี่ขัน
นิภา บางยี่ขัน เป็นนักกลอนนามอุโฆษในยุคตำนานนักกลอนสี่มือทองของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แก่ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, ทวีสุข ทองถาวร (เสียชีวิต), ดวงใจ รวิปรีชา (เสียชีวิต) ศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำเร็จการศึกษาแล้วประกอบอาชีพเป็นพนักงานธนาคารกรุงเทพ เพื่อน ของ นิภา บางยี่ขัน
๐ ทุกทุกแห่ง ที่เรา เคยก้าวย่าง ทุกทุกทาง ที่เรา เศร้าและสุข ทุกทุกหน เราซานซม ล้มแล้วลุก ทุกทุกครั้ง ที่เราปลุก ปลอบแก่กัน
๐ แม้ทั้งหมด จดจำ ไว้ล้ำลึก นึกและนึก ในใจ ยังไหวหวั่น หวามวันที่ จะมาถึง เข้าหนึ่งวัน วันที่ผัน เราพราก กันจากไกล
นิภา บางยี่ขัน สนใจเขียนบทร้อยกรองตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาทั้งที่ตนเองชอบเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งชมรมวรรณศิลป์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นนักกลอนสดเชิงปฏิภาณกวีระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่เข้าประกวดแข่งขันในระดับต่างๆ ทำให้กิจกรรมการแข่งขันประชันกลอนสดเผยแพร่ไปทั่วทุกภูมิภาค ได้รับฉายาว่า “บุษบา ท่าพระจันทร์” ๐ ภาพคืนวัน จันทร์พริ้ม น้ำปริ่มเขื่อน ลงลอยเลื่อน เรือรัก นักภาษา นั่งเท้าแขน บรรสาน ขานสักวา ชนะกลอน แพ้ตา จึงปราชัย
๐ เพลงปลาทอง เพลงสุดท้าย ชวนไห้หา สักวา...ลาจาก...อยากร้องไห้ ร้องเพราะว่า นาที ต่อนี้ไป ในหัวใจ มีเขา เป็นเจ้าครอง
"วันที่ดอกไม้โรย"
"...ดอกโสนโรยร้าว ดอกคัดเค้าโรยรา ดอกประดู่ร่วงนักหนา ไม่มีวันกลับมาแล้วเอย..."
๐ ทุกทุกสิ่งแล้วล้วนชวนถวิล ดูด่วนสิ้นโรยราผกาเอ๋ย ขอมองไว้อีกสักนิดไว้ชิดเชย เมื่อยามเลยลาลับไม่กลับคืน
๐ จะเก็บภาพประทับใจไว้ถวิล ไว้แอบรินน้ำตาแอบสะอื้น ไว้เยือกเย็นกับน้ำค้างที่พร่างชื้น เก็บไว้ตื่นตาฝันนิรันดร
๐ นับแต่นี้น้ำตาจะหาง่าย ขาดคนหมายซับมันเหมือนวันก่อน มือเย็นเยียบเมื่อสายัณห์ตะวันรอน ใครจะซ้อนมือนุ่มเกาะกุมมัน
๐ จะเดินเปลี่ยวเดียวดายในสายแดด ชีวิตแวดด้วยความหลังและความฝัน ฝันถึงวันที่ผกานานาพันธุ์ ปลิดดอกอันเหลืองอร่ามท่ามกลางเรา นิภา บางยี่ขัน 24/01/2510 จ า ก ส ว น ส ว ร ร ค์ ๐ จำปีปลิด ใบเก่า ที่เฉาช้ำ ลงสู่ลำ เจ้าพระยา ชลาไหล ลมพลิ้วไล่ ใบน้อย เลื่อนลอยไป เหมือนดวงใจ ว่างเปล่า เฉาและช้ำ
๐ นึกถึงวัน ผันไป เหมือนใบเขียว ไม่โดดเดี่ยว เพื่อนดาษดื่น ชื่นและฉ่ำ รื่นกลิ่นดอก ก็ปาน กับหวานคำ ยังจดจำ ปีเหล่านั้น จนวันตาย
๐ โลกเล่นกล วนเวียน เปลี่ยนวิถี พาชีวี ของเรา พลาดเป้ามหาย ให้พบกับ ผิดหวัง พลั้งอับอาย และมอบความ เดียวดาย ไว้แด่เรา
๐ ในมหา อาณาจักร เคยรักแสน แปรเปฺ็นแดน เซาซบ สงบเหงา ทุกแดดรอน อ่อนแรง แสงซึมเซา พบเพียงเงา เราด้น เดินคนเดียว
๐ สวนสวรรค์ ริมน้ำ ค่ำวันนี้ ไร้ใครมี เมตตา มาแลเหลียว เจ้าพระยา ขุ่นข้น วนเป็นเกลียว เปลี่ยวแสนเปลี่ยว แปลกตา เมื่อมาเยือน
๐ โอ้ว่าวัน เก่าเก่า ของเราเอ๋ย เมื่อล่วงเลย แล้วก็ลับ ไม่กลับเหมือน ยิ่งนานเนิ่น เหินห่าง ยิ่งร้างเลือน ความเป็นเพื่อน ก็คง ถูกหลงลืม
Create Date : 18 กันยายน 2563 |
Last Update : 18 กันยายน 2563 16:23:45 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1438 Pageviews. |
|
|
|