Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
อสังหาฯครึ่งปีหลังเตรียมขึ้นราคา หลังค่าแรงพุ่ง-แรงงานขาด-วัสดุก่อสร้างแพง แต่โครงการใหม่ยังเปิดเพียบ

นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ปี 2555 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มเปิดโครงการใหม่สูงกว่าปกติ ประเมินจาก 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.) การเปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วถึงกว่า 2 หมื่นยูนิต ทั้งที่ก่อนหน้านี้บางปีการเปิดโครงการใหม่ทั้งปีมีเพียง 5 หมื่นยูนิต และปีนี้ถือเป็นปีทองของคอนโดมิเนียม ผู้ประกอบการหันมาเปิดตัวคอนโดมิเนียมเป็นหลักตลอดไตรมาสแรกที่ผ่านมา เพราะประเมินว่าผู้บริโภคยังกังวลปัญหาน้ำท่วม จึงทำให้ช่วงต้นปีไม่มีการเปิดโครงการบ้านจัดสรรใหม่ออกมา

"ความเชื่อมั่นของประชาชนมีแนวโน้มดีขึ้น ยอดขายบ้านในโซนที่เกิดอุทกภัยเริ่มกลับมาใกล้เคียงภาวะปกติ คาดช่วงครึ่งปีหลัง จะมีผู้ประกอบการทยอยเปิดโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้น แต่เชื่อว่า การเปิดตัวคอนโดมิเนียมยังมีต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้ปีนี้ มีสัดส่วนการเปิดตัวคอนโดมิเนียมมากถึง 65% ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่เกิดธุรกิจคอนโดมิเนียม ขณะที่บ้านจัดสรรจะมีสัดส่วนโครงการใหม่ 35% จากเดิมมีสัดส่วนการเปิดโครงการใหม่ใกล้เคียงกัน

ฟันธงครึ่งหลังราคาบ้านขึ้น
ขณะเดียวกัน นายอิสระ กล่าวอีกว่า หลังจากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ใน 7 จังหวัดไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันปรับขึ้นรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะราคาบ้านต้องปรับขึ้นอีกแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับการประเมินของผู้ประกอบการแต่ละราย ซึ่งต้องดูกำลังซื้อของผู้บริโภคประกอบด้วย

แม้จะมีบางฝ่ายมองว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่นายอิสระกลับมองว่า กว่าจะกระตุ้นจริงคงเห็นผลในปี 2556 เพราะเบื้องต้นเมื่อขึ้นค่าแรง ผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปก่อน ยังไม่เริ่มต้นจากการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะดีขึ้นเฉพาะตลาดกลางและตลาดล่างเท่านั้น

ส่วนปัญหาก่อการร้ายและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในภาคใต้ช่วงนี้ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในภาคใต้ระยะสั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดครึ่งปีหลัง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น คนที่ซื้อบ้านหลังที่สองในหาดใหญ่ ย้ายไปซื้อในภูเก็ตแทน แต่คงไม่กระทบต่อการย้ายที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่มากนัก

"นอกจากเรื่องต้นทุน ปัญหาใหญ่ครึ่งปีหลัง คงหนีไม่พ้นปัญหาแรงงานขาดแคลน แม้ภาคอื่นมีแรงงานเหลือจนคนตกงานเพียงใด แต่ภาคก่อสร้างยังขาดแคลน เบื้องต้นยังต้องนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งพม่า ลาว และกัมพูชา" นายอิสระ กล่าวและว่า จากเดิมที่ผู้ประกอบการค่อยๆ ปรับตัวแก้ปัญหา แต่ปีนี้จะเห็นผู้ประกอบการเร่งปรับตัว สู่การผลิตโดยใช้ชิ้นส่วนสำเร็จรูปเร็วขึ้นและมากขึ้น ลดการใช้แรงงานคนเพื่อลดต้นทุน

คาดยอดขายสดใสเมินน้ำท่วม
ด้านนายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์หลายปัจจัย ได้แก่ สถาบันการเงินแข่งขันปล่อยสินเชื่อ ทำให้ดอกเบี้ยต่ำ และสถาบันการเงินแต่ละแห่งยังมีสภาพคล่องสูง ปัจจุบันนิยมปล่อยสินเชื่อเต็ม 100% ของราคาบ้าน และยอดขายไตรมาส 1 ของผู้ประกอบการหลายรายปีนี้เกินเป้า นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการปรับขึ้นค่าแรง จึงเชื่อว่าแง่ยอดขายภาคอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังสดใส ส่วนปัญหาน้ำท่วม เชื่อว่าครึ่งปีหลังคงไม่เกิดขึ้น เพราะภาครัฐมีงบประมาณบริหารจัดการและป้องกันมากถึง 3.5 แสนล้านบาท อีกทั้งภาคเอกชน ก็เตรียมป้องกันตัวเองระดับหนึ่ง

ชี้ปัญหา "แรงงาน" ยังวิกฤติ
เขายังกล่าวด้วยว่า ปัญหาที่น่ากลัวจากนี้ไม่ใช่น้ำท่วม ไม่ใช่ยอดขาย แต่เป็นเรื่องการผลิต ภายในสิ้นเดือนนี้ ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นแน่นอน ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้น ที่สำคัญปัญหาแรงงานขาดแคลน ยังมีต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หากผู้ประกอบการรายใดไม่เร่งหาวิธีแก้ปัญหา อาจก่อสร้างเสร็จไม่ทันกำหนด ไม่สามารถส่งมอบให้ผู้บริโภคได้

ผู้ประกอบการบางรายทยอยปรับตัว ด้วยการทำโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป (พรีแฟบ) ของตัวเอง เพื่อลดปริมาณการใช้แรงงานลง แต่การทำพรีแฟบต้องลงทุนมาก และเหมาะกับโครงการขนาดใหญ่มากกว่าขนาดเล็ก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ปรับตัวในลักษณะดังกล่าวได้ จึงมีเฉพาะรายใหญ่ ส่วนรายกลางและรายเล็กปรับตัวได้ลำบาก ซึ่งหลังเดือน มิ.ย.เป็นต้นไป จะมีการประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่ ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนอีกด้าน

ปัจจุบันสัดส่วนสินค้าของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดมีมาก 70% ในอนาคตหากมีปัญหาแรงงานและต้นทุน จะส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ปรับตัวไม่ได้ต้องเลิกกิจการ และทำให้สัดส่วนสินค้าในตลาดถูกผูกขาดเฉพาะรายใหญ่

ผู้ประกอบการปรับตัวรับต้นทุนพุ่ง
ส่วนนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ชี้ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง คือต้นทุน ตั้งแต่ไตรมาส 2 ผู้ประกอบการทุกรายต้องก้าวเข้าสู่ต้นทุนใหม่ จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ด้านแอล.พี.เอ็น มีแนวทางปรับตัวรองรับช่วงครึ่งปีหลังอยู่ 3 วิธี ได้แก่ การปรับขึ้นราคาบ้าน การลดต้นทุนการบริหารจัดการภายใน และเจรจากับผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อช่วยแบ่งรับภาระต้นทุนสูง

สาเหตุที่ผู้ประกอบการหลายรายมียอดขายไตรมาสแรกดีกว่าที่ตั้งเป้าไว้ มาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยแรก ผู้ประกอบการตั้งเป้าต่ำ เพราะประเมินไว้อสังหาริมทรัพย์ไตรมาสแรก จะชะลอตัวจากปัญหาน้ำท่วม และปัจจัยที่สองคือ ผู้ที่เลื่อนการตัดสินใจซื้อตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปีก่อน ทยอยกลับมาซื้อบ้านใหม่เพื่อการอยู่อาศัยตามความจำเป็น

คาดราคาพุ่งทำสินเชื่อบ้านไม่โต
ขณะที่นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า หากพิจารณาจากไตรมาสแรก พบยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโตน้อย และตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง น่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับขึ้นราคาน้ำมัน แนวโน้มการปรับขึ้นราคาบ้านชัดเจนราว 5% ช่วงไตรมาส 3 จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค จึงเชื่อว่าภาพรวมตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยครึ่งปีหลัง อาจไม่ดีเท่าที่ควรจนถึงสิ้นปี คาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเติบโต 6-7%  

ส่วนนายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง สินเชื่อที่อยู่อาศัยจะขยายตัวดี ตามสัดส่วนราคาบ้านที่จะปรับตัวแพงขึ้น กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ราคาบ้านที่สูงขึ้น อาจเป็นปัจจัยให้ผู้บริโภคใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนานขึ้นด้วย


Create Date : 17 เมษายน 2555
Last Update : 17 เมษายน 2555 12:12:58 น. 0 comments
Counter : 699 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.