" ความเปลี่ยนแปลง..เป็นนิรันดร์ " ฉันเข้าใจความหมายของคำคำนี้มากยิ่งขึ้น ก็เมื่อช่วงเวลาแห่งความเจ็บป่วยที่ได้ผ่านเข้ามาสู่ฉันอย่างไม่ทันรู้ตัว..เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนข้ามปี ฉันยังเคยเข้าใจว่าตัวฉันเป็นคนที่มีร่างกายที่แข็งแรงในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็เมื่อเทียบกับคนทั่วไป หรือกับผู้หญิงในวัยไกล้เคียงกัน..เพราะงานที่ฉันทำ เอื้อให้ฉันได้ใช้แรงกายในการต้องลงมือ..เอื้อให้ใช้แรงขาในการเดิน..และเอื้อให้ใช้แรงสมอง ในการคิดแก้ปัญหาและรับมือกับความกดดัน..แต่บางทีฉันอาจคิดผิดก็ได้..บางทีฉันอาจเข้าใจไปเอง..บางทีบางสิ่งบางอย่างมันเพียงแต่รอเวลาที่จะแสดงผลของมันออกมาก็ได้..ฉันเพียงไม่รู้..ฉันเพียงประมาท และ ไม่ระวังตัว ไม่เคยระวังหัวใจตนเองเลย...... การเจ็บป่วยที่เดินทางมาถึง ทำให้ฉันได้หยุดอยู่กับตัวเอง ในช่วงหลายสัปดาห์หลังปีใหม่มานี้ มันทำให้ฉันมีเวลาที่จะหยุดคิด และ หยุดมองถึงสิ่งต่างๆรอบตัวให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ก่อนที่ฉันจะรู้สึกสงบลงอย่างวันนี้..ใจฉันก็ฟุ้งซ่าน..ร้อนรน..เปล่าเปลี่ยวและสับสนกับตนเองพอสมควร..หลายๆเรื่องราวผ่านเข้ามาสั่งสอนให้ได้เข้าใจว่าบางครั้ง..ปัญหาบางปัญหาก็อาจต้องแก้ด้วยการ ไม่แก้ปัญหา..หรือการนั่งมองดูตนให้รู้ตัวอย่างสงบก่อนเป็นลำดับแรก........ ในช่วงเวลาที่ถูก Pause ไว้ของชีวิตฉันในวันนี้..หนึ่งในกิจกรรมที่ฉันทำเพื่อสร้างสมาธิ..นั่นก็คือการวาดภาพสีน้ำ..จริงๆแล้วฉันเคยเรียนมันเมื่อนานมาแล้ว การออกไปทำงานทำให้ไม่มีโอกาสให้ฉันได้กลับมาจับต้องและใช้เวลากับมันอย่างจริงจังอีกเลย..และในช่วงเวลาเหล่านั้น..ฉันก็ไม่เคยคิดการได้นั่งวาดรูปแบบเงียบๆจะสำคัญสำหรับใจฉันเพียงนี้..แต่ตอนนี้ มันกลับกลายเป็นสิ่งเดียวที่ฉันเลือกทำและทำมันเสมอเมื่อได้อยู่กับตนเองคนเดียว...มันสนุกและมหัศจรรย์กว่าที่ฉันคิดไว้มาก..มันคลายเหงา..มันช่วยสร้างสมาธิ..มันให้ความตื่นเต้นและรอลุ้น..(ว่ารูปจะสวยมั๊ย..5 ..5)..และเมื่อใดที่ภาพที่ทำสำเร็จ เสร็จออกมาสวยงามดังใจปารถนา มันก็สร้างความอิ่มเอมปลาบปลื้มให้ฉันได้ไม่น้อย..อาจจะมากพอๆกับที่คนทั่วไปเรียกว่าความรู้สึก " เป็นสุข " นั่นที่เดียว