* * * ตะลุยเดี่ยว เที่ยวเขาค้อ ในวันเหงา เหงา กัน * * * (วันสุดท้าย)

11 สิงหาคม 2008 เที่ยวภูหินร่องกล้า

ตื่นนอนมาตั้งแต่ 6.30 น. อากาศกำลังสบายครับ ฝนยังตกพรำๆอยู่เช่นเดิม ขับรถย้อนกลับมายัง ที่ทำการกลุ่มการท่องเที่ยว ทับเบิก อีกครั้ง หวังว่า เผื่อจะได้เดินขึ้นไปยัง จุดชมวิวบ้าง เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าฟ้าเปิดมองเห็นภูสอยดาวเลยนะครับ แต่ก็ผิดหวัง ฟ้ายังปิดอยู่เช่นเดิมครับ

เอาวิวแถวๆนั้นมาให้ชมครับ สวยดีจัง




สั่งอาหารเช้า กะหล่ำผัดน้ำมันหอย ราดข้าว ครับ ... นั่งทานพร้อมกับนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มาจากชลบุรีครับ ใช้ Fortuner เห็นว่า เพิ่งขึ้นมาเมื่อเช้าครับ ... นั่งทานอยู่ พี่ออมสิน ก็แบ่งกับข้าวมาให้ผมทานด้วยล่ะ คุยกันสนุกเลยครับ

ทานข้าวเสร็จ ก็ตัดสินใจไม่ขึ้นไปข้างบนครับ ขับรถย้อนลงมายังที่พัก เก็บของเตรียมลุยต่อครับ ออกจากที่พักมาราวๆ 8.00 น. จุดหมายต่อไปของเราคือ ภูหินร่องกล้า ซึ่งจากภูทับเบิกมีถนนเชื่อมต่อนะครับ ระยะทางราวๆ 20 กว่ากม.เท่านั้นเอง แต่ได้ยินข่าวคราวว่า สภาพทางค่อนข้างแย่ เลยขอรักษารถ ด้วยการขับลงแล้วไปวนขึ้นที่พิษณุโลก แทนครับ

สำหรับช่วงที่ผมติดหล่มมาเมื่อวานนั้น ถามเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่า "ลุยผ่านได้เลย ไม่ต้องใช้ทางเบี่ยง" ตอนผ่านช่วงนั้น ก็ลุ้นนิดหน่อยครับ ลุ้นว่า ท้องรถจะกระแทกไหม เพราะล้อข้างนึงจะลงไปในถนนที่ขาดน่ะครับ แต่ก็ผ่านฉลุย ... ขอบคุณนะ "เจ้าแก่"

ทางลงครับ เป็นแบบนี้เกือบตลอดครับ ภาพนี้ถ่ายผ่านฟิล์มรถน่ะครับ และหมอกลงจัด ภาพเลยได้แบบนี้ล่ะครับ ยามลง ก็สลับไปมาระหว่าง D+OD OFF กับ 2 นะครับ เหยียบเบรกเป็นจังหวะ ไม่กดแช่ ไม่เลียเบรกครับ ปล่อยรถไหลลงมา พอความเร็วสูง ก็เน้นเบรกลงไปหนักๆจนรถแทบจะหยุด แล้วปล่อยไหลต่อครับ




อันนี้วิวสวยๆระหว่างทางครับ เจอตรงไหน ก็แวะจอดลงมาถ่ายนี่แหละ อาศัยพักรถ พักเบรคไปในตัวด้วยล่ะครับ




ลืมบอกไปว่า ระยะทาง จากถนน 2331 ขึ้นมาถึงภูทับเบิกเนี่ย ราวๆ 20 กม.นะครับ ใช้เวลา 1 ชม.พอดีเป๊ะ ทั้งขึ้น ทั้งลง เลยล่ะครับ

ย้อนกลับมาเส้นทางเดิมครับ ถนนหมายเลข 12 ถนนเส้นนี้ มีร้านกาแฟ ที่วิวแสนสวย อยู่ร้านนึง ใครผ่านแถวนั้นบ่อยน่าจะนึกออก นั่นคือ Coffee Hill ครับ กาแฟอร่อยด้วยล่ะ ส่วนหนึ่งเพราะผมชอบรสหวานน่ะครับ



ใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานนัก ก็ต้องรีบเผ่น เพราะเรายังเหลือภูหินร่องกล้าอีกที่นะครับ สำหรับเส้นทางก็ไล่ตามถนนหมายเลข 12 เช่นเดิมครับ แล้วเลี้ยวเข้า 2013 ทางหมู่บ้านนครไทยครับ ขึ้นทางนี้ ทางชันน้อยกว่าเยอะ ถนนสภาพดีกว่า แต่ก็ยังมีต้องย่องๆบ้างบางช่วงนะครับ

ราวๆ 11.30 น. ผมก็ถึง ภูหินร่องกล้า แล้วล่ะ



มีจุดให้แวะเที่ยวหลายจุดเลยครับ แต่ด้วยฝนที่เป็นอุปสรรค ก็เลยแวะได้ไม่กี่ที่ครับ อย่าง ลานหินแตก ก็ได้แต่มองตาปริบๆอยู่ในรถครับ ลงไปก็ลื่น แถมเปียกอีก ขอเลยไปที่ โรงเรียนการเมืองการทหาร เลยครับ (เพิ่งนึกได้ว่า ในรถเรามีร่มนี่หว่า )

บรรยากาศเย็นๆ วังเวง ชอบกลแฮะ มีผมเดินอยู่คนเดียว น่ากลัวพิลึก ครับ



ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าพักได้ในสมัยนั้น



ภาพยืนยันว่า มีผมแค่คนเดียว ร้านค้าต่างๆปิดหมด ครับ



ไปกันต่อครับ ระหว่างทางสวนกับกลุ่มของ พี่ออมสิน ด้วยแฮะ เปิดกระจกทักทายกันหน่อย เท่าที่ทราบกลุ่มพี่ออมสิน ลุยมาจากภูทับเบิก น่ะครับ ไม่ได้อ้อมลงมาแบบผมครับ

อ้อ ผมขับไปเที่ยวที่ไกลก่อน นั่นคือ โรงเรียนการเมือง นะครับ แล้วค่อยย้อนกลับมาที่ ผาชูธง ครับ ตรงนี้ที่เที่ยวเยอะเลย แต่เดินเหนื่อยหน่อยนะ ระยะทางทั้งหมดรวม 3.2 กม.ครับ เดินตามผมมาเลยครับ ใส่ผ้าใบก็ดีนะครับ ทางลื่นมากๆเลย เดินระวังกันหน่อย



ไปไหนก่อนดีหนอ .....



ไป "สุสานนักรบ" ก่อนดีกว่าครับ เพราะเดินใกล้สุด แหะแหะ




ถึงแล้วครับ




ไปกันต่อครับ แต่ สงสัยจะไม่รอดแฮะ ทางลื่น พาลจะล้มตั้งหลายครั้งแน่ะ เดินถึงจุดนี้ล่ะครับ แล้วก็ดูเวลา 12.41 น. แล้วววว ขอฝากไว้ก่อนแล้วกันเนอะ กลัวไม่ได้กลับกทม.อ่ะ (กลัวกลิ้งอยู่แถวนั้น) เสียดายแฮะ แต่แค่นี้ก็ประทับใจมากๆแล้วล่ะ เดินท่ามกลางหมอก แหม ชอบจริงๆ



ย้อนออกมาทานข้าวเที่ยง แถวๆที่ทำการอุทยานล่ะครับ ทานเสร็จก็ลุยต่อเลย ออกสู่ถนนหมายเลข 12 แล้วเลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 11 เข้าพิจิตร นครสวรรค์ ครับ ถนนหมายเลข 11 นี้ เลยพิจิตรไป เป็น 2 เลนนะครับ หลายช่วงถนนเสีย สภาพค่อนข้างแย่นะครับ ถ้าเลี่ยงได้ผมว่า น่าจะเลี่ยงนะ ผมวิ่งถนนหมายเลข 11 มาตัดเข้าหมายเลข 1 ที่นครสวรรค์ มุ่งหน้า ชัยนาท ออกเส้น 340 เข้าสุพรรณบุรี กลับกทม. ทางพระราม 5 นะครับ ถึงบ้านราวๆ 2 ทุ่ม ครับ

ทีแรก ตามโปรแกรมที่วางไว้ ว่าจะเข้าไปไหว้พระพุทธชินราช ในจังหวัดพิษณุโลก สักหน่อย แต่เอาเข้าจริง ไม่ไหวแฮะ เพลียเหลือเกิน และกลัวจะค่ำในเส้นทางที่ไม่คุ้นเสียก่อน เลยจำต้องตัดน่ะครับ (ซึ่งก็คิดถูกนะ ไม่งั้นเจอช่วงถนนเสียตอนกลางคืนคงแย่ล่ะครับ)

ติงนิดนึงว่า ปั๊มน้ำมัน หาค่อนข้างยากนะครับ ผมเติมเต็มถังในวันแรก ก่อนเข้าที่พัก พอลงมาจากภูหินร่องกล้า น้ำมันเหลือค่อนถังแล้ว แต่หาปั๊มไม่เจอเลยล่ะ (เจอก็สภาพไม่ค่อยน่าไว้ใจ) มาได้เติมอีกที ก็ เกือบถึงพิจิตร แล้วล่ะครับ

ข้อดีของการเที่ยวหน้าฝน ก็คือ คนน้อย ถึง น้อยมาก ครับ ค่าใช้จ่าย ค่าที่พัก ก็ค่อนข้างถูก รวมถึง ได้เจออะไรที่ไม่ได้เจอด้วยแหละ ก็ดีไปอีกแบบนะครับ

อัตราสิ้นเปลือง
1. เติมน้ำมัน ครั้งแรก ที่ปั๊มบางจาก เป็นโซฮอลล์ 95 เติมไปทั้งหมด 39.47 ลิตร ระยะทาง 476.6 กม. คิดอัตราสิ้นเปลืองได้ 12.07 กม./ลิตร
2. เติมน้ำมัน ครั้งที่สอง ที่ปั๊มบางจาก ที่ จ.พิษณุโลก โซฮอลล์ 95 เติมไปทั้งหมด 39.44 ลิตร ระยะทาง 384.3 กม. คิดอัตราสิ้นเปลืองได้ 9.74 กม./ลิตร (เส้นทางขึ้นลงเขานะ)
3. เติมน้ำมัน ครั้งที่สาม ที่ปั๊มเชลล์ หน้าปากซอยบ้านย่านเตาปูน โซฮอลล์ 95 เติมไปทั้งหมด 33.35 ลิตร ระยะทางวิ่ง 403.3 กม. คิดอัตราสิ้นเปลืองได้ 12.09 กม./ลิตร

รวมระยะทางวิ่ง ในทริปนี้ทั้งหมด 1,264 กม. ค่าน้ำมันทั้งหมด 3,400 บาท อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.25 กม./ลิตร กับรถ MPV คันโต เครื่อง 2.0 A/T อายุ 13 ขวบ ผมถือว่า โอเคนะครับ


สุดท้าย อยากจะบอกว่า ... อายุรถเป็นแค่เพียงตัวเลขนะ ใครบอกว่า รถเก่าวิ่งทางไกลไม่ได้ ลุยไม่ได้ ... นี่ไงครับ พิสูจน์แล้ว ก่อนไปก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับรถเลยครับ คอนเซ็ปต์ผม หยิบกุญแจสตาร์ทเครื่อง แล้วไปเลยครับ มั่นใจรถอยู่แล้ว ไม่ต้องเช็คครับ

เดี๋ยวช่วงเดือนตุลาคมนี้ ผมได้หยุดยาว 4 วัน กำลังคิดอยู่ว่า จะขึ้นเชียงราย เที่ยวดอยตุง นอน ดอยแม่สลอง ดีไหม ... ก็เอา "เจ้าแก่" คันนี้แหละขึ้นครับผม

Create Date : 26 เมษายน 2552		2 comments
Last Update : 26 เมษายน 2552 14:44:28 น.
Counter : 1606 Pageviews.
Share Tweet