"จงจ่ายในส่วนที่ตัวเองต้องเสีย"

<<
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 กันยายน 2551
 

วัยเด็กเทอร์ราปี้

นึกถึงวัยเด็ก
ผมกลับนึกถึงเสียงเพลงช่วงเข้าข่าวในพระราชสำนักของช่องเจ็ด เมื่อก่อน


มันรู้สึกอบอุ่น พร้อมหน้าพร้อมตา
ได้กินข้าวพร้อมกัน กับ แสงนีออนเย็นๆ ตอนหัวค่ำ
บางครั้งก็จะมีแมงเม่ามากวนใจบ้าง เราเวลากินข้าว

พี่น้อง เด็กๆเล็กๆ ก็เริ่มกระเง้ากระงอด กวนกันไปกันมา
สุดท้ายก็กลับมารวมหัว หาอะไรเล่นกัน แกล้งหมาบ้าง แกล้งแมวบ้าง
แล้วก็หลับกันอยู่หน้าทีวี ทั้งหัวเหนียวเหงื่อ จนต้องปลุกไล่ให้เดินงัวเงียๆกันไปเข้านอน


มาตอนหลังๆที่มาเรียนอยู่กรุงเทพฯ

เสียงเพลง กระจกหกด้าน ตอนเย็นๆ



เป็นสื่อแห่งความว้าเหว่ที่สุด!!!!
กินข้าวคนเดียว รดน้ำต้นไม้คนเดียว เล่นกับหมาคนเดียว
มานั่งทำการบ้านคนเดียว ไม่มีเพื่อนคุยเลย




เพราะที่บ้าน กลับกันดึกๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่สุด
ตื่นเช้้ามาก็ต้องไปโรงเรียนก่อนใคร ไม่ได้คุยกับใครเลย

ขนาด ได้รางวัลอะไรมาสักอย่าง เอาถ้วยรางวัลวางไว้บนโต๊ะกินข้าว
ทับกระดาษโน๊ต ไว้ ว่าเราได้รางวัลมา



โห... กว่าจะได้เจอกันชื่นชมกัน ปาเข้าไป หนึ่งอาทิตย์
ความภาคภูมิ มันเหลือกระจึ๋งนึง แล้วอ่ะ

ทุกวันนี้ ถ้าบังเอิญไปได้ยินเสียงเพลงข่าวในราชสำนัก
จะแอบยิ้มคนเดียว

เพราะอะไร?
ขำผสมสงสาร

ขำอะไร?......ก็ขำหมาน้อยของเราน่ะสิครับ
พันธ์อะไรมิทราบได้ ขนปุกปุย คลุมหน้าคลุมตา
แต่สมัยนั่นเขาเรียก หมาประเภทนี่ ว่า "หมาจู"
ไม่มีหรอก ชิสุห์ พูดเดิ้ล เทอเรีย ฯลฯ

มีแต่ "เฮ้ย! หมาจูใครวะ มาเยี่ยวรดขากู?"
ใครมีความรู้เรื่องที่มาที่ไปของไอ้คำว่า "จู" สำหรับหมาพวกนี้
ช่วยสังเคราะห์ เอ้ย! สงเคราะห์ ผมสักทีเถอะ
อรรถธิบายมาหน่อย ก็ดีครับ

ใครเคยเห็นสีหน้าท่าทาง "หมาอกหัก ใจสลาย" กับ "หมางอน" บ้าง?


หลังอาหารค่ำ ก็แอบใส่เสื้อกันฝนทรงค้างคาว
รองเท้าบู๊ท ถุงมือยาง หน้ากากผี กับนกหวีดเสียงประหลาดๆ
แล้วก็แกล้งออกไปเดินตะคุ่มๆ อยู่กลางสนามหน้าบ้าน
เป่านกหวีดเรียกความสนใจหมาน้อย

เจ้าหมาก็ตาเหลือก เห่าสนั่น
ตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว
ใจนึงคงอยากหนี ใจนึงก็ห่วงพวกเราที่เหลือ
ยิ่งถ้าพวกเราทำท่าทางกลัว ร้องวีดว้าด

มันก็ยิ่งสับสน เอาไงดีจะเข้าไปลุยดี หรือวิ่งวกมาปลอบเราไม่ต้องกลัว
ก็เลยวิ่งไปวิ่งมา วุ่นวายไปหมด ทำให้พวกเราแอบคิกคักๆ


ในที่สุด สาแก่ใจ ใครคนหนึ่งก็เดินออกไปกอดเจ้าผีนิรนาม
แล้วก็จูงกันเข้ามาในบ้าน

เจ้าหมาเงียบเสียงลง
จนเมื่อเจ้าผีนิรนามถอดเสื้อคลุมกับหน้ากากออก
ทุกคนก็แปลกใจกับท่าทีของมัน

แทนที่จะกระดิกหางดีใจ กระโดดเข้าหา อย่างที่คาดหวัง
มันกลับเดินนวยนาด ไปนหมอบอยู่ได้โซฟา


และแล้วทุกคนก็ได้เห็นสายตาของมัน
เหมือนคนอกหักช้ำใจ

"มาหลอกหนูทำไม อุตส่าห์เห่าแทบตาย หัวใจจะวาย????"
หลังจากนั้น มันก็จะไม่มาสุงสิงกับพวกเรา ไปเที่ยวนอนเหม่อตามมุมต่างๆ
พอเรียก ก็จะมีสายตาค้อนนิดนึง แล้วก็ทำเมินเหมือน "หมางอน"


นึกทีไรก็แอบขำ เจ้าหมาตัวนี้
ที่ไม่มีตัวใดเสมอเหมือน

ลูกๆหลานใคร จะเอาเยี่ยงเอาอย่าง ไปเล่นสนุก
พึงสังวรณ์เอาไว้เสมอว่า ที่บ้านเลี้ยงหมาอะไร อยู่นะจ้ะ


ไม่ใช่เลี้ยง พิทบูล ร็อตไวเลอร์ โดเบอร์แมน อัลเชเชี่ยน แล้วนึกครึ้มอยากเล่นนะ
เดี๋ยวเสื้อกันฝน จะได้กลายเป็นผ้าห่อศพ ซะปะไร



















ไม่มีอะไรหรอก เขียนเอาไว้ เพราะอยากฝึกการใช้ภาษาไทย!!!!!




Create Date : 12 กันยายน 2551
Last Update : 12 กันยายน 2551 23:38:15 น. 3 comments
Counter : 325 Pageviews.  
 
 
 
 
อิอิ อ่านไปขำไป น่ารักดีค่ะ
 
 

โดย: biebie999 วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:18:16:35 น.  

 
 
 
เช็คอายุได้นะเนี่ย
 
 

โดย: เอพริล IP: 203.147.10.245 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:2:24:31 น.  

 
 
 
ูู^
^
ด้วยความภูมิใจครับ

ที่ชีวิต เดินมาครึ่งทางแล้ววววว
 
 

โดย: สมุทรสัญจร IP: 125.24.137.82 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:21:12:13 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

สมุทรสัญจร
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมุทรสัญจร's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com