๐♥๐ My little Kyara...My ordinary miracle ๐♥๐
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Floralies of Ghent & Essence of Thailand 2/3





วันนี้จะพาไปเที่ยวสองงานควบเลย

งานแรกนั่นก็คือ

งานเทศกาลอาหารไทย : Essence of Thailand


ซึ่งจัดขึ้นที่บรัสเซลส์ เขต Stockel วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2551

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว และเราก็ไปร่วมงานมันทุกปีเลย

ปีแรกค่อนข้างขลุกขลักมาก เนื่องจากพื้นที่เล็ก

อาหารไม่พอกับความต้องการ เพราะเป็นปีแรก เลยยังคาดคะเนลำบาก

มีเก้าอี้นั่ง แต่คนเยอะมาก ต้องแย่งเก้าอี้กันยังกับเก้าอี้ดนตรี

ปีที่สอง อาหารพอเพียงกับความต้องการ

ปีนี้คนก็ยังมาล้นหลามกันเหมือนเดิม

ปีนี้ อาหารและซุ้ม ดูสมบูรณ์ดี เวลาการแสดงมีสองส่วน

อีกส่วนไปอยู่บริเวณโซนของหวานและนวดไกลไปนิด

เลยไม่ค่อยมีคนสนใจมากเท่าไหร่

แต่ปีนี้มีเก้าอี้ยาว แต่ไม่มีโต๊ะให้นั่ง

และโต๊ะสูงแนวฝรั่งคือ โต๊ะคอกเทล ยืนกิน

ค่อนข้างทุลักทุเลสำหรับคนไทยอย่างพวกเราพอดู เพราะเน้นกินและคุย

แต่โดยรวมๆถือว่ายังล้นหลานเหมือนเดิม

ปีนี้พิเศษตรงที่ เจ้าชายโรลองต์

พระโอรสในพระเจ้าอัลเบริ์ตที่สองและสมเด็จพระราชินีเพาโอล่า

เสด็จพร้อมเจ้าหญิงแคลร์ และพระโอรสธิดามาร่วมงานนี้ด้วย

งานนี้ไม่ทรงถือพระองค์ ยืนเสวยพระกระยาหารอย่างทรงพระเกษมสำราญ

และหากมีผู้สนใจทรงจดจำพระองค์ได้ จะขอถ่ายรูปกับพระองค์

ก็ทรงยืนให้ถ่ายคู่ด้วยความยินดี สร้างความปลื้มปิติให้ผู้พบเห็นยิ่งนัก



งานนี้ไปหม่ำๆกับเม้าท์โดยเฉพาะ เลยไม่ได้เก็บภาพเท่าไหร่เลย

ขอเอาภาพจากปีที่แล้วมาหากินแล้วกัน อิๆ^^''





รายงานอ้างอิง : จากเวบ thaiembassy.be

ผลการจัดงานเทศกาลอาหารไทย ครั้งที่ 3

นับเป็นโชคดีที่การจัดงานเทศกาลอาหารไทยทุกครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งงานเทศกาลอาหารและวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 3 (Essence of Thailand III) ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ ได้ร่วมกับเมือง Woluwe St. Pierre เขต Stockel กรุงบรัสเซลส์ จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2551 ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการร่วมแรงร่วมใจและความกระตือรือล้นของชุมชนชาวไทยและร้านอาหารไทยในเบลเยียม และส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเทวดาฟ้าดินดลบันดาลให้ท้องฟ้าโปร่งใสไร้เมฆฝน แสงแดดเจิดจ้า จึงทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้าร่วมงานเทศกาลอาหารไทยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอย่างเนืองแน่นตลอดทั้งวัน จนทำให้ Place Dumon ซึ่งมีร้านอาหารไทยทั่วเบลเยียมมาออกร้านกว่า 40 บูธ และถนนสายวัฒนธรรมใน Avenue Baron d’ Huart สถานที่จัดงานดูคับแคบลงไปถนัดตา

เนื่องจากปีนี้เป็นปีครบรอบ 140 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-เบลเยียม สถานทูตจึงได้ขอทางเมืองฯ ขยายเวลาการจัดงานออกไปอีก 2 ชั่วโมง เป็นระหว่าง 10.00-20.00 น. เพื่อให้ชาวไทยและชาวเบลเยียมได้มาร่วมงานเฉลิมฉลองครั้งนี้อย่างจุใจ นอกจากนี้ ยังเพิ่มบูธจำหน่ายอาหาร ขนม และสินค้าหัตถกรรมไทย รวมทั้งคัดสรรการแสดงนาฏศิลป์และกิจกรรมทางวัฒนธรรมมาแสดงในงานให้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น เพื่อสร้างความรื่นเริงบันเทิงใจแก่ผู้เข้าร่วมงานให้มากที่สุด

สมดั่งเจตนารมย์ที่สถานทูตได้วางไว้ เพราะผลการจัดงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นคณะผู้จัดงาน แขกที่มาร่วมในงานเลี้ยงรับรองในพิธีเปิดงาน รวมทั้งฝูงชนที่เข้าร่วมงาน ผู้ซื้อและผู้ขายอาหารและสินค้าไทย หรือแม้แต่อาสาสมัครที่มาช่วยเก็บขยะ ต่างก็มีสีหน้าเบิกบานและยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยกันทั้งสิ้น เชื่อว่าผู้ขายก็ต้องอารมณ์ดีอย่างแน่นอน เพราะอาหารไทยขายได้ขายดีตลอดทั้งวัน แม้นำมาเพิ่มเติมถึง 2-3 รอบ ก็ยังขายหมด ทั้งๆ ที่ปีนี้ มีร้านอาหารไทยในเบลเยียมมาออกร้านมากขึ้นกว่าปีที่แล้วเกือบเท่าตัว

น่าเสียดายแทนทผู้อ่านที่พลาดโอกาสเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองปีสำคัญระหว่างไทย-เบลเยียม เพราะหลังจากงานเทศกาลปีใหม่ไทยในเมืองแอนท์เวิร์ป งานแสดงโขนคณะศาลาเฉลิมกรุง ณ โรงละครโอเปร่าเมืองแอนท์เวิร์ป และงานแสดงโขน-นาฏศิลป์ไทย ณ จตุรัส Grand Place กรุงบรัสเซลส์ เมื่อเดือนเมษายน 2551 ซึ่งทุกงานได้รับการกล่าวขวัญว่าจัดได้อย่างดีและยิ่งใหญ่กว่างานครั้งใดที่ไทยเคยจัดในเบลเยียมแล้ว งานเทศกาลอาหารไทยและวัฒนธรรมไทยที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเร็วๆ นี้ก็จัดได้ไม่แพ้ทุกงานที่ผ่านมา หรือกล่าวได้ว่าประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมายทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ คือ จำนวนผู้เข้าร่วมงานมีมากกว่า 20,000 คน ประกอบด้วยคณะทูตานุทูต ข้าราชการอียู ชุมชนในเขต Stockel รวมทั้งแขกเกียรติยศที่ไม่ได้คาดหมาย คือ เจ้าชายโลรองค์ พระโอรสองค์เล็กในพระราชาธิบดีอัลเบิร์ต ที่ 2 และพระราชินีเปาว์ร่า เจ้าหญิงแคลร์ พระชายา พร้อมด้วยครอบครัว เดินเที่ยวชมงานและยืนชมการแสดงนาฏศิลป์ไทยร่วมกับฝูงชนอย่างไม่ถือพระองค์

นอกจากจำนวนผู้เข้าชมงานจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนแล้ว จำนวนบูธที่เข้าร่วมงานก็เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ทั้งนี้ เนื่องจากมีร้านอาหารและสินค้าไทยในประเทศใกล้เคียง ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส แสดงความประสงค์จะเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่เป็นเพราะพื้นที่จำกัดและมีร้านไทยในเบลเยียมรอเข้าคิวอยู่อีกมาก จึงจำเป็นต้องพิจารณาให้บูธแก่ร้านในเบลเยียมก่อน แม้กระนั้น บางร้านก็จำเป็นต้องจัดร้านใต้ร่มบ้าง ใต้ต้นไม้บ้าง กล่าวได้ว่าพื้นที่ทุกตารางนิ้วถูกใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ อีกทั้งกิจกรรมในถนนสายวัฒนธรรมก็มีความสวยสดงดงาม ดูละลานตาน่าชมไปหมดทุกบูธ การแสดงของเยาวชนในเวทีการแสดงเล็กสุดถนน ก็สามารถเรียกความสนใจของผู้เข้าร่วมให้หยุดชมเป็นระยะๆ ตลอดวัน

ปีนี้ พิธีเปิดงานเริ่มเมื่อเวลา 11.30 น. เพื่อให้คนที่ทยอยเข้าร่วมงานได้มีโอกาสเดินชมบูธต่างๆ ที่จัดตกแต่งและประดับประดาอย่างสวยงาม ทำให้คนที่ไม่เคยเดินทางไปเมืองไทย เกิดความรู้สึกอยากจะไปเที่ยวเมืองไทย เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศจริงของวัฒนธรรมไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อเวลาฤกษ์งามยามดี นักแสดงนาฏศิลป์คณะ Thai Dance Academy จากกรุงลอนดอน ก็ตั้งขบวนร่ายรำนำกลองสบัดชัยขึ้นสู่เวที นักแสดงชายตีกลองสบัดชัย เรียกความสนใจของแขกรับเชิญในงานเลี้ยงรับรองจำนวน 200 คน รวมทั้งฝูงชนจำนวนนับพันให้มารวมตัวอยู่หน้าเวทีใหญ่กลาง Place Dumon หลังจากนั้นพิธีกรได้เชิญนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ และนาย Willem Draps นายกเทศมนตรีเมือง Woluwe St. Pierre ขึ้นกล่าวคำปราศรัยบนเวที ซึ่ง นายพิศาลฯ ได้ใช้โอกาสที่ไทยประกาศยกเลิกพรก. ฉุกเฉิน และสถานการณ์ทางการเมืองไทยเข้าสู่ภาวะปกติ กล่าวเชิญชวนชาวเบลเยียมและชาวต่างชาติที่เข้าร่วมงานให้เดินทางไปท่องเที่ยวเมืองไทย เพราะคนไทยทุกคนเป็นมิตรและยินดีต้อนรับคนต่างชาติ แม้ว่าจะมีการชุมนุมประท้วงกี่ครั้งก็ตาม แต่ก็ไม่เคยมีชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บหรือเลือดตกยางออกเลยสักครั้ง

หลังจากนั้น คณะนาฏศิลป์ได้เปิดการแสดงชุด “เซิ้งผสม” สร้างความบันเทิงแก่บรรดาแขกผู้มีเกียรติในงานเลี้ยงรับรองและฝูงชนด้วยลีลาการร่ายรำและดนตรีพื้นบ้านที่สนุกสนานเร้าใจ ด้านล่างเวทีนักแสดงได้ลงไปเชิดหุ่นกระบอกโจหลุยส์ปะปนกับแขกเหรื่อและฝูงชน รวมทั้งแสดงหน้าพระพักตร์เจ้าชายโรลองค์ พระโอรสและพระธิดา ในโอกาสนี้ ท่านทูตพิศาลได้ถวายถาดผลไม้ไทยแด่เจ้าหญิงแคลร์ด้วย

นอกจากได้รับความเพลิดเพลินจากการรับชมการแสดงนาฏศิลป์ไทยในแต่ละรอบตั้งแต่เวลาบ่ายโมงจนถึงทุ่มหนึ่งแล้ว ผูเข้าชมงานยังสามารถเลือกซื้ออาหารไทยจากร้านที่มีชื่อเสียงในเบลเยียม เช่น บูล เอเลเฟ่น เสือร้องไห้ น้อย อยุธยา ขอบคุณ ฯลฯ ในราคาเพียงจานละ 5 ยูโร กล่าวได้ว่าสุดคุ้ม เนื่องจากไม่สามารถรับประทานอาหารไทยได้ในราคานี้ในร้านอาหารไทยทั่วไปในในเบลเยียม อาหารและการแสดงนาฏศิลป์ไทยจึงเป็นตัวดึงดูดให้ฝูงชนหมุนเวียนกันเข้าชมงานอย่างแน่นขนัดตลอดทั้งวัน ทุกคนมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสแม้จะต้องรอเข้าคิวซื้ออาหารและขนมเป็นเวลานาน หรือเบียดเสียดฝูงชนเพื่อเดินชมงานและหยุดชมกิจกรรมต่างๆ ภายในงานด้วยความสนใจ โดยเฉพาะบูธสาธิตการทำอาหารไทยโดยคุณหนูลอร์ กุ๊กระดับอินเตอร์จากร้านบูล เอเลเฟ่น บูธสาธิตการแกะสลักผักผลไม้ บูธขนมครกและข้าวเกรียบปากหม้อ รวมทั้งบูธนวดแผนไทยและสปาที่เปิดให้บริการถึง 3 บูธ

ใกล้เวลาปิดงานประมาณหนึ่งทุ่ม มีการจับรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินสายการบินไทย ปารีส/กทม./ปารีส จำนวน 2 ใบ (เปิดดูรายชื่อผู้โชคดีจากเวป์ไซท์ thaiembassy.be) มีการมอบรางวัลแก่บูธที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม ได้แก่ บูธแกะสลักผักผลไม้ บูธสยาม โอเรียลเทล สปา และ บูธร้านอาหารไทย-เฮาส์ หลังจากนั้นพิธีกรได้กล่าวขอบคุณและอำลาผู้เข้าร่วมงานที่ยังไม่อยากกลับเข้าบ้านในวันที่อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใส และอยู่ชมการรำอวยพรโดยสตรีสาวสวยชาวไทยในเบลเยียมที่มีน้ำใจอยู่แสดงจนถึงรอบสุดท้าย

งานครั้งนี้ปิดลงด้วยความปลาบปลื้มใจและเสียงเรียกร้องต้องการของทุกฝ่ายที่จะให้จัดงานขึ้นเป็นประจำทุกปี ทั้งยังเป็นที่สนใจของคนไทยในประเทศใกล้เคียงที่เดินทางมาศึกษาดูลู่ทางการจัดงาน จึงขอฝากร้านอาหารและพี่น้องชาวไทยในเบลเยียมให้ช่วยกันรักษาคุณภาพและมาตรฐานของอาหารและสินค้าไทยให้ดียิ่งๆ ขึ้นในปีต่อไป เพราะงานเทศกาลอาหารและวัฒนธรรมไทยจัดขึ้นเพียงวันเดียว แต่ร้านอาหารไทยและสินค้าไทยจะต้องอยู่ต่อไปในระยะยาว ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่และภารกิจของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันโอบอุ้มค้ำชูให้อาหารไทยเป็นอาหารยอดนิยมของของชาวโลก มิฉะนั้น อาหารเอเชียชาติอื่นๆ คงแซงหน้าเราไปได้อย่างแน่นอน


ชมภาพเพิ่มเติมจากเวบไซด์ คลิกที่นี่



งานที่สอง

พาไปเที่ยวงานดอกไม้แห่งเกนท์ : Floralies of Ghent


ที่ชื่องานคนก็แห่กันมาจะดูดอกไม้แล้ว เอาเข้าจริง มีดอกไม้อยู่จึ๋งนึง

คนบ่นกันขรมเลย แต่คุ้มค่าที่ได้ไป

เพราะว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของเมือง

และวิวัฒนาการต่างๆของเมืองในรอบ 200 ปี

งานนี้พระเจ้าอัลเบริ์ตที่สอง เสด็จพร้อมพระราชินีเพาโอลามาร่วมงานด้วย

แต่ไม่สามารถเข้าไปถึงบริเวณโพเดี่ยมที่ประดับเนื่องจากคนเยอะมากๆๆ

เลยได้แต่ดูจากข่าวทางทีวี

มาดูภาพรวมๆของงานแล้วกัน















สำหรับงานนี้ ครั้งต่อไปก็ปี 2010 เลย อีกสองปีเจอกัน^^



On September 21, 2008 the Floralies of Ghent organize a unique, historical parade 'Ghent and its Floralies of Ghent'.
The aim of this parade is to visualize Ghent’s rich history through 35 scenes. These scenes have been conscientiously selected and written by the historian Professor Yvan Vanden Berghe.

The 35 different scenes take maximum 20 seconds each and concisely explain the historical fact.

All visitors will also be able to follow the different scenes ina free programme. Of course, this historical parade full of references to flowers also pays attention to the birth of the Floralies of Ghent and the first exhibition. Three scenes make explicit reference to the Floralies of Ghent.

This historical parade is offered to the City of Ghent, its citizens and all Belgian and foreign visitors. It will be a unique event, attracting more than 150,000 visitors.

The parade will of course also offer the media a nice and rewarding subject.


ชมภาพและข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่










Create Date : 08 ตุลาคม 2551
Last Update : 8 ตุลาคม 2551 20:33:11 น. 4 comments
Counter : 1277 Pageviews.

 
ท่าทางน่าสนุกนะคะ เทศกาลอาหารไทย เห็นจัดที่ประเทศไหนก็ได้รับความนิยมทั้งนั้น เคยไป join ที่ญี่ปุ่น กับ L.A สนุกมาก ๆ ค่ะ


โดย: Jujastar วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:21:34:49 น.  

 
ชอบนะพวกงานอาหารไทยเนี่ย เพราะจะได้ไปหม่ำ หุหุ แต่ไม่ได้ไปมานานแล้ว เนื่องจากว่าจะจัดกันที่ลอนดอนซะส่วนใหญ่

ฝากจุ๊บๆน้องคิอาล่าด้วยนะ ^__^


โดย: piwee IP: 217.37.221.81 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:19:41:00 น.  

 
สวัสดีค่ะแม่ตุ้ย ป้าอ้อมาเยี่ยมจ้า วันนี้ฝนตกกเพิ่งหยุด บรรยากาศเหลาๆ งานก็ไม่มีอะไรจะทำ ตามแม่ตุ้ยไปหม่ำอกหารไทยในต่างประเทศดีกว่า อิอิ

น้องคิอาร่าน่ารักที่ซู้ดดเลยค่ะแม่ตุ้ย


โดย: ladysamui วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:14:40:55 น.  

 
น่ารักมากๆเลยค่ะ น้องคิ เนี่ยหลับปุ๋ยเชี่ยวทำเอาน้าอุ๊มะกล้าพิมเลย อิๆแอบบงงอยู่นาน ขอบคุณนะค่ะที่เอาเวปนี้มาฝากให้อุ๊ได้อ่านเพิ่มอีกเวปนึงค่ะ


โดย: สวัสดีนะค่ะ พี่ตุ้ย อุ๊เข้ามาชมภาพแล้วนะค่ะ IP: 180.183.145.68 วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:20:08:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bunny2teddy
Location :
Heusden Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





สามปีแห่งการรอคอย
จวบจนถึงวันที่เราสองคน
ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน

สามปีของการใช้ชีวิตคู่แบบ"เรา"สองคน
วันนี้อะไรๆหลายๆอย่างในชีวิตเปลี่ยนไป

"เรา"สองคน กำลังจะมีสมาชิกใหม่
สมาชิกคนที่สามของบ้าน
(บ้าน รังเล็กๆ ที่แสนจะอบอุ่นของเรา)
มาเติมเต็มความรัก ความอบอุ่น และหัวเราะด้วยกัน
ไม่ว่าจะในวันที่ทุกข์หรือสุขในใจ

เก้าเดือนนับจากนี้ไป
ชีวิตกำลังจะไม่เหมือนเดิม
เพราะคำว่า "แม่" บทบาทใหม่ในชีวิต
ช่างมีความหมาย เกินกว่าที่จะหาคำใดๆมาบรรยาย

มันฝรั่งน้อยของแม่กับปาป้า
..หนู...คือสิ่งมหัศจรรรย์เล็กๆของเรานะ
เราจะรักและดูแลหนูให้ดีที่สุดเลยจ้ะ
แม่กับปาป้า ให้สัญญา

...When you wake up everyday
Please don't throw your dreams away
Hold them close to your heart
'Cause we are all a part...

...The sun comes out
and shines some bright
And disappears again at night

It's just another
Ordinairy miracle today...



พระราชบัญญัตลิขสิทธิ์ ปี พ.ศ.2537
มาตรา 15 ภายใต้บังคับมาตรา 9 มาตรา 10 และมาตรา 14 เจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวดังต่อไปนี้
(1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
(2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
(3) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศน วัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียง
(4) ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น
(5) อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิตาม (1) (2) หรือ (3) โดยจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดหรือไม่ก็ได้ แต่เงื่อนไขดังกล่าวจะกำหนดในลักษณะที่เป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมไม่ได้ การพิจารณาว่าเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง (5) จะเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงมาตรา 16 ในกรณีที่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ได้อนุญาตให้ผู้ใดใช้สิทธิตามมาตรา 15 (5) ย่อมไม่ตัดสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่จะอนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธินั้นได้ด้วย เว้นแต่ในหนังสืออนุญาตได้ระบุเป็นข้อห้ามไว้

Friends' blogs
[Add bunny2teddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.