๐♥๐ My little Kyara...My ordinary miracle ๐♥๐
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
15 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
London tour#1: ทริปส่งท้ายพุงกลมๆ





ได้เวลามาอัพเดททริปนี้เสียที

ปาป้ายัยหนูใจดี พาไปเที่ยวลอนดอนส่งท้ายพุงกลมๆ

กว่าจะได้ไปนี่ก็รอกันพอสมควรล่ะ เพราะปาป้ายัยหนูปุบปับมากๆ

(เสียดายไม่ได้เจออ้ำ พี่เต็มแล้วก็คุณเชอร์รี่ ไว้โอกาสหน้านะคะ)

จู่ๆก็ชวนแบบลืมไปว่าอิแม่ต้องขอวีซ่าเข้า UK

อิชั้นก็ต้องรีบหาข้อมูลว่าต้องเตรียมอะไรมั่ง

เสร็จเรียบร้อยก็เอาเอกสารไปยื่นสถานฑูตอังกฤษที่บรัสเซลส์ตอนเช้า

เย็นเสียงโทรศัพท์จากสถานฑูตโทรมาว่าให้ไปรับเล่มคืน

เพราะว่า หนังสือเดินทางยูที่จะใช้ได้มันต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนนะ

ตายล่ะหวา ไม่ทันดูอ่ะ ของเรามันเหลือแค่เดือนเดียวเอง กรรมๆ

เลยไปรับเล่มอีกวันคืน แล้วไปติดต่อสถานฑูตไทย

ว่าถ้าทำแล้วนานไหมจะได้เล่ม เจ้าหน้าที่บอก 3-4 สัปดาห์

พอปาป้ายัยหนูบอกว่าโอเคก็ทำเล่มเลย ทันคิวก่อนปิดเที่ยงพอดี

จากนั้นก็รอสามอาทิตย์เจ้าหน้าที่โทรมาบอกให้ไปรับเล่มได้แระ

ก็เลยส่งเมลล์นัดเจ้าหน้าที่ของสถานฑูตอังกฤษพร้อมๆกันเลย

ตอนสายๆรับเล่มเสร็จ ก็ดิ่งไปสถานฑูตอังกฤษยื่นเรื่องทันที

รอบนี้รอผลห้าวันก็ได้วีซ่า มัลติเพิล หกเดือนมานอนกอดสมใจ

ยิ่งสามีอยู่ในประเทศกลุ่มสมาชิก EU

ค่าธรรมเนียมก็เลย Free of charge ไม่งั้นจ่ายเต็มๆอ่ะ 86 euro



หลังจากนั้นสองสัปดาห์ ปาป้ายัยหนูก็ชวนกันไปติดต่อเรื่องตั๋วรถไฟ

ดีว่าช่วงเราไปโรงเรียนยังไม่ปิดเทอมดี รถไฟเลยยังไม่เต็ม

จองตั๋ววันเสาร์ จะเดินทางวันพฤหัส แต่โรงแรมยังไม่ได้จอง เวงจิงๆ

เดือดร้อนอิแม่พุงโตต้องมานั่งขดหลังแข็งหน้าจอหาโรงแรม

แล้วราคาห้องที่อยากได้ดันไม่มีเหลือ แถมตัวเลือกน้อยมากๆ

โทรถามที่นึงได้ใจความว่า

"If you're expect a room for 45-75 pound, you may not find it

because it's a concert at Hide park this weekend."

ป้าด เลยรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมมันถึงเต็มกันกระจาย

ก็ต้องเร่งปาป้าให้ตัดสินใจว่าจะพักแถวไหน ขืนโอ้เอ้ไม่มีที่ซุกหัวแน่ๆ

กลับบ้านมาอิปาป้าช่วยหน่อยนึง ช่วยทำให้สับสนกับตัวเลือก แหง่ว

แล้วมาได้จริงๆวันอังคารตอนบ่ายๆ และตัดสินใจโทรจอง

แต่ด้วยเดชะบุญส่งเมลล์ไปหาพี่ออยคนสวยว่าจะไป เผื่อเจอกัน

แล้วพี่ออยโทรกลับมาคืนวันพุธพอดิบพอดี

เลยตกลงว่าจะไปนอนค้างบ้านพี่ออยที่เรดดิ้งกันแทน

โรงแรมจองไว้ แต่ไม่ได้จ่ายบัตรเครดิตเพราะไม่มีเลย โนโชว์ ซะงั้น



วันที่ 26-27 มิ.ย. 08

ออกเดินทางกันตั้งกะเจ็ดโมงกว่าๆ

จากสถานี Gent-St-Pieters ไปลงสถานี Brussel Zuid

เพื่อจะรอขึ้นรถไฟ Eurostar เที่ยว 08u26

ไปถึงแอบหาหนมกินก่อน ขนาดรองท้องมาแล้ว

แล้วก่อนเวลาสักครึ่งชม.ถึงเข้าไปใน Lounge ของ Eurostar

ตอนขาเข้า แค่เอาตั๋วเสียบเข้าเครื่องก็ถือว่าเช็คอินแล้ว สะดวกแฮะ

หลังจากนั้นก็ต้องผ่านตม.ของเบลเยี่ยม

ปาป้ายัยหนูดั๊นเจอเพื่อนที่เป็นตำรวจพอดีเลยแวะคุย

ให้แต่หนังสือเดินทางไป ลืมเอาบัตรประจำตัวแสดง

เจ้าหน้าที่ถามหาเลยต้องเอาออกมายื่นให้ดูว่าอยู่ที่นี่ค่า

จากนั้นอิชั้นก็เดินดุ่ยๆตามสามีผ่านหน้าตม.ของอังกฤษไป

เดือดร้อนคุณป้าต้องเคาะกระจกให้เดินกลับมา

พอเดินกลับมาก็ขอโทษขอโพยคุณป้าก่อน

พร้อมรอยยิ้มปนหัวเราะแหะๆตอบไปว่าขอโทษจริงๆ

คุณป้าถามสำเนียงอังกฤษจ๋า ว่าจะไม่ให้ตรวจหนังสือเดินทางก่อนรึ

แล้วก็ถามว่าไปทำไม ไปกี่วัน ส่วนคุณสามียื่นแค่บัตรประจำตัว

จากนั้นก็ผ่านไปด้วยดี รอสักประมาณสิบนาทีก็เรียกขึ้นรถได้แล้ว

โชคดีที่ว่าพี่ชายปาป้ายัยหนู ทำงานอยู่บน Eurostar พอดี

แต่วันนี้ไม่ได้เข้าเวร เลยฝากฝังให้เพื่อนร่วมงานอัพเกรดให้

เลยได้นั่งชั้นหนึ่งกันทั้งขาไปขากลับเลย ฮี่ๆ



มื้อแรกของวันนี้ บนรถไฟเป็นปลาแซลมอนรมควัน

ของปาป้ายัยหนูเป็นไข่กวน ที่รอนานจนนึกว่าพนักงานลืม



ไปถึงสถานี London St-Pancras 09:00 ซึ่งตรงกับเวลาที่เบลเยี่ยม 10:00

แล้วเราสองคนก็เริ่มออกเดินตะลอนทัวร์

ด้วยความที่ว่า สถานี London St.Pancras มันอยู่ข้างๆกับสถานี King's Cross

เลยแวะมาดูหน่อยนึงว่าขบวนรถที่จะไป Hogwarts ออกกี่โมง อิๆ

จากนั้นก็ลงไปสถานีรถใต้ดิน หรือ Underground หรือ tube ของคนลอนดอน

เพื่อซื้อตั๋ว เที่ยวเดียว 4pound วันนีง 5.10pound คุ้มก่าอ่ะ เลยซื้อแบบวันนึงเลย

แล้วก็นั่ง tube จาก King's cross ไปต่ออีกสาย

เพื่อไปลงปลายทางที่สถานี Waterloo เพราะจะได้เริ่มต้นกันที่ BA London Eye

แต่คงไมได้ขึ้นไปอ่ะ เพราะแพง แถมคิวยาวมากๆค่ะ ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น

เลยเดินเลาะแม่น้ำเทมส์ก่อนจะสะพานข้ามไปฝั่ง House of Parliament

ที่ตั้งของนาฬิกาใหญ่ยักษ์ Big Ben นั่นเอง

เดินๆกันมาเรื่อยๆ มาเจอโทรศัพท์ตู้แดง สัญลักษณ์ประจำลอนดอน ขอสักแก๊กนึง



ด้วยความที่ใจจดใจจ่อ อยากจะไปดู Guard change ที่ Buckingham palace ให้ทัน

เลยเดินผ่าน Westminster Cathdral กับ Westminster Abbey แบบไม่รู้ตัว

จนเดินมาครึ่งทางของ St James's park แล้วนึกได้ สามีถามทำไมเพิ่งมาบอก(ฟระ)

อ้าว แล้วใครถือแผนที่อ่ะ อิชั้นมีแต่แผนที่ที่เที่ยวจะรู้รึ เลยเดินต่อไป



บรรยากาศใน St James's park ร่มรื่นมากๆ

จนสามีบ่นอุบว่าทำไมเบลเยี่ยมไม่มีแบบนี้มั่งอะ เฮ้อ

จากนั้นก็ไปเจอกระรอกน้อยอยู่ตรงโพรงไม้

คุณสามีอดไม่ได้แวะไปเล่นด้วยแน่ะ

แล้วก็พักเหนื่อยมุมสวนหม่ำแซนด์วิช ก่อนจะไปจับจองที่ดู Guard change

เดินออกมาจาก St James's park ก็ Buckingham palace แระ

เจอคุณไกด์บอกลูกทัวร์ว่ามุมนี้ดีที่สุดล่ะ

เพราะเค้าเดินผ่านหน้า สามีบอกงั้นอยู่นี่ล่ะ

แต่อิชั้นอยากถ่ายรูปตอนเค้าเปลี่ยนเวรกันข้างในอ่า

ไม่น่าเชื่ออาเจ๊แกเลย แงมๆ

แล้วก็เดินเลียบ Green Park ผ่าน Wellington Arch ไปยังจุดหมาย

ห้าง Harrods ที่เค้าว่ากันว่าแสนจะแพง

เดินผ่านร้านขายน้ำตาลของขวัญเด็กแรกเกิด เจอแบบนึงถูกใจมาก

ตัวกล่องเป็นม้าหมุนสีฟ้า เก๋ไก๋ซะไม่มี แต่ไม่กล้าถามราคา

เพราะลองคำนวณคร่าวๆแล้วคาดว่าประมาณ 200pound ก็ราวๆ 300euro

กลับมาซื้อบ้านเราอ่ะดีแล้ว สู้ราคาไม่ไหวจริงๆ



พอถึงจุดหมาย ห้าง Harrods ลองมองดูราคาข้าวของแล้วแบบว่า

ถ้ากระเป๋าไม่หนัก อย่าเข้ามาเลย

เพราะแค่กระเป๋าดูแบบเรียบๆนะ ยังปาเข้าไปใบละ 1000pound

กะว่าจะเข้าห้องน้ำในนั้นเสียหน่อยอ่ะ แต่หาไม่เจอ ต้องเดินไปอีกห้างนึง

แต่กว่าจะได้ทำธุระ ก็ต้องขึ้นบันไดกันไปชั้น 5 นู่นแน่ะ ลิฟท์ก็มี ฮ่าๆ

พอสบายตัว ก็ออกเดินทางต่อกัน ไปยังแหล่งช้อปปิ้งย่าน Oxford street

ก็เลยขึ้นรถใต้ดินจากสถานี Knightsbridge ไปลง Piccadilly ciscus

ข้อเสียของเจ้า tube นี่คือบางสถานีลงไปลึกยังกะตึก 3-4 ชั้นเลยอ่ะ

เล่นเอาคนท้องลมเกือบจับเหมือนกัน ตอนนั้นเท้าเริ่มง่อยแระ

เพราะหัวรองเท้ากดนิ้วโป้งสองข้างจนปวดเลย

ขนาดรองเท้าเหมือนผ้าใบยังเอาไม่อยู่อ่ะ ก็เดินซะขนาดน้าน

พอออกจากสถานี Piccadilly ciscus ก็เจอป้ายโฆษณาอันบะเริ่มเลย

คุณสามีบอกว่าชอบอันนี้อ่ะ ใหญ่ดี เบลเยี่ยมไม่มีอีกแระ

ตอนแรกกะดิ่งไปกินเป็ดร้านดังก่อนเลยนะ เพราะหิวอ่ะ

แต่สามีบอกว่า เดินแบบนี้ดีกว่า เผื่อได้ดูร้านรวงด้วยว่าไปว่าตามกันค่ะ



จาก Regent street เจอร้านของเล่น Hamley's

ที่มีน้องหมี Paddington กับแบบอื่นๆลดราคา 50% เลยแวะเข้าไปดู

กะว่าจะ Make a bear ทำน้องหมีแล้วปักชื่อลูกไว้ด้วย แต่ไม่มีเลยอด

เลยกะว่าพรุ่งนี้จะกลับมา เอาแบบธรรมดาไว้ให้เป็นของขวัญยัยหนูแล้วกัน



แล้วก็เดินต่อๆ ไป Oxford street ก็หลายกิโลเข้าไปแระ

แล้วยังเดินเป็นวงกลมกลับมา China town หาของกินอีกน่ะ

กว่าจะหาร้านเจอ ตอนนั้นหิวด้วยเหนื่อยด้วยแทบทะเลาะกันตาย

ดีที่ว่าถามทางมาเรื่อยๆ ร้านรวงเค้าก็ใจดี บอกทางมาตลอดจนเจอ ดีใจๆ

เจอร้านอาหารจีนแถบนั้นเพียบ แต่ไม่ฮ่ะ อิชั้นอยากกินเป็ดที่เค้าร่ำลือกันอ่ะ

เลยแวะเข้าไปร้านนี้เลยอ่ะ Four Seasons อร่อยจริงแบบไม่ได้โฆษณา



อิ่มท้องแล้วก็ยังมีเวลาเหลือกว่าจะจับรถไฟไป Reading เที่ยว 17:30

ขอคุณสามีไปแวะ British Museum หน่อยนึงนะ

เดินออกมาจะไปเจอแท๊กซี่ ที่มีสติกเกอร์แปะลายการบินไทย

พอดิบพอดีแบบไม่ตั้งใจ



ขึ้นรถจากสถานี Leicester Square ไปลง Russel Square

คุณสามีไม่ได้อ่านป้ายเลยว่า บันไดมี 137 ขั้น ใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

พาอิชั้นเดินลงบันไดฮ่ะ หอบแฮ่กๆๆ กว่าจะไต่ลงไปได้

คนอื่นลงลิฟท์มาหน้าตาเฉย ออกมาเห็นคงจะนึกสมน้ำหน้าเหมือนกัน

แล้วเดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ จนถึง ขอบอกว่าคุ้มค่าที่ได้ไปมากๆ

เพราะไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ส่วนมัมมี่ของจริง อันนั้นต้องเสียตังค์ดู

ค่าชมก็แพ๊งแพงอ่ะ เลยได้ดูแค่แท่นเก็บมัมมี่เอง

ข้อเสียคือ เสียงดังไปนิดอ่ะ ปิดเทอมพอดี เด็กๆตรึม



แล้วก็ไปต่อกันที่ Trafalgar Square จุดหมายสุดท้ายของวันนี้



จากสถานี Tottenham Court ไปลง Charing Cross

แล้วก็ถึง Trafalgar Square ได้นั่งพักรับลมเย็นๆ

กับดื่มน้ำผลไม้ที่ติดมือจากบนรถไฟขามาด้วย เลยมีแรงอีกนิดนึง

(สามีอยากจะแว้บไป Hyde Park นิดนะ แต่สังขารมิสามารถแล้วฮ่ะ)

ดูรูปแบบรวมๆกันค่ะ





จากนั้นก็นั่งรถใต้ดิน จากสถานี Charing Cross

ตรงดิ่งไปสถานี Paddington รอเวลาไป Reading เลย

พอไปติดต่อซื้อตั๋ว ลมแทบจับฮ่ะ เพราะว่า...??

ค่าตั๋วรถไฟต่อเที่ยวจาก London Paddington ---> Reading

ต่อเที่ยวไปกลับประมาณคนละ 34pound ราคานี้ขึ้นช่วง Peak ได้ด้วย

ถ้ารอให้ขึ้นช่วงหลังพีค ก็ทุ่มกว่าๆไปแล้วนั่นเอง

สามีรู้ราคาก็เข่าอ่อน แม่เจ้า แบบว่าซื้อตั๋วที หมดตรู๊ด

แล้วก็ถามคุณพี่ที่เคาท์เตอร์อย่างสุภาพว่า

แล้วคุณสามีก็ลองถามว่า เค้าเป็นพนักงานการรถไฟเบลเยี่ยม

มีบัตร Inter หรือที่คุณพี่แกเรียกสั้นๆว่า VIP ซึ่งปกติต้องได้ลด 75%

(เจ้านายสามีเคยบอกมาว่า บางที่ก็รับนะ บางที่ก็ไม่ต้องลองถาม)

ว่าใช้ได้ไหม คุณพี่พนักงานตอบมาอย่างสุภาพว่า ได้

เลยเหลือต่อคนประมาณ 7pound กว่าๆ เท่านั้นเอง

ตกสองคนราวๆ 16pound กว่าๆ เฮ้อ

มะงั้นคงไม่ได้ไปเยี่ยมครอบครัว Booth แน่ๆเชียว

แล้วก็ขอถามคุณพี่แกต่ออีกนิดว่า ทำไมราคาตั๋วที่นี่แพงจัง

คุณพี่พนักงานตอบมาว่า เพราะการรถไฟของที่นี่เคยเป็นของรัฐ

แต่ขายกิจการให้เอกชนไป ราคาเลยปรับขึ้นลงได้แบบนี้

ตอนนี้รัฐกำลังพยายามซื้อกลับทีละนิดๆ

เนื่องจากว่าคนบ่นกันหนาหูเหมือนกัน

แล้วก็ขอบคุณคุณพี่อีกหลายๆครั้งก่อนจะเตรียมตัวไปขึ้นรถไฟ



จาก Paddington สู่ Reading เยี่ยมครอบครัว Booth



พอขึ้นบนรถไฟได้ ใช่ว่าเราสองคนจะแอบงีบพัก

ยังคุยกันถึงประเด็นหลักคือเรื่องตั๋ว

คุณสามีบอกว่า นี่ถ้าไปเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟังนะ ก็คงอึ้งกันไปเหมือนกัน

จากนั้นก็ขอพักสายตาคนละสิบนาที ก็มาถึงสถานี Reading

เมืองเล็กๆที่ดูน่ารัก และมีสีสันในตัวเอง

เราสองคนไปถึงก่อนเวลานัดประมาณครึ่งชม.

เพราะกะว่าจะนั่งพัก กินลมชมเมืองสักนิด

แต่ปรากฏว่า มีคุณพี่หน้าตาเอเชียคนนึงมาจากไหนไม่รู้

แอบมองๆดูคาดว่าแกเพิ่งออกมาจากรพ. นั่งไอกุ๊กๆๆน่ากลัวมาก

คุณสามีทนไม่ได้ลุกหนี เราเลยอพยพมานั่งอีกฝั่ง

เท่านั้นล่ะ พี่แกลุกไปมั่งเลย สงสัยว่าสะใจก่อกวนสำเร็จอ่ะสิ

รอกันสักพัก จนจวนเจียนเวลา

ตาก็มองตรงที่จอดรถหน้าสถานีว่าเจ้าบ้านมายังน๊อ

ส่งเมสเสสไป ก็ยังไม่เห็นตอบกลับมา ตาดันเหลือบไปเห็น

รูปร่างเล็กๆที่คุ้นเคยยืนคู่กับผู้ชายคนนึงยืนข้างๆ

มองไกลๆก็คุ้นสายตาว่า เคยเห็นผ่านหน้าบล๊อกของครอบครัว Booth

เลยรีบตรงดิ่งเข้าไปหา ปรากฏว่าเป็นพี่ออยกับคุณสติวจริงๆ



พี่ออยยังตัวเล็ก เสียงใส ยิ้มหวานเหมือนเดิม

ยิ่งวันนี้มากับหวานใจคุณสติวด้วยรู้สึกดีใจมากๆเลยอ่ะ

เพราะยังไม่เคยมีโอกาสได้เจอกับคุณสติวตัวจริงเสียที

จากนั้นก็ไปแวะพักเก็บของ พักเหนื่อยที่บ้านพี่ออยกันก่อน

คุณสามีนั่งหน้าคู่กับคุณสติวก็จ้อกันมาตลอดทาง

ส่วนคู่ข้างหลัง หลังจากครั้งกระนู้นที่เราเจอกันที่เกนท์

ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

มีแต่เสียงทักทายผ่านหน้าบล๊อกและอีเมลล์เท่านั้นเอง

ไปถึงที่บ้านพี่ออย อพาร์ทเม้นท์เล็กๆ แต่สงบและอบอุ่น

ได้เจอน้องตูนน้องสาวของพี่ออยที่มาเยี่ยมด้วยอีกคน

น้องตูนอัธยาศัยดีไม่แพ้พี่สาวคนสวย

แถมยังตื่นเต้นๆกับคนตัวเล็กๆในพุงไม่แพ้กับพี่ออยเลย

พี่ออย ที่เพิ่งเหนื่อยมาจากทำงาน

ยังมีแรงมาทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านไกลสองคนไหว

แถมยังสละที่นอนนุ๊มนุ่มให้เราสองคนยึดพื้นที่ด้วยหนึ่งคืน

(ปล.เกือบตกเตียงอ่ะพี่ออยขา แบบว่านิ่มจัดอ่ะ ไม่คุ้นเคย ฮ่าๆ)

คุณสติวและพี่ออยน่ารักมากๆๆๆๆ อ่ะ

งานนี้ต้องขอยกนิ้วให้และคำขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ

แบบว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณสติวถึงร้ากพี่ออยหมดใจ

(ชมจากใจนะ ไม่คิดค่าชมค่า อิๆ^^)





คืนนั้นเราไปหม่ำกันที่ร้าน Art of Siam

บรรยากาศทั่วๆไป และการจัดร้าน ได้คะแนนเต็มค่ะ

แต่อาหารเราว่าธรรมดามากเลยล่ะ ให้ 5 คะแนน

เสียดายว่าพี่ออยทำงานทั้งวันเลยละ

เลยไม่มีเวลาไปช้อปของสดนะ

มะงั้นเย็นนั้นเราคงได้หม่ำๆฝีมือพี่ออย

แทนที่จะไปหม่ำข้าวเย็นกันถึงร้านอาหารเลย

คาดว่ารสชาตินี่ต้องจัดจ้านกว่าทานที่ร้านแน่นอน

(สามีบอกว่ารู้สึกเกรงใจและขอบคุณอีกครั้งนะคะ

สำหรับเค้าบอกว่า แค่ทำง่ายๆทานกันที่บ้านก็พอแล้ว)

ตอนออกจากร้านไปยังลานจอดรถ

ได้เห็นบรรยากาศใจกลางเรดดิ้งยามค่ำ

ขอบอกว่า อยากกลับมาอีกรอบจริงๆเลย เพราะสวยจริงๆ

หลังจากนั้นก็กลับมาพักผ่อน เพราะตอนนั้นก็สี่ทุ่มกว่าๆแล้วสิ

แต่เราสองคนก็ยังมาชวนเจ้าบ้านคุยอีกนะ

(แอบเห็นคุณสติวเหนื่อยจะสัปหงกให้ได้เชียว เลยเริ่มรู้สึกผิดง่า)

ก็เลยเซย์กูดไนท์แยกย้ายกัน

คุยกันกับคุณสามีก่อนนอนว่าอยากจะตื่นมาให้ทัน

เพื่อจะได้ขอบคุณก่อนคุณสติวจะไปทำงาน

สรุปว่า ไม่ทันอ่ะ รู้สึกเสียดายมากๆที่ไม่ได้ขอบคุณและบอกลา

แต่พี่ออยบอกว่า คุณสติวก็เสียดายนะ แต่ต้องรีบแล้วเหมือนกัน

ตอนหน้ามาต่อภาค 2

ตะลอนลอนดอนกับสองพี่น้องและโบกมือลาเมืองผู้ดี












Create Date : 15 กรกฎาคม 2551
Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 15:11:10 น. 12 comments
Counter : 548 Pageviews.

 
หวัดดีค่า คิดถึงตอนที่ไปหลงอยู่ในลอนดอนจัง

อ๊าย ตกข่าว คุณตุ้ยมีเบบี๋อยู่ในพุงแง้ว ยินดีด้วยค่า


โดย: mooauan IP: 58.8.64.93 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:38:47 น.  

 
ไปเที่ยวมาหลายที่เลยนะคะ น่าสนุกจัง เสียดายไม่มีโอกาสได้เจอกัน ไว้เดี๋ยวได้พาสปอร์ตอังกฤษเมื่อไหร่จะแพลนไปเยี่ยมเองเลยค่ะ... ^_^


โดย: Sherry IP: 86.154.93.244 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:14:17 น.  

 
ตามไปเที่ยวลอนดอนด้วยคนจ้า แม้จะไปเที่ยวแค่ไม่กีวันแต่ก้อคุ้มนะแบบตุ้ยไปเกือบจะทั่วเลย

ดีจังเนอะแอบอิจฉาได้เจอคนน่ารักๆ แบบออยด้วย รออ่านตอนต่อไปอยู่น้า มาอัพเร็วๆก่อนแตงโมจะแตก...ริ คริ


โดย: SaraLove&Dan IP: 85.26.0.22 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:02:03 น.  

 
ตามแม่ตุ้ยเที่ยว อิๆๆ รอมานานละ จะดูรูป ฮ่าๆๆ เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง แต่สงสัยคงจะเป็นปีหน้าเลยน่ะ เพราะปีนี้ทริปเต็มหมดแล้ว ทรัพย์จางด้วย
อยู่ใกล้ๆแท้ๆเนอะ แต่กว่าจะไปทีต้องไปขอวีซ่ายุ่งยากดีแท้ เซ็งตรงนี้แล่ะ
ดีใจแทนที่ได้เจอคุณออย สงสัยโหมงานจนเหนื่อย ได้เห็นแว้บๆ คิดถึงนิ ท่าทางเจ้าบ้านต้อนรับดีจริงๆ แอบอยากไปรบกวนบ้าง ก๊ากๆๆ
แต่ก่อนอื่นต้องไปหาคุณตุ้ยก่อนแล่ะ คราวก่อนก็พลาดกันไปทีนึงแล้ว งานหน้าห้ามพลาดเด็ดขาดนะจ้ะ จะไปช่วยเลี้ยงหลาน ฮ่าๆๆ


โดย: deeda IP: 90.18.11.200 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:12:22 น.  

 
ลืมๆ จะแอบบ่นเรื่องรถไฟที่นี่ซะหน่อย เทเชเวฝรั่งเศสอุ้มนั่งชั้นหนึ่งตลอดเลยคุณตุ้ย ไม่เคยได้กินแม้แต่น้ำซักหยด ไม่เหมือนสมัยขึ้นตาลิสที่เบลเยี่ยม นั่งชั้นหนึ่งทีไร มีเสริฟ์น้ำเสริฟ์หนม ชอบมากๆ คุ้มราคา ที่นี่นะ แพงก็แพง ของกินก็ไม่มีให้ งกซะ เหอๆๆ


โดย: deeda IP: 90.18.11.200 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:18:16 น.  

 
น่องโป่งมั้ยคุณ อิอิ
ลอนดอน ปารีสนี่นะ
เดินเท่านั้นฮ่ะ แล้วดันมาตอนท้อง
กั๊กๆๆๆ อิชั้นไม่ท้องยังเดินขาบวมเลย
ทริปนี้มาชิมลางไปก่อน เดี๋ยวคราวหน้ามาค่อยมาแบบเต็มๆแล้วแวะมานอนบ้านเราด้วยเลยไง เที่ยวนี้ดันสวนกันซะได้เนาะ

บังอาจมากๆนะ เค้าอยุ่ใกล้แค่นี้ยังบ่นๆว่าไม่ได้เจอพี่ออยซะที อีกคนทำงาน อีกคนรับส่งลูก เง้อ
โรงแรมที่ไหนอ้ะ ถูกมากๆนะราคานั้นน่ะ ขนาดอ้ำหากันช่วงธรรมดาๆยัง เจ็ดสิบ ถึงเก้าสิบปอนด์ว่าถูกแล้วนะนั่น พรุ่งนี้ก้อจะไปวัดที่ลอนดอนอ้ะ ทำบุญซะหน่อย

รีบๆมาอัพต่อนะ จะดูรูป อิอิ
รีบจริงๆนะ เห็นพุงแล้วกลัวจะอัพไม่ทัน กั๊กๆๆๆ


โดย: Jason&Aum@diaryis IP: 90.196.197.181 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:34:43 น.  

 
โอ้โห ว่าที่คุณแม่เที่ยวลอนดอนวันเดียวนี่ พี่อ้อเที่ยวเป็นปีนะน่ะ ฮ่าๆๆ อึดจริงๆจ้า เห็นแล้วอิจฉาๆได้ไปเจอครอบครัวบูธอีกแล้ว น้องออยหายไปเลย คงจะงานยุ่งมากๆ...(ใช่มั๊ยจ๊ะ?)

เออตอนพี่ทำวีซ่าไปเทรนที่อังกฤษอะ ไม่ได้บอกว่าสามีเป็นดัชท์ แต่ก็กรอกลงในใบนั้นอยู่นา ชิเก็บตังค์เราเฉยเลย แต่ไม่เป็นไร บริษัทจ่าย ฮ่าๆ นี่นึกอยู่ว่าอาจจะไปเที่ยวอีกรอบเพราะยังไงก็มีวีซ่าแล้ว

รอดูรูปต่อนะจ๊ะ....เออ จริงๆนี่เรายังไม่เคยเจอกันเลยเน๊อะ อยากเจอๆ


โดย: อ้อ IP: 212.187.11.66 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:20:09 น.  

 
แวะมาทักทายคุณตุ้ยค่า

ไวเนอะ เผลอแป๊บ ๆ จะคลอดแว้ววว
ไปเที่ยวส่งท้ายแบบนี้ คุณแม่แฮปปี้ นู๋น้อยในพุงก้อแฮปปี้ไปด้วยแน่ๆ เลยยย

ได้เจอพี่ออยด้วยเหยอ ดีจัง ^^


โดย: suyuu IP: 203.155.24.89 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:10:36 น.  

 
งือ.. กว่าจะอ่านจบ ปวดตามากๆ เลยตุ้ยเอ๊ย
(ทำไมไม่มีใครบ่น หรือพี่แก่อยู่คนเดียว ฮ่าๆ)

โค้งสุดท้ายแล้วนะ.. อยากเห็นสาวน้อยเร็วๆ จังจ้า



โดย: หนุ่มสาวแดนกีวี่ แอนด์เบบี๋ IP: 121.73.39.115 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:07:21 น.  

 
ไม่ได้ตามคุณตุ้ยในไดเลยอ่ะจ้า ยังคิดถึงนะคะ แต่ไม่ค่อยว่าง เหมือนเดิมค่ะ ทำงานเสียจนไม่ได้เข้ามาเลย
ยังไงก็คิดถึงคุณตุ้ยนะคะ


โดย: Seasky ^_^ IP: 202.139.223.18 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:00:14 น.  

 
คุณนุช ดีใจที่แวะมาเยี่ยมน๊า ยังคิดถึงอยู่เหมือนกันจ้า

ป้าเมย์ขา ลุ้นแบบวันต่อวันแล้วอ่ะ ให้ออกมาไวๆได้แล้วนะลูกขา แบบว่าแม่มันหนักพุง ไม่ต้องครบเทอมแล้วก็ได้จ้า หุๆ
ปล.เปลี่ยนพื้นแล้วนะคะ จัดให้ป้าเมย์เลย

คุณโอ๋ ท่าทางเค้าจะสนุกไปด้วยน่ะค่ะ ก็แม่เดินไม่เหนื่อยเลยนะ แค่เท้าปวดเพราะเดินขึ้ลงสถานีรถใต้ดินเท่านั้นเอง

ป้าอ้อขา ไปเดียวป่ะอ่ะ ถ้าไปเดี่ยวต้องเสียตังค์ค่า ถ้าลุงเฮงค์ไปด้วยนะ เค้าจะไม่เก็บตังค์ แต่ถ้าจ่ายไปแล้วเดินทางด้วยกันเค้าจะผลักเข้าบัญชีคืนค่ะ
ปล. อยากเจอป้าอ้อกับลุงเฮงค์เหมือนกันค่ะ

คุณน้องอ้ำ เดี๋ยวรีบๆเลยจ้า เพราะกลัวว่าจะแตงโมแตกก่อนแล้วได้อัพอีกทีตอนลูกโต ก๊าก

ป้าปิ๊ก แหม๋ ใจตรงกันกับน้าอ้ำเลยค่า ไม่แน่ว่าช่วงป้าปิ๊กมาเที่ยวทะเลกับลุงแดนนะ หนูคลอดพอดิบพอดีเชียว

คุณหมู แต้งกิ้วนะคะ

ป้าเชอร์รี่ ไว้มีโอกาสมาฝั่งกระนี้ ยินดีต้อนรับนะคะ เผื่อวันหน้าไปอาศัยที่วินเซอร์

น้าอุ้ม ไว้หนูออกมาแม่จะส่งข่าวแน่นอนค่ะ ว่าแต่ทีจีวีใจร้ายอ้า จ่ายก็แพงแถมไม่มีของให้หม่ำด้วยนิ ไม่ต่างจากรถไฟที่นี่เลยอ้า ต้องซื้อขึ้นไปหม่ำเอง


โดย: bunny2teddy วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:30:52 น.  

 
เพิ่้งได้เข้ามาดูบล๊อคของตุ้ยอีกรอบ

ดีจังได้ไปเที่ยวด้วย ตอนนี้ก็คงไปไหนลำบากแล้วซิตุ้ย ใกล้แล้วเนอะ ตื่นเต้นนะ ไม่แน่เราคงคลอดพร้อม ๆ กันแน่เลยจ๊ะ เพราะอุ๊ยังไม่มีอาการอะไรเล๊ย


โดย: manlika วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:22:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bunny2teddy
Location :
Heusden Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





สามปีแห่งการรอคอย
จวบจนถึงวันที่เราสองคน
ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน

สามปีของการใช้ชีวิตคู่แบบ"เรา"สองคน
วันนี้อะไรๆหลายๆอย่างในชีวิตเปลี่ยนไป

"เรา"สองคน กำลังจะมีสมาชิกใหม่
สมาชิกคนที่สามของบ้าน
(บ้าน รังเล็กๆ ที่แสนจะอบอุ่นของเรา)
มาเติมเต็มความรัก ความอบอุ่น และหัวเราะด้วยกัน
ไม่ว่าจะในวันที่ทุกข์หรือสุขในใจ

เก้าเดือนนับจากนี้ไป
ชีวิตกำลังจะไม่เหมือนเดิม
เพราะคำว่า "แม่" บทบาทใหม่ในชีวิต
ช่างมีความหมาย เกินกว่าที่จะหาคำใดๆมาบรรยาย

มันฝรั่งน้อยของแม่กับปาป้า
..หนู...คือสิ่งมหัศจรรรย์เล็กๆของเรานะ
เราจะรักและดูแลหนูให้ดีที่สุดเลยจ้ะ
แม่กับปาป้า ให้สัญญา

...When you wake up everyday
Please don't throw your dreams away
Hold them close to your heart
'Cause we are all a part...

...The sun comes out
and shines some bright
And disappears again at night

It's just another
Ordinairy miracle today...



พระราชบัญญัตลิขสิทธิ์ ปี พ.ศ.2537
มาตรา 15 ภายใต้บังคับมาตรา 9 มาตรา 10 และมาตรา 14 เจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวดังต่อไปนี้
(1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
(2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
(3) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศน วัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียง
(4) ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น
(5) อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิตาม (1) (2) หรือ (3) โดยจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดหรือไม่ก็ได้ แต่เงื่อนไขดังกล่าวจะกำหนดในลักษณะที่เป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมไม่ได้ การพิจารณาว่าเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง (5) จะเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงมาตรา 16 ในกรณีที่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ได้อนุญาตให้ผู้ใดใช้สิทธิตามมาตรา 15 (5) ย่อมไม่ตัดสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่จะอนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธินั้นได้ด้วย เว้นแต่ในหนังสืออนุญาตได้ระบุเป็นข้อห้ามไว้

Friends' blogs
[Add bunny2teddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.