เปลี่ยนสีผมในรอบ 3 ปี ไม่ได้ทำสีมานานพอควรค่ะ เนื่องจากหน้าที่การงานด้วย ความที่เคยทำสีอ่อนแล้วไม่ชอบด้วย เลยตัดสินใจไว้ผมดำยาวมานานถึงตอนนี้

วันนี้เราได้รับคำท้ามาจาก L’oreal เค้ามีผลิตภัณฑ์ย้อมผมออกมาใหม่ โทนสีอ่อนสุดพิเศษ ทำให้ผมสว่างขึ้น 4 ระดับ จากระดับสีผมของเรา โดยไม่จำเป็นต้องฟอกสีผม ไม่ทำให้ผมพัง บอกเลยว่าตัวนี้ออกมาเอาใจสาวเอเชีย หรือ สาวที่ผมดำเข้มแบบเรา เพราะไม่ว่าเราจะต้องการจะย้อมสีที่อ่อนขนาดไหน จะต้องกัดสีผมไม่รู้กี่รอบ สีผมที่ได้ก็ยังไม่อ่อนตามที่ใจเราต้องการ

เอารูปหลังจากทำสีมายั่วก่อนเป็นรูปแรกเลย ทำออกมาได้สีประมาณนี้ค่ะ จากสีผมธรรมชาติที่ดำสนิท ทั้งหนาและยาว ถือว่าเปลี่ยนลุคเป็นสาวฝอที่แท้ทรูกันไปเลย

เรามาดูขั้นตอนการย้อมและผลลัพธ์ที่ได้ รวมถึงสีลิปสติกที่เข้ากันดี๊ดีในสีผมใหม่ กันด้านล่างเลย

มีทั้งหมด 3 เฉดสี

01 – สีน้ำตาลอ่อนพิเศษ (Ultra Light Natural Brown) ผมสีน้ำตาลอ่อน สีนี้เหมาะสำหรับ คนที่มีผิวสีขาวปานกลาง ทั้งขาวอมชมพูและขาวเหลือง

03 – สีน้ำตาลประกายหม่นอ่อนพิเศษ (Ultra Light Ash Brown) ผมสีเทา หรือ โทนหม่น สีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวขาว ได้ทั้งขาวอมชมพู และ ขาวเหลือง

สีค่อนข้างคล้ายกันมากนะคะ บุ้งว่าเลือกสีที่เราชอบไปเลยจ้า

อุปกรณ์ภายในกล่อง

1. Protective Serum เซรั่มปกป้องเส้นผมก่อนการทำสี
2. The colouring crème ครีมเปลี่ยนสีผมสูตรปกป้องเส้นผม
3. The developer and the comb applicator เราเรียกว่าไฮโดรเจน ตัวนี้มีถึง 12% มาพร้อมกับแปรงปลายหวี
4. The conditioning balm ครีมนวดบำรุงผมหลังจากทำสี
5. ถุงมือ คุณภาพดี ที่ซ่อนอยู่ในแผ่นพับ

ก่อนเริ่ม มาดูเส้นผมและสีผมของบุ้งก่อนทำกันก่อน สีดำสนิท เป็นสีธรรมชาติที่พ่อกับแม่ให้มา ไม่มีแต่งเติม และไม่ได้ผ่านการทำเคมีมานานประมาณ 3 ปี

สภาพผม : ผมยาวถึงเอว เส้นเล็กแต่ฟูหนา ปลายผมมีสีน้ำตาลเนื่องจากผมแห้งเสียจากการไดร์และโดนความร้อน

เตรียมความพร้อมก่อนทำสี

• สระผมให้สะอาดและเป่าให้แห้งก่อนทำสี ผมจะต้องไม่มันและไม่เหนียว
• ลงวาสลีนหรือครีมที่มีความมันตรงช่วงขอบหน้าหรือไรผม และใบหู รวมไปถึงด้านหลังท้ายทอย เผื่อป้องกันสีติดบนผิว
• ใส่เสื้อสีดำหรือเสื้อเน่าๆที่สามารถเปื้อนสีได้
• ใส่ผ้าคลุมไหล่หรือถ้าใครมีผ้าคลุมย้อมผมที่บ้านก็จะดีมาก

ขั้นตอนที่ 1 : บำรุงผมก่อนการทำสี ด้วย Protective Serum

หลอดเล็กที่บนหลอดเขียนเลข1ไว้ ลงให้ทั่วช่วงปลายผม หรือตั้งแต่กลางผมไปถึงปลายผม เพื่อเป็นการปกป้องปลายผมส่วนที่แห้งเสียง่าย แล้วก็จะทำให้สีผมออกมาสม่ำเสมอด้วยค่ะ

ขั้นตอนที่ 2 : เปลี่ยนสีผมด้วยน้ำยาสูตรบำรุงเส้นผม

คำแนะนำตามแผ่นพับ 

1. สำหรับผมที่ผ่านการทำสีมาก่อน : ให้เริ่มลงยาย้อมผมจากโคนผมไล่ลงมาจนถึงปลายผม และนวดให้เข้ากันทิ้งไว้ -30- 45 นาที แล้วล้างออก
2. สำหรับคนที่เปลี่ยนสีผมครั้งแรก หรือ ไม่ได้ทำสีผมมานาน : ให้เริ่มลงยาย้อมผมตามความยาวของผม เว้นช่วงโคนผมเอาไว้ นวดให้เข้ากันทิ้งไว้ 20 นาที แล้วค่อยมาลงน้ำยาที่โคนผม และทิ้งไว้อีก 15 นาที

วันนี้บุ้งทำตามวิธีที่ 2 นะคะ คือเราจะลงยาย้อมที่ช่วงปลายผม ไล่ไปจนจะเกือบถึงโคนผมและเว้นโคนผมไว้ลงน้ำยาที่หลัง

วิธีง่ายๆสำหรับบุ้งคือ ให้แบ่งผมเป็นช่อๆ แต่ไม่ต้องแบ่งชั้นก็ได้ค่ะ เราทำเองจะลำบาก แค่แบ่งเป็นช่องไม่ต้องหนามากก็พอแล้ว พอแบ่งผมได้ ก็บีบน้ำยา ลงช่อผม ตามยาวของเส้นผมเลย บุ้งบีบจากกลางผมลงไปปลายผม แล้วใช้มือโชลมให้ทั่วช่อผมช่อนั้น พยายามใช้มือแผ่หรือขยี้น้ำยาให้ทั่วเส้นผมทุกเส้น บีบให้เยอะๆไปเลยนะคะ ไม่ต้องห่วงเรามีสามกล่อง (รู้อยู่แล้วว่าต้องใช้สามกล่อง 5555) แค่ระวังไม่ให้หกลงพื้นก็พอ

ลงน้ำยาแบบนี้ให้รอบหัว แล้วค่อยเก็บรายละเอียดผมช่วงบริเวณเกือบถึงโคน เพราะถ้าเราใช้เวลาในการลงน้ำยาช่วงบริเวณใบหน้านานๆจะทำให้แสบตาจากกลิ่นของไฮโดรเจนด้วย อันนี้ต้องระวังกันด้วยนะจ๊ะ

อย่าลืม! อย่าพึ่งลงโคนผม เว้นเอาไว้ก่อน เมื่อลงช่วงผมรอบหัวแล้วให้ใช้มือขยำผมรวมกัน นวดให้น้ำยามันเข้ากัน แล้วเราก็ทิ้งไว้ 20 นาที

เก็บปลายผมให้เรียบร้อยทิ้งไว้ อีก 15 นาที ครั้งนี้บุ้งว่าบุ้งพลาดไป ทิ้งไว้ 15 นาทีหลังจากลงน้ำยาก็จริง แต่ลืมไปว่า กว่าจะลงน้ำยาเสร็จ ก็ปาไปหลายนาทีแล้ว ทำให้สีผมช่วงโคนออกมาสว่างไวกว่าช่วงปลายผม

สาวๆดูแล้วให้ระวังขั้นตอนนี้ด้วยเดี๋ยวสีผมออกมาไม่เท่ากัน ควรทิ้งช่วงโคนผมไม่ควรเกิน 10 นาทีหลังจากลงน้ำยาทั่วแล้ว

ขั้นตอนที่ 3 : หลังจากทำสีและลงครีมบำรุงผม

ไปล้างผมกัน ขั้นตอนนี้ใครสามารถวิ่งออกไปร้านทำผมแล้วให้ช่างล้างให้ก็ตามสะดวกนะจ๊ะ สำหรับเรา ไหนๆก็ทำเองมาถึงขั้นนี้แล้ว ควรจะจบด้วยฝีมือตัวเองทั้งหมด 555 เพราะน้ำยาเป็นสีขาวดูแล้วไม่น่าจะล้างยาก เลยล้างเองซะเลย

วิธีการคือ โชลมน้ำอุ่นลงบนผม แล้วใช้มือขยำผม นวดให้ทั่ว เนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นฟองหนักๆ เพื่อให้สีผมมีการผสมผสานที่สม่ำเสมอ หลังจากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ล้างจนมองเห็นว่าน้ำใสไม่มีฟอง

เมื่อล้างผมจนสะอาดแล้ว ให้ลง conditioning balm ขวดเบอร์ 4 ตัวนี้เป็นเหมือนครีมนวด ช่วยปกป้องเส้นผมหลังทำสี นวดให้ทั่วหัว และทิ้งไว้ 2 นาทีค่อยล้างออก อันนี้ถ้าใช้ไม่หมดสามารถเก็บไว้ใช้ตอนที่สระผมครั้งต่อไปได้ ผมจะได้ไม่แห้งเสีย ต้องบำรุงกันต่อเนื่องหน่อย

บอกเลยว่าตัวนี้ต้องใช้นะ เพราะหลังจากนวดแล้วผมนุ่มเบอร์ใหญ่ นุ่มมาก นุ่มกว่าลงครีมนวดที่เราใช้ในทุกๆวันอีก

สีผมอ่อนลงมากได้สีน้ำตาลอ่อน อ่อนกว่าตัวอย่างข้างกล่องอีก สีผมของบุ้งดำมาก เคยฟอกสีเผื่อย้อมสีน้ำตาลมาก่อน ต้อฟอกสีผมถึงสองรอบกว่าจะอ่อน ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นการทำสีผมที่นานมาก ไม่เอาอีกแล้ว แถมสีที่ออกมาก็ยังไม่สว่างตามรูปที่ให้ช่างดู เสียเงินไปหลายตังอยู่นะตอนนั้น

แล้วนี่คือไร? มาย้อมเอง รอบเดียวติด 5555 ทำเสร็จ แม่ถามว่า หะ รอบเดียวติดเลยหรอ ใช่จ่ะแม่ ลูกสาวเปลี่ยนลุคแล้ว

สีผมช่วงโคนจะสว่างมากกว่าช่วงปลายผม เพราะช่วงปลายผมจะเสียและสีจะติดยากมาก ทิ้งไว้นานแล้วก็จะได้สีนี้เป็นสีที่อ่อนที่สุด แต่โดยรวมสีออกมาดูสม่ำเสมอ สีผมสว่างขึ้นจากเดิม 4 ระดับ ผมยังไม่เสีย เส้นผมดูเงาและดูมีวอลลุ่มมากกว่าตอนที่ไว้ผมสีดำ

ใครที่อยากลองเปลี่ยนลุคหรืออยากเปลี่ยนสีผมที่สามารถทำได้ง่ายๆด้วยตัวเอง ไม่ได้ใช้เวลาในการทำนานมากเหมือนไปที่ร้าน เราแนะนำตัวนี้เลย

การเลือกสีลิปสติกและโทนการแต่งหน้าที่เหมาะผมสำหรับสาวผิวเข้มผมบลอนด์

สาวผิวเข้มที่มีผมสีน้ำตาลบลอนด์ ควรเลือกการแต่งหน้าที่ออกมาเข้ม แต่ไม่ใช่ทาตาสโมกกี้สีดำเข้มนะ หมายถึงให้ลงเมคอัพหรือเลือกสีที่เข้มนิดนึง อย่างสีตา สีน้ำตาลบรอนด์นี่จะดีมาก หรือถ้าจะแต่งโทนนู้ดก็ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลแมทลงให้ทั่วเปลือกตาก็สวยแล้ว

มาดูสีลิปที่เหมาะ เป๊ะปัง สำหรับสาวผมบลอนด์ผิวเข้มกัน

1. สีน้ำตาลนู้ด

สีนี้คือสีที่ควรค่าต่อสาวผิวเข้มมากๆ เพราะมันดูนู้ดและดุไปพร้อมกัน ยิ่งถ้าเราเปลี่ยนสีผมเป็นสีน้ำตาลหรือบลอนด์ด้วยแล้ว จะทำให้สีน้ำตาลดูซอฟท์ลงไปอีก มีความละมุนมาก

2. สีส้มโอรส

สีนี้มีความน่ารักมุ้งมิ้งอยู่ในตัว สาวผิวเข้มหลายคนไม่กล้าทาเพราะกลัวจะเด่นเกินไป แต่ไม่เลย พอทาแล้วดูน่ารักขึ้นไปอีกเมื่อมีสีผมแบบนี้ ถ้ากลัวว่าสีลิปจะเด่นพุ่งออกมาจากผิว ก็ไม่ควรใช้สีโอรสที่อ่อนหรือนู้ดไปกว่านี้ ไม่งั้นลอยแน่นอนจ้า

3. สีชมพูปนน้ำตาล

เราชอบเรียกว่าชมพูตุ่นน้ำตาล มีอยู่ในกรุหลายแท่งหลายแบรนด์มาก เพราะคิดว่าเป็นสีที่รอดทุกสถานการณ์ ทุกเมคอัพที่ลง เรียกว่าเป็นสีกันตายที่ควรที่ติดตัวเอาไว้เลย ทำให้หน้าดูสว่างขึ้นมาก ดูขับกับสีผมและสีผิว

4. สีแดงเลือดนก

สีแดงเข้มแบบนี้บอกว่าว่าเป็นสีที่ปังที่สุดของสายฝอ เพราะมันแซ่บมาก แซ่บแบบเซ็กซี่ที่มีกลิ่นอายของความเป็นผู้ดีมีเงิน ดูเป็นแฟชั่นนิสต้าสุดๆ เป็นอีกสีที่ไม่ว่าสาวผิวไหนก็ควรต้องลองทาสักครั้ง เพราะบอกเลยว่ายังไงก็รอด เมื่อทาแล้วก็จะขับกับสีผมบลอนด์ของเราได้ดีมาก