เมษายน 2563

 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
สายสู้ และ สายมู
ตอนนี้ทันตแพทย์กำลังเข้มข้นเรื่องโควิด
ในส่วนที่คุยกันเรื่องงานทันตกรรมนั้น
มีการจัดการหลายอย่างที่ลดการแพร่กระจายเชื้อ

ต่อมาการระบาดนั้นรุนแรงมากขึ้น
มีการขยับออกมาเป็นสองสาย

1. สายสู้

สายสู้นี้คิอ หาทางดูแลผู้ป่วยให้ได้
สายสู้จะต้องทำฟันในผู้ป่วยฉุกเฉิน และจะช่วยในรายไม่ฉุกเฉินได้ด้วย
สายสู้จะบอกว่า เราต้องดูแลผู้ป่วย เราไม่ปิดคลินิก
สายสู้จะยกหลักการทางวิศวกรรมศาสตร์มาเต็ม
กรีฑาทัพกันมามืดฟ้ามัวดิน

อ่านหลักการและเหตุผลแล้ว เข้มมาก
นี่มันดง Manhattan Project รึเปล่านะ
คิดว่าเราควรจะได้รายวิชาวิศวกรรมศาตร์เพิ่มซัก 6 หน่วยกิต
เพิ่มเข้าไปในปริญญาทันตแพทยศาสตรบัณฑิต
(ให้ไปหักออกจาก Phamarcology อันนี้เรียนหลายอยู่)

เหมือนว่าโลกเออโกโนมิกส์ (Ergonomics)* เดิมที่เรียนมา
จะวิ่งตาม COVID-19 อย่างน้อย 1 รอบสนาม

ส่วนตัวเราคิดว่า ถ้าแน่ขนาดนั้น
ต้องโทรตามคนไข้ทุกคน ติดตามไปเลยค่ะ 14 วัน
ว่าใครป่วยไหม
แล้วดูให้ดี ถ้ามีคนไข้ป่วยหลังทำฟัน จะมีการแพร่เชื้อได้
มีความสุ่มเสี่ยงประมาณนึงถ้าช่วงนั้นหรือเมืองนั้นระบาดมาก

แต่จะพอเป็นไปได้หากไม่ใช่ช่วงระบาดสุดๆ และไม่มีคนต่างเมืองมาเลย
ดูให้ดีนั้น ดูยาก

เอาเข้าจริง ที่ทำไปคือ
Open-Label Randomized Clinical Trial
มีขาเดียว, รู้ว่าทำอะไร ..แต่ไม่รู้ที่มาที่ไปแน่หากมีคนติดเชื้อ
จะรู้อีกทีตอนที่ติดกันสะบัดแล้ว
(และคนไข้ไม่ได้เซ็น consent form ร่วมการวิจัย) -เฮ้!

ไม่เป็นไร ยังใช้การได้ ถ้าไม่ใช่เมืองระบาดสุด ยุคระบาดสุด
และ
ถ้าเราไปขัดขาเขา
จะมีปัญหาว่า ไม่ก่อให้เกิดการพัฒนา
เราคิดว่าเราเก็บขาไม่ราน้ำ เอามือปิดปากไว้
ส่งกำลังใจให้ไม่มีเชื้อดีกว่า
รอให้เค้าพัฒนาต่อไป


2. สายมู

สายมูคือสายที่เราสิงอยู่ตอนนี้
ใช่ค่ะ มันคือมูเตลู
เราจะซุ่มตัวติดตามข่าวการตรวจ รักษา วัคซีน
คนอื่นจมจ่อมกับหัตถการ
เราจะถอยมายืนมองมหภาค
เรามีความสุขมาก

สายมูจะไม่อยากให้ทำเยอะ
สายมูกลัวการแพร่กระจายเชื้อ
สายมู (อย่างเรา) จะจิ้ม แยง แหย่ สายสู้
ด้วยความอิจฉาเขาว่าเก่งฟิสิกส์
ผิดกับเราที่เก่งการพากย์ (แฮ่!)

สายมูจะยกอะไรแบบออรัลไบโอโลจี้ ผสมอิปิเดอมิโอโลจี้
การแพร่กระจายโรค การระบาด
การทำนาย ความย่าน ความปลอดภัย

และสรุปสั้นๆ ว่า ระบาดเยอะ อย่าทำเถ้อ พ่อเจ้าประคุณ

--------

ในทางการทำงานก็บาลานซ์กันไปค่ะ
เราไม่ได้เลือกเข้าบ้านใดบ้านหนึ่งแบบฮอกวอตต์นี่นา

ถ้าใครว่าไม่พร้อม การยืดอกว่าไม่พร้อมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ส่วนตัวเรา เราว่าสถานพยาบาลเราไม่พร้อม
กิจการเราไม่พร้อม
เราก็ปิด นี่เป็นจรรยาบรรณค่ะ

พอดีสถานพยาบาลเป็นของรัฐ
ต้องทำฉุกเฉินได้ ก็ทำค่ะ
ขอเตรียมของ สลับกะ แบ่งงานกัน ก็ทำค่ะ
สิ่งสำคัญ คนทำงาน คนไข้ ต้องปลอดภัย

ในพื้นฐานความรู้และการทำงานของเรา
เราแน่ใจว่า เราไม่เอาคนไข้อีสุกอีใส คนไข้เริมกำลังขึ้นตุ่มใหม่ๆ
มาทำฟันฉันใด

เราก็ไม่เอาโรคระบาดที่ติดได้ทางเดินหายใจ
โดยไวรัส ----ที่มีอัตราตายไม่แน่นอนในแต่ละประเทศ
และยังเห็นหนทางไปไม่เสร็จดี
มาแพร่ให้ทีมงาน คนไข้ และคนที่เรารักค่ะ

นาทีนี้เราเป็นสายมู ไม่ค่อยสู้
ส่วนตัวเราทำงานสายสู้ตลอดนะ เราทำงานไม่น้อย
เข้าถิ่นสกปรก (เราถือว่าเฉลี่ยแล้ววอร์ดนั้นปนเปื้อนกว่า โอพีดีทันตกรรม)
ก็บ่อยกว่าคนอื่น
แต่เรากลับมองเห็นว่า สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าคราวนี้
มันน่ากลัวนัก

หรือเพราะว่าเราไม่ได้ทำคนไข้มาหลายเดือน
พอมองไปแบบนี้
เราคิดว่า ไม่ทำให้แพร่กระจายเชื้อ
ไ่ม่รับเชื้อ น่าจะดีกว่า

ซึ่งเราก็เข้าใจคนทำนะ
ชีวิตเราเป็นหนูปั่นจั่นมาตลอด เราเข้าใจจริงๆ
แต่ตอนนี้ โลกเรามันมีสิ่งน่ากลัวกว่าวันนั้นไง

เอ้า รอดูไป
ขอให้ทุกสายปลอดภัยนะคะ
เป็นฝ่ายบริการดีแล้ว อย่าแปลงตัวไปเป็นคนป่วยเลย


____________________

Ergonomics* นี้เป็นรายวิชาที่เราเรียนในคณะทันตฯ ตอนปีสอง
จบมาเราจำได้สองอย่างคือ ไม่ควรทาคลินิกสีเหลือง
เพราะเด็กจะตื่นเต้น กับให้หันเก้าอี้ทำฟันให้คนไข้เดินเข้าง่าย

(จริงก็มีอีกหลายอย่าง แต่สองอันนี้จะนึกถึงก่อนเสมอเวลาพูดถึงวิชานี้)
(ส่วนรายละเอียดที่เข้าใจจริงๆ และได้ปรับใช้มากขึ้น คือตอนทำงานแล้ว)




Create Date : 05 เมษายน 2563
Last Update : 5 เมษายน 2563 10:49:36 น.
Counter : 514 Pageviews.

0 comments

สุขใจพริ้ว
Location :
บุรีรัมย์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



เป็นบันทึกเรื่องราวทั่วไป ตามที่ใจนึกอยาก
ของคนทำงานไกลบ้าน