แต่ในที่สุด ก็พบข้อดีของความเกียจคร้านจนได้ ..และโยเกิร์ตโฮมเมด นี่ไง
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อฤดูฝนของปีที่แล้ว ต้องไปอยู่อาศัยในชนบทของจังหวัดเชียงใหม่
ข้าวของเครื่องใช้ ไม่มีครบสบายเหมือนอยู่ที่บ้านปากเกร็ด
ทำให้ต้องปรับตัวปรับใจ เพื่อชีวิตจะได้ดำเนินไปอย่างปกติ
โยเกิร์ตเป็นส่วนหนึ่งของมื้อเช้า นอกเหนือจากผลไม้ ที่พยายามให้มีทุกวัน
แต่โยเกิร์ตจะมีขายเฉพาะที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่อยุู่ใกล้บ้านที่สุดนั้นห่างออกไปสี่กม.
ต้องใช้้แรงปั่นจักรยานไปซื้อ ถ้าวันไหนแสงแดดสดใส ก็ไม่มีปัญหา วันที่ฝนตก เป็นอันต้องอด
ทำให้ต้องพยายามหาทางที่จะมีโยเกิร์ตตุนไว้กินได้หลายๆ วัน
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ความพยายามนี้เกิดจากความอัตคัดแห่งแหล่งที่อยู่
และความเกียจคร้านที่จะปั่นจักรยานตากฝนแท้ๆเลยเชียว
ง่ายมาก ต้มนมสี่ร้อยซีีซีให้เดือด จากนั้นถ่ายใส่ภาชนะ
ทิ้งไว้ให้นมอุ่น(ตามตำราเขาต้องวัดอุณหภูมิด้วย) แต่เมื่อไม่มี ก็ใช้วิธีชิมเอา
อุณหภูมิอุ่นในระดับที่เมื่อดื่มเข้าไป ไม่ร้อนจนลิ้นพอง และไม่เย็นจนเกินไปเพราะจุลินทรีย์จะไม่โต
ตามตำราเขาจะต้องต้มแบบ double boiler แต่ด้วยความอัตคัตภาชนะ
ก็เลยต้มด้วยหม้อหุงข้าว ไม่มีปัญหา
ใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ยี่ห้อที่ชอบลงไป สองประป๋อง แมลงชอบยี่ห้อแอคทีเวีย
คนให้เข้ากัน เปิดฝาไว้
หาน้ำใส่ถาดมาหล่อไว้ด้วยก็ดี เพราะเดี๋ยวอาจจะมีจิ้งจกใจเด็ดกระโดดลงไปเล่นน้ำนมของเราได้
ตามตำราบอกว่าทิ้งไว้ หกถึงแปดชั่วโมง
แต่แมลงท้ิงข้ามคืน ทำตั้งแต่หกโมงเย็น มาดูอีกทีตอนตีสี่
ว๊าว โยเกิร์ตสดใหม่ คนซักทีนึง แล้วทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ก่อนจะปิดฝา เก็บเข้าตู้เย็น
สัดส่วนนี้ ได้โยเกิร์ตใหม่ๆ กินได้หลายวัน
ดูเอาจากภาชนะที่ใส่ มากโขทีเดียว
ทำมาหลายรอบแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ไปเล่นสนุกอยู่ที่เชียงใหม่
ตอนนี้กลับมาอยู่ปากเกร็ด ก็ยังทำโยเกิร์ตนี้อีก
ทั้งๆที่สถานการณ์เปลี่ยนไป หาซื้อโยเกิร์ตได้สะดวกกว่า
โฮมเมดโยเกิร์ตนี้ นอกจากจะประหยัดเงินได้มากแล้ว
ยังอร่อยกว่าที่ซื้อเค้ากินเป็นกระป๋องๆ เพราะความสดใหม่กว่านี่เอง