Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
จมูกโด่งสวย สไตล์เกาหลี (สวยด้วยแพทย์)


จมูกโด่งสวย สไตล์เกาหลี (สวยด้วยแพทย์)

คนเอเชียมักมีปัญหาจมูกไม่มีดั้ง แบนบานพูดอย่างนี้ก็อย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจที่เกิดมาเป็นคนเอเชียกันล่ะ ดูอย่างสาวเกาหลี ก็คนเอเชียเหมือนอย่างเราๆ ท่านๆ นั่นแหละ แต่ทำไม๊ ทำไมถึงได้มีดั้งโด่งเรียวสวยกันทั้งบ้านทั้งเมือง จนสาวไทยออกอาการตาร้อนผ่าว ๆ แหม...สาวบ้านเขาก็ไม่ได้จมูกโด่งธรรมชาติสร้างมากันซะทุกคนหรอกค่ะ ที่พึ่งพาศัลยกรรมเสริมจมูกก็มีไม่น้อย รู้อย่างนี้แล้วสาวไทยที่อยากมีจมูกโด่งสวยเหมือนสาวเกาหลีคงยิ้มออกกันแน่ ๆ เพราะศัลยแพทย์ไทยขึ้นชื่อเรื่องฝีมือ การที่จะผ่าตัดเสริมดั้งให้สวยสมใจไม่ใช่เรื่องยากค่ะ

เสริมจมูก...รีบด่วนเกินไปก็ไม่ดี

สาวๆ ที่อยากเสริมจมูกเสริมความมั่นใจ อย่าใจร้อนนะคะ เพราะแพทย์ไม่ได้พิจารณาทำให้ทุกคนที่เข้ามาปรึกษา แพทย์จะพิจารณาถึงอายุของผู้ที่ต้องการเสริมจมูกด้วย โดยทั่วไปควรมีอายุอย่างน้อย 16 ปีขึ้นไป ใครที่ยังอายุต่ำกว่านี้ก็ควรอดใจรอสักนิด

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนทำ

ก่อนการเสริมจมูก ต้องมีการเตรียมตัวก่อนทำเช่นเดียวกับการผ่าตัดอย่างอื่น เป็นต้นว่า แจ้งให้แพทย์ทราบหากเคยผ่าตัดอะไรเกี่ยวกับจมูกมาก่อน มีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาอะไรอยู่ และที่จะขาดเสียมิได้ก็คือ แพทย์จะตรวจสอบโครงสร้างของจมูก เนื้อเยื่อในโพรงจมูกด้านนอก รวมถึงพิจารณาถึงโครงสร้างรูปหน้าอย่างละเอียดเพื่อว่าเวลาทำออกมาแล้วจะได้ดูดี ดูสวยรับกับรูปหน้าเรื่องของความโด่งแล้วดูดี ดูสวยนี้ นานาจิตตังค่ะ บางทีหมอว่าสวย คนไข้อาจไม่ชอบ ดังนั้น คงต้องพบกันครึ่งทางหรือหาจุดร่วมที่พอดีจะได้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย

เสริมจมูก...ด้วยซิลิโคน

สำหรับวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก ส่วนมากแพทย์จะเลือกใช้ซิลิโคนแท่ง (Silicone) ข้อดีของซิลิโคนแท่งซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ (Synthetic prosthesis) ก็คือ จะมีปฏิกิริยาต่อร่างกายมนุษย์น้อยมาก ทำให้ร่างกายสามารถรับและห่อหุ้มแท่งซิลิโคนให้ยืดอยู่กับเนื้อเยื่อได้ดี จริงๆ แล้ววัสดุที่นำมาใช้ในการเสริมจมูกไม่ได้มีเฉพาะซิลิโคนแท่งเท่านั้น บางครั้งก็อาจนำมาจากร่างกายของผู้รับการผ่าตัด เช่น กระดูก, กระดูกอ่อน ฯลฯ แต่วิธีนี้ส่วนใหญ่จะใช้เสริมจมูกคนใช้ที่มีจมูกผิดรูปเนื่องจากอุบัติเหตุหรือแก้ไขความพิการจากสาเหตุต่างๆ ไม่เหมาะสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูกเพื่อความงามในบุคคลทั่วๆ ไปที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้

ขั้นตอนผ่าตัด...ไม่ยุ่งยาก

การผ่าตัดเสริมจมูกมีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นานเพียงชั่วโมงเดียวก็แล้วเสร็จ เริ่มจากแพทย์จะให้ยานอนหลับที่มีฤทธิ์สั้น เพื่อลดความวิตกกังวล และขณะฉีดยาชารอบจมูกจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ จากนั้นจะเปิดแผลผ่าตัด (อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้) บริเวณขอบรูจมูกยาวประมาณ 1 ชม. เพื่อผ่าตัดสร้างช่องว่างที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูก ให้สามารถใส่แท่งซิลิโคนที่ตกแต่งเป็นอย่างดีแล้วเข้าไป หลังตรวจสอบความเรียบร้อยจึงจะเย็บปิดแผล ปิดตามด้วยพลาสเตอร์หรือเฝือกจมูกเพื่อป้องกันตัวจมูกและลดอาการบวม

หลังเสริมจมูก...ก็ต้องใส่ใจ

หลังเสริมจมูกแพทย์จะให้นอนพักราว 1 ชม. เพื่อให้ยานอนหลับหมดฤทธิ์ดีเสียก่อน จึงจะกลับบ้านได้ จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของคนไข้ที่ต้องดูแลตัวเองต่อ เป็นต้นว่า ในช่วงวันสองวันแรกให้พยายามประคบผ้าเย็นบ่อยๆ หลังจากนั้นถ้ามีรอยฟกช้ำให้ใช้น้ำอุ่นแทน, นอนศีรษะสูง, ในช่วง 2 สัปดาห์แรกให้หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และกลับมาพบแพทย์ตามนัด

โดยทั่วไป จมูกจะบวมประมาณ 2-3 วัน ในวันที่ 4 ก็จะเริ่มยุบบวม แต่ถ้าจะให้เข้าที่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในช่วงนี้ให้ระมัดระวังเรื่องการโดนกระแทก เพราะแท่งซิลิโคนจะถูกเนื้อจมูกห่อหุ้มจนแน่นและสามารถทนแรงกระทบได้มากๆ ต้องใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน

เห็นง่าย ๆ...ก็อย่าประมาท

ก่อนจากกันก็ฝากไว้สักนิด อย่างที่เห็นกันว่าการผ่าตัดเสริมจมูกไม่ยุ่งยาก แถมศัลยแพทย์ไทยก็มีฝีมือดี แต่ก็ไม่ควรประมาทนะคะ ถ้าจะทำก็ควรเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ จะได้ไม่มีปัญหามาให้หมอเวียนแก้ เช่น ปัญหาจมูกคดเอียง จมูกสูงหรือต่ำเกินไป ปลายจมูกบางแต่ยังไม่ทะลุหรืออาจทะลุแล้ว รวมถึงจมูกมีการติดเชื้ออักเสบ อย่างที่เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งให้เห็นอยู่ประปรายค่ะ


Create Date : 05 ตุลาคม 2554
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 1:59:39 น. 0 comments
Counter : 1731 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tangmo_tsu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add tangmo_tsu's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.