โบรกแนะเก็งกำไร 10 บจ.แกร่ง ดัชนีผันผวน เน้นหุ้นกำไรไตรมาส 1 โตแกร่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ค่าเงินบาท ณ เวลา 10.01 น. อยู่ที่ 30.78 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยผันผวน เก็งกำไร 10 หุ้นเด่น ได้แก่ SAT, CFRESH, TK, DTAC, AMATA, GLOW, KSL, CK, BWG, AS

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : Test 1200 ในระยะสั้น กลยุทธ์การลงทุน: “ขึ้นขาย ลงซื้อ”

บรรยากาศลงทุนเชิงบวกจากภายนอกจะช่วยหนุนให้ SETI ปรับขึ้นทดสอบระดับ 1200 จุดได้อีกครั้งในวันนี้ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะยังดูไร้ทิศทาง แต่โดยรวมก็ได้หนุนการปรับขึ้นของตลาดหุ้นและน้ำมันได้ดี ขณะที่ตลาดยุโรปฟื้นตัวจากการที่รมว.คลังยูโรโซนตกลงที่จะปรับเพิ่มขนาดเงินกองทุนที่ใช้ในการช่วยเหลือประเทศสมาชิกยูโรโซน อย่างไรก็ดี สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่ยะลา และหาดใหญ่ ในช่วงสุดสัปดาห์ ย่อมส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อใกล้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ มอง SETI จะปรับขึ้นได้เพียงระยะสั้นในกรอบจำกัด

กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรแบบ“ขึ้นขาย ลงซื้อ” แต่ต้องระวังความผันผวนของตลาด โดยเฉพาะแรงขายทำกำไรเมื่อเทรดขึ้นเหนือ 1200 จุด แนวต้าน : 1202-1210 แนวรับ : 1193-1187

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CFRESH, TK, DTAC

หุ้นที่ปรับออก : MINT, THCOM

หุ้นที่ปรับเข้า : AS เข้าสู่ High season ช่วงปิดเทอม FV 19.70 บาท กรอบแนวต้าน 18.50 แนวรับ 16.00 Cut loss 15.80 บาท

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันจันทร์รีบาวด์ก่อนแกว่งผันผวน สัญญาณของเศรษฐกิจโลกดีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์) จีนรายงานดัชนี PMI อย่างเป็นทางการเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นสู่ 53.1 จาก 51.0 ในเดือน ก.พ. และสวนทางกับดัชนี Flash PMI ล่วงหน้าที่ออกมาสัปดาห์ก่อน ทำให้นักลงทุนคลายกังวลต่อจีนไปบ้าง นอกจากนี้สหรัฐฯ ได้รายงานตัวเลขการใช้จ่ายภาคบุคคลเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์และช่วยหักล้างผลลบจากตัวเลข PMI ชิคาโกที่ต่ำกว่าตลาดคาด ฟากยุโรปพบว่าตลาดหุ้นรีบาวด์เฉลี่ย 1% เช่นกันหลังจากที่ประชุม รมว.คลังยุโรปเห็นชอบการเพิ่มศักยภาพการปล่อยกู้รวมของ 2 กองทุนช่วยเหลือได้แก่ EFSF และ ESM เป็น 7 แสนล้านยูโร และประเทศสเปนประกาศว่าจะลดงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ลง 2.7 หมื่นล้านยูโร ซึ่งเพิ่มความหวังว่าสเปนจะสามารถคุมยอดขาดดุลให้อยู่ใน 3% ของจีดีพีได้ตามที่กลุ่มยุโรปกำหนดไว้ อย่างไรก็ดี คาดว่า SET จะรีบาวด์ได้ไม่มากเพราะราคาหุ้นได้อยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว และในเดือนนี้มีการขึ้น XD ของหุ้นขนาดใหญ่ตลอด 3 สัปดาห์แรก เริ่มจากวันนี้ ADVANC* และ BEC* จะขึ้น XD เงินปันผล 4.26 บาทต่อหุ้นและ 1 บาทต่อหุ้น ตามลำดับสัปดาห์นี้เป็นช่วงคึกคักของตัวเลขสหรัฐฯ อย่างแท้จริง และจะมีผลต่อมุมมองของนโยบาย QE3 ค่อนข้างมาก เริ่มจากตัวเลข ISM เดือน มี.ค. (วันนี้) ตัวเลข ISM ภาคบริการ (วันที่ 4 เม.ย.) ยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน (วันที่ 5 เม.ย.) และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (วันที่ 6 เม.ย.) อย่างไรก็ดีหุ้นไทยจะหยุดยาว 4 วัน ระหว่าง 6-9 เม.ย. และจะไม่ได้รับผลกระทบในทันทีจากตัวเลขจ้างงานดังกล่าว

กลยุทธ: หุ้นแนะนำซื้อเดือน เม.ย. เราจะเน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/55 แข็งแกร่ง รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการลงทุนเอกชน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ รวมทั้งการลงทุนก่อสร้างของรัฐบาล แนะนำซื้อ IVL, TOP, HEMRAJ, STEC และ TASCO

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดในแดนบวกหลังรมว.คลังยูโรโซนเห็นชอบเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือภูมิภาคเป็น 8 แสนล้านยูโร (จาก 5 แสนล้านยูโร) โดยประกอบด้วยเงิน 5 แสนล้านยูโรในกองทุน ESM และอีก 3 แสนล้านยูโร ในกองทุน EFSF ซึ่งเป็นเงินกู้ที่ได้มีการอนุมัติให้กรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกสขณะเดียวกันตลาดยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการใช้ของผู้บริโภคสหรัฐฯ ก.พ.เพิ่มขึ้น 0.8% นอกจากนี้ในวันเสาร์ที่ผ่านมาจีนรายงานดัชนี PMI มี.ค.ที่ 53.1เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ตลาดหุ้นโลกโดยรวมขาดปัจจัยที่สดใหม่มาผลักดัน ดังนั้นนักลงทุนจะมองหา“ความหวัง” จากประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน อาทิ รายละเอียดการเพิ่มเงินกองทุนแก้ปัญหาหนี้ยุโรปที่จะคุยกันอีกครั้งในเดือน เม.ย. และการประชุมของ FOMC ในวันที่ 24-25 เม.ย.ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดน่าจะมีความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่มามอบให้แก่ตลาดก่อนที่มาตรการ Operation twist ที่ใช้อยู่จะหมดลงในช่วงกลางปี ดังนั้นเรามองว่าในช่วงครึ่งแรกเม.ย. SET Index ยังดูมีความหวังเชิงบวกต่อการขึ้นทดสอบระดับ 1230-1250 อีกครั้ง แต่ด้วยความผันผวนที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น ขอให้นักลงทุนจำกัดขนาดการเก็งกำไรและมีวินัยโดยการตั้ง stop level ไว้ด้วย

กลยุทธ์การลงทุน: เก็งกำไรอย่างระวัง หุ้นแนะนำ AMATA GLOW KSL CK BWG สำหรับหุ้นรายตัวที่อาจพิจารณาเข้าเก็งกำไรได้ อาทิ RS MCOT SF MINT SAT IHL BH TICON LH AP HMPRO TCAP KK APCS BWG KBS KSL DTAC AMATA GLOW AOT SPCG LANNA

สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See หากจะซื้อกลับขอให้เป็นส่วนน้อย และเราจะพิจารณาจุดซื้อและกลยุทธ์ของนักลงทุนระยะกลางอีกครั้ง

Create Date : 02 เมษายน 2555		0 comments
Last Update : 2 เมษายน 2555 11:56:52 น.
Counter : 585 Pageviews.
Share Tweet