space
space
space
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
space
space
29 กันยายน 2555
space
space
space

ทานอะไร..เข้าใกล้ “มะเร็ง”

พูดถึงโรคมะเร็งซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในลำดับต้นๆของคนทั่วโลก ลองนึกดูเล่นๆนะคะว่าคนรู้จักรอบๆตัวเรา มีใครเป็นมะเร็งกันบ้างไหม?มั่นใจว่าเกินครึ่งของผู้อ่านคอลัมน์ "มุมสุขภาพ" นี้น่าจะตอบว่ามีและหลายรายอาจถึงขั้นสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป




สาเหตุใหญ่ของมะเร็งที่คุณหมอและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างระบุว่าเป็นต้นตอใหญ่ๆของโรคนี้ก็คืออาหารที่เรารับประทานกันเข้าไปนี่ล่ะค่ะ

ผู้เขียนเองมีคนรอบตัวที่ประสบเจ้าโรคร้ายนี้อยู่ด้วยกัน 5-6 คนพี่คนหนึ่งเธอทานปาท่องโก๋ที่ตลาดหน้าปากซอยบ้านเป็นประจำตั้งแต่สมัยเรียนปัจจุบันเธอตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ ต้องรักษาด้วยเคมีบำบัดและยาอีกมากมาย คุณหมอแจ้งว่า น้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำนั่นแหละ ตัวอันตราย!!!

เห็นไหมคะว่า การเลือกรับประทานเป็นเรื่องที่เราทุกคนควรใส่ใจและไม่ควรมองข้ามผู้เขียนจึงนำข้อมูลว่าด้วยอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมาฝากให้อ่านกัน

มาดูกันนะคะ ว่าอาหารกลุ่มเสี่ยงที่มักชวนมะเร็งมาลงหลักปักฐานในร่างกาย ประเภทแรกคือ อาหารพวกปิ้ง ย่าง รมควันโดยเฉพาะอาหารปิ้ง-ย่างประเภทที่มีไขมัน เช่นหมูปิ้งหมูย่าง ไก่ปิ้งเนื้อย่าง เวลาปิ้งหรือย่างจะมีไขมันตกลงไปในถ่านที่กำลังแดงทำให้เกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดสารพิษที่เรียกว่า สารพีเอเอช หรือโพลีไซคลิก อะโรเมติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon : PAH) ทำให้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด เต้านม และกระเพาะอาหาร

ประเภทถัดมาคืออาหารไขมันสูง มีข้อมูลการวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าการกินอาหารที่มีไขมันสูงมากๆเป็นประจำ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมากจึงไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันสูงบ่อยๆ หรือเป็นประจำนอกจากเสี่ยงต่อโรคมะเร็งแล้วยังทำให้อ้วนและเกิดโรคอื่นๆ เช่นไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจขาดเลือด

อีกทั้งอาหารประเภทที่ใส่วัตถุเจือปน มีการปรุงแต่งสี กลิ่น หรือสารที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหารล้วนเป็นสารก่อมะเร็งได้ซึ่งสารเจือปนที่อนุญาตให้ใส่ในอาหารได้ ได้แก่ ดินประสิว (ไนเตรท,ไนไตรท์) สีผสมอาหาร เป็นต้น สำหรับวิธีการสังเกตอาหารที่เสี่ยงเจือปนดินประสิวด้วยตัวเองเบื้องต้นคือแนะนำให้ดูที่สีสันของอาหาร อย่างพวกเนื้อเค็ม ปลาเค็ม กุนเชียง ไส้กรอกเบคอน และแหนม หากทิ้งไว้ข้ามวันแล้วสียังคงแดงสวย ถือว่าเข้าข่ายเจือปนดินประสิวอยู่ไม่น้อย

ขณะที่เรื่องการใช้สีผสมอาหาร หากเป็นผู้ผลิตอาหารก็ควรใช้สีที่ได้จากธรรมชาติซึ่งจะปลอดภัยทั้งยังได้กลิ่นหอมจากพืชหรือสมุนไพรที่เรานำมาเป็นวัตถุดิบในการให้สีเพิ่มขึ้นด้วย แต่ถ้าผู้ผลิตขาดความรับผิดชอบใช้สีย้อมผ้าซึ่งให้สีเข้มและราคาถูกก็จะยิ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคเพราะทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหารได้นะคะ

สำหรับผัก ผลไม้ที่มียาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนอยู่ กินทุกวันๆร่างกายขับทิ้งไม่ทันก็เกิดการสะสมจนในที่สุดทำให้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกันค่ะเหมือนที่เตือนๆไปในบทความเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

อาหารจำพวกถั่วลิสง พริกแห้ง หอม กระเทียม ฯลฯ หากมีการปนเปื้อนของเชื้อรา โดยเฉพาะเชื้อราที่ชื่อ "แอสเปอจิลลัส เฟวัส" นั้นจะมีอันตรายสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับเพราะเชื้อราชนิดนี้จะสร้างสารพิษอะฟล่าท็อกซินซึ่งทนทานต่อความร้อนสูงได้มากถึง 260 องศาเซลเซียสดังนั้นความร้อนในอุณหภูมิที่เราใช้หุงต้มคือจุดเดือด 100องศาเซลเซียสจึงไม่สามารถทำลายสารพิษชนิดนี้ได้

แม้แต่การกินอาหารดิบๆ สุกๆ ก็ไม่ปลอดภัยค่ะเพราะเสี่ยงต่อการได้รับพยาธิใบไม้ในตับซึ่งพบมากในปลาน้ำจืดประเภทปลาเกล็ดขาว ปลาตะเพียนพยาธิชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกายได้เมื่อเรากินปลาที่มีพยาธิและปรุงไม่สุกพยาธิจะทำให้ท่อน้ำดีและขั้วตับเกิดการอักเสบ ส่งผลให้เป็นมะเร็งที่ท่อน้ำดีในตับได้ นอกจากนี้ยังมีพยาธิใบไม้ชนิดอื่นๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ ซึ่งวิธีป้องกันคือกินอาหารที่ปรุงสุกทุกครั้ง

นอกจากนี้การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไปก็ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ คือความเสี่ยงของมะเร็งจะเพิ่มขึ้นเมื่อกินเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเนื้อที่มีสีแดงดังนั้นนักโภชนาการจึงแนะนำให้กินเนื้อสัตว์ที่มีสีขาว ซึ่งได้แก่เนื้อปลามากกว่าเนื้อหมูหรือเนื้อวัวนะคะ

เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ และบุหรี่ ก็เป็นตัวการส่งเสริมให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งได้แก่มะเร็งตับ และมะเร็งปอด ดังนั้นหากหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการดื่มหรือการสูบลงก็จะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้คะ

เคยอ่านเจอคำพูดของ องค์ทะไลลามะท่านกล่าวว่า "มนุษย์เรานี้ยอมสูญเสียสุขภาพเพื่อทำให้ได้เงินมาแล้วต้องยอมสูญเสียเงินตราเพื่อฟื้นฟูรักษาสุขภาพ"

พวกเรายอมทำงานหนัก ในสังคมที่เร่งรีบ ทำให้หลายคนมองข้ามเรื่องสุขภาพ กินอะไรที่ง่ายและรวดเร็ว ไม่คำนึงถึงคุณค่าทางอาหารและไม่มีประโยชน์ เมินเฉยต่อการนอนหลับให้พอ สุดท้ายก็เอาเงินที่ได้จากงานหนัก มาหาหมอที่ดีๆ ยาดีๆ โรงพยาบาลดีๆเพื่อการรักษา ทั้งที่จริง เราป้องกันมันได้ตั้งแต่แรก น่าคิดนะคะ.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์





 

Create Date : 29 กันยายน 2555
2 comments
Last Update : 29 กันยายน 2555 12:53:54 น.
Counter : 1908 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: cake&coffee 29 กันยายน 2555 16:37:56 น.  

 

ขอบคุณความรู้ดีๆ ที่นำมาแบ่งปันนะคะ

 

โดย: จุ๋ม (sangsasi ) 30 กันยายน 2555 9:57:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

tanas251235
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space