space
space
space
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
11 มีนาคม 2552
space
space
space

งูกัดปฐมพยาบาลอย่างไร





แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการถูกงูกัดหลายราย พบว่าอายุระหว่าง 10-39 ปี ถูกงูกัดมากกว่าช่วงอายุอื่น และผู้ชายจะถูกงูกัดมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2 เท่า ยกเว้นงูเขียวหางไหม้ ที่ผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสถูกกัดเท่าๆ กัน

การปฐมพยาบาล
หลังถูกงูกัดจะต้องปฐมพยาบาลทันทีก่อนที่จะนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้ป่วยมักจะทำเอง ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง คำแนะนำการปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกงูกัด ได้แก่
1. ใช้เชือก ผ้า หรือสายยางรัดแขนหรือขา ระหว่างแผลงูกัดกับหัวใจ (เหนือรอยเขี้ยว 2-4 นิ้วฟุต) เพื่อป้องกันมิให้พิษงูถูกดูดซึมเข้าร่างกายโดยเร็ว ให้รัดแน่นพอที่จะหยุดการไหลเวียนของเลือดดำ ควรคลายเชือกทุกๆ 15 นาที โดยคลายนานครั้งละ 30-60 วินาที จนกว่าจะถึงสถานพยาบาล
2. เคลื่อนไหวแขนหรือขาส่วนที่ถูกงูกัดให้น้อยที่สุด ควรจัดตำแหน่งของส่วนที่ถูกงูกัดให้อยู่ระดับต่ำกว่าหัวใจ (เช่น ห้อยเท้าหรือมือส่วนที่ถูกงูกัดลงต่ำ) ระหว่างเดินทางไปสถานพยาบาล อย่าให้ผู้ป่วยเดิน ให้นั่งรถหรือแคร่หาม ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของพิษงู
3. ควรดูให้รู้แน่ว่าเป็นงูอะไร แต่ถ้าไม่แน่ใจ ควรบอกให้คนอื่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุช่วยตีงูให้ตาย และนำไปยังสถานพยาบาลด้วย (อย่าตีให้เละจนจำลักษณะไม่ได้)
4. อย่าให้ผู้ป่วยดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาดองเหล้า หรือกินยากระตุ้นประสาท รวมทั้งชา กาแฟ
5. อย่าใช้ไฟหรือเหล็กร้อนจี้ที่แผลงูกัด และอย่าใช้มีดกรีดแผลเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เลือดออกมาก

ช่วงเวลาที่พบผู้ป่วยถูกงูกัดชุกชุมคือฤดูฝน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน)
ผู้ป่วยที่ถูกงูพิษกัด พบว่าถูกงูกะปะกัดมากอันดับหนึ่ง (ภาคใต้) รองลงมาคือ งูเขียวหางไหม้ (ภาคกลาง) และงูเห่า (ภาคกลาง) ตามลำดับ

ความแตกต่างระหว่างงูพิษกับงูไม่มีพิษ

งูพิษ มีเขี้ยว 1 คู่ อยู่ตรงขากรรไกรบน เขี้ยวมีลักษณะเป็นรูกลวงคล้ายเข็มฉีดยา มีท่อติดต่อกับต่อมน้ำพิษ เมื่องูพิษกัดคนหรือสัตว์ ต่อมน้ำพิษจะปล่อยพิษไหลมาตามท่อ และออกทางปลายเขี้ยว คนที่ถูกงูพิษกัดจะพบรอยเขี้ยวเป็นจุด 2 จุด ตรงบริเวณที่ถูกกัด

งูไม่มีพิษ จะไม่มีเขี้ยว มีแต่ฟัน เมื่อกัดคน จะเป็นแต่รอยถลอกหรือรอยถากเท่านั้น จะไม่พบรอยเขี้ยว
งูไม่มีพิษ เช่น งูก้นขบ งูแสงอาทิตย์ งูปี่แก้ว งูเขียวปากจิ้งจก งูลายสาบ งูลายสอ งูงอด งูเหลือม และงูหลาม (2 ชนิดหลังตัวใหญ่ สามารถรัดลำตัว ทำให้ตายได้)
(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าถูกงูที่มีพิษต่อเลือดกัด) หรืออาจตัดถูกเส้นเอ็นหรือเส้นประสาท รวมทั้งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

6. ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ (จากงูที่มีพิษต่อประสาท) ให้ทำการเป่าปากช่วยหายใจไปตลอดทางจนกว่าจะถึงสถานพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด
7. สำหรับบาดแผลให้ใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดบาดแผล ถ้ารู้สึกปวดแผล ให้กินพาราเซตามอล ห้ามให้แอสไพริน เพราะอาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
(ข้อมูลจาก ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป)

ขอบคุณ หมอชาวบ้าน




 

Create Date : 11 มีนาคม 2552
3 comments
Last Update : 11 มีนาคม 2552 7:13:08 น.
Counter : 1306 Pageviews.

 

หัวใจยังแข็งแรงดีอยู่ อะป่าว
บำรุงหัวใจด้วยเสียงหัวเราะอะยาง

 

โดย: พลังชีวิต 11 มีนาคม 2552 8:10:05 น.  

 

เคยโดนงูเขียวหางไหม้มาทีนึง

คราวต่อไป รู้แล้วต้องทำงัย

แต่ที่แน่ๆ ไม่ขอมีที่หน้าดีกว่า หุหุหุ

เดินไม่ได้ไปสองอาทิตย์กว่าๆ

 

โดย: canx 11 มีนาคม 2552 11:46:59 น.  

 

ได้ความรู้ดีมากๆ เลยค่ะ

 

โดย: เม่หลิง 11 มีนาคม 2552 17:09:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

tanas251235
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space