BlogGang.com : : นวลสมร :

Melatonin (เมลาโทนิน)

Melatonin หรือชื่อทางเคมีคือ N-acetyl-5-methoxytryptamine หรือ N-[2-(5-Methoxy-1H-indol-3-yl) ethyl] acetamide
ฮอร์โมนที่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระนี้ ผลิตโดยต่อมไพเนียล( Pineal gland) ในสมองขณะที่เรานอนหลับพักผ่อน มีหน้าที่ช่วยในการรักษาจังหวะเวลาชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ด้วยหน้าที่หลักของมัน คือ การควบคุมนาฬิกาชีวิตภายในร่างกายของเรา (วงจรการนอนหลับและการตื่น) พบว่า ได้ผลมากในการรักษาอาการเจ็ตแล็ก(Jet leg) (อาการนอนไม่หลับเมื่อไปเมืองนอกที่เขตเวลาต่างกัน) และโรคนอนไม่หลับ(insomnia) และ เมื่อเราอายุมากขึ้น ระดับของเมลาโทนินก๊จะลดลง จึงมักพบว่า ผู้สูงอายุมักจะนอนไม่หลับ
การรับประทานเมลาโทนินเสริมอาจจะช่วยชะลอกระบวนการชรา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันเซลล์สมองจากการทำลายโดยปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น อัลไซเมอร์ เมลาโทนินยังช่วยลดอาการปวดศีรษะคลัสเตอร์ (cluster headache)( มีอาการปวดรุนแรงข้างเดียว มักปวดตุบๆที่กระบอกตา รอบๆตา หรือขมับ และมักเป็นข้างเดียว) และช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยการกระตุ้นเซลล์ที่ทำหน้าที่ต้านเซลล์มะเร็ง จึงหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งได้

ต่อมไพเนียล( Pineal gland) จะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (melatonin) ซึ่งสังเคราะห์มาจากกรดอะมิโน ชื่อทริปโตเฟน (tryptophan) พบมากในนม โยเกิร์ต ไข่ งา มะเขือเทศ เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดฟักทอง สาหร่ายเกลียวทอง ถั่วลิสง เนยถั่วลิสง เต้าหู้ ถั่วเหลือง ไก่งวง เนยแข็ง เนื้อสัตว์ เนื้อปลาแซลมอน ช็อคโกแลต กล้วย ลูกพรุน โดยเฉพาะ กลอยและข้าวเหนียว
เมลาโทนิน พบได้ในอาหารดังกล่าว มันจึงเป็นแค่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่จัดอยู่ในยา แม้ว่ามันจะเป็นฮอร์โมนก็ตาม

คำแนะนำ:
-อาการเจ็ตแล็ก(Jet leg) 1-3มิลลิกรัม (ในรูปแบบอมใต้ลิ้น) ปล่อยให้สารละลายใต้ลิ้นครึ่งชั่วโมงก่อนเวลาที่คุณต้องการจะนอน แต่ถ้าเป็นในรูปอัดเม็ดหรือแคปซูล ซึ่งออกฤทธิ์ได้ช้ากว่า แนะนำให้รับประทาน 1-3มิลลิกรัม 1-2ชั่วโมงก่อนเวลาที่จะนอน
-อาการนอนไม่หลับ(insomnia) แนะนำขนาด 1-5 มิลลิกรัม ก่อนเข้านอน (เริ่มที่ 1 มิลลิกรัมแล้วค่อยๆเพิ่มหากจำเป็น ไม่ควรเกิน5มิลลิกรัม)
-เพื่อชะลอวัย(Anti-Aging) แนะนำ 0.5-1มิลลิกรัม (ในรูปอมใต้ลิ้น) แล้วเข้านอน

ข้อระวัง:
-เมลาโทนินอาจทำให้คุณรู้สึกง่วงมาก และควรรับประทานก่อนเข้านอนเท่านั้น ไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรหลังรับประทาน หากคุณรับประทานขาตัวอื่นเป็นประจำ มีโรคประจำตัว ตั้งครรภ์หรือในนมบุตร เป็นเบาหวาน มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุล หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือนและกำลังรับฮอร์โมนทดแทน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมลาโทนิน เนื่องจากเมลาโทนิน อาจกระตุ้นภูมิคุ้มกันมากเกินไปได้ ผู้ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่องหรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่ ไม่ควรรับประทาน

Tips: (เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ)
-หากคุณติดนิสัยชอบหาอะไรรองท้องก่อนนอน กล้วย เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมันช่วยเพิ่มการสร้างเมลาโทนินในร่างกายได้

*ยาแก้ปวด แอสไพริน 1เม็ด สามารถลดการสร้างเมลาโทนินได้มากถึงร้อยละ 75

(บทความจาก vitamin bible,pleasehealth.com)

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2554

0 comments

Last Update : 4 พฤศจิกายน 2554 15:24:50 น.

Counter : 2499 Pageviews.