เส้นทางข้างหน้า จะยังรอคอยเราอยู่เสมอ !!
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
29 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ศาลปค.สั่งคุ้มครอง เบรกครม. ระงับมติ"เขาวิหาร"




Smiley ศาลปค.สั่งคุ้มครอง เบรกครม. ระงับมติ"เขาวิหาร" Smiley

Smiley ชี้เขตแดนไม่ชัด "พันธมิตร"รุกต่อ เอาผิดคดีอาญา รัฐบาลอุทธรณ์ Smiley


 


ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระงับมติครม.แถลงการณ์ร่วมไทยหนุนเขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลก "ปราสาทพระวิหาร" ชี้ปัญหาแนวเขตแดนไม่ชัดเจน ข้อตกลงอาจมีผลผูกพัน ทำลายน้ำหนักอ้างอิงเขตแดน ระบุคำสั่งคุ้มครองมีประโยชน์ ยังคงสงวนสิทธิโต้แย้งคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ รัฐบาลดิ้นเตรียมอุทธรณ์คำสั่ง ยืนกรานทำรอบคอบ ด้าน"ปชป."รุกต่อทันที ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้แถลงการณ์โมฆะ "พันธมิตร" เฮ ไล่ "นพดล" ลาออกรับผิดชอบ เงื้อดาบสอบเอาผิดทางคดีอาญาซ้ำ ขณะที่ศรีสะเกษไปกันใหญ่ ปลุกม็อบชุมนุมหน้าทางเข้าเขาพระวิหาร ถึงขั้นไล่ชาวเขมรออกจากดินแดนไทย "โคราช" ก็เอาด้วย เคลื่อนขบวนปลุกระดมทั่วเมือง

ศาลสั่งคุ้มครอง-ระงับมติ"เขาวิหาร"


เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. ศาลปกครองกลาง โดยนายประวิตร บุญเทียม ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลางและองค์คณะ มีคำสั่งคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ในคดีหมายเลขดำที่ 984/2551 ตามคำร้องของนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายนิติธร ล้ำเหลือ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และกลุ่มนักกฎหมายจากสภาทนายความ รวม 9 คน ที่ยื่นฟ้องนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และครม. ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในการออกแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย-กัมพูชา เพื่อยืนยันและสนับสนุนประเทศกัมพูชา ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

โดยก่อนหน้านี้ องค์คณะศาลปกครองใช้เวลาในการพิจารณาไต่สวน พยานหลักฐาน และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งวันที่ 27 มิ.ย. เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 24.00 น. เป็นเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุป และมีคำสั่งห้ามมิให้นายนพดล และครม.ดำเนินการใดๆ ที่เป็นการอ้าง หรือใช้ประโยชน์จากมติครม. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2551 ที่เห็นชอบในร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย-กัมพูชา เพื่อยืนยันและสนับสนุนประเทศกัมพูชา ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และการดำเนินการตามมติดังกล่าว จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ชี้เขตแดนไทย-เขมรไม่ชัดเจน

ศาลปกครองกลางให้เหตุผลในการออกคำสั่งครั้งนี้ว่า จากการตรวจพิจารณาคำขอเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ก่อนการพิพากษา และเอกสารอื่นๆ ในสำนวนคดีแล้ว เห็นว่าคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่พยานของนายนพดล ส่งต่อศาลนั้น ไม่ได้ระบุเขตแดนระหว่างปราสาทพระวิหาร กับเขตแดนไทยอย่างชัดเจน เขตแดนที่เกิดขึ้นเป็นการกำหนดบริเวณปราสาทพระวิหารโดยประเทศไทยฝ่ายเดียว ตามมติครม.วันที่ 10 ก.ค.2505 ตามคำยืนยันของนายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และนายเชิดชู รักตะบุตร อัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส ปฏิบัติราชการ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย

โดยให้ถ้อยคำว่า การปักปันเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ที่รวมความยาวพื้นที่ชายแดนประเทศไทยที่ติดต่อประเทศกัมพูชา 798 กิโลเมตร รวมทั้งเขตแดนในบริเวณปราสาทพระวิหารด้วย ตามบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา พ.ศ.2543 และสนธิสัญญาระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศส ค.ศ.1904 โดยคณะกรรมาธิการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเจรจาปักปันเขตแดนไม่สำเร็จ จึงเชื่อว่ายังไม่มีการปักปันเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ในบริเวณเขตแดนปราสาทเขาพระวิหาร โดยคณะกรรมาธิการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั้งสองประเทศเกิดขึ้น

ระบุอาจมีผลผูกพันอ้างดินแดน

คำสั่งศาลปกครองกลางระบุต่อว่า อีกทั้งเมื่อพิจารณาแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย-กัมพูชา ในข้อ 1 ที่ระบุว่า "ราชอาณาจักรไทยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในบัญชีมรดกโลก ซึ่งเสนอโดยรัฐบาลกัมพูชา ตามที่จะได้มีขึ้นในการประชุมสมัยที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลก (ที่นครควิเบก ประเทศแคนาดา ในเดือนก.ค.2551) เขตรอบพื้นที่ของปราสาทพระวิหาร ปรากฏตามที่ระบุไว้ในบริเวณ N.1" ซึ่งปรากฏว่าในแผนที่แนบท้ายแถลงการณ์ร่วมที่กัมพูชาเป็นผู้จัดทำขึ้น มีการกำหนดเขตรอบพื้นที่ปราสาทอย่างชัดแจ้ง โดยระบุในแผนที่ว่าเป็นพื้นที่ N.1 แม้พื้นที่ดังกล่าวจะมีบริเวณจำนวนน้อยกว่า บริเวณปราสาทพระวิหาร ตามมติครม.เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2505 ก็ตาม อาจถือได้ว่าไทยได้ยอมรับเขตแดนรอบพื้นที่ของปราสาทปรากฏตามที่ระบุไว้ ณ บริเวณ N.1 โดยปริยาย

นอกจากนี้ แถลงการณ์ร่วมในข้อ 4 ที่ระบุว่า "...เครื่องหมาย N.3 ไว้ในแผนที่ที่กล่าวถึงในย่อหน้าที่ 1 ข้างต้น ให้มีการจัดเตรียมแผนการจัดการพื้นที่ดังกล่าว โดยวิธีการประสานกันระหว่างรัฐบาลกัมพูชา-ไทย อย่างสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศด้านการอนุรักษ์ เพื่อที่จะธำรงไว้ซึ่งคุณค่าที่โดดเด่นเป็นสากลของทรัพย์สินนี้ แผนจัดการดังกล่าวจะถูกรวมเข้าไว้ในแผนจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาท และพื้นที่รอบๆ ปราสาทนั้น..." ข้อตกลงในลักษณะดังกล่าวอาจมีผลผูกพันประเทศไทย และอาจทำลายน้ำหนักในการอ้างอิงเขตแดน ที่ไทยยึดถือสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดนมาโดยตลอด

หวั่นประเทศชาติเสียหาย

คำสั่งศาลปกครองกลางระบุอีกว่า ดังนั้น คดีจึงมีมูลรับฟังได้ว่าตามคำฟ้อง และการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน ซึ่งรวมถึงผู้ฟ้องคดีทั้ง 9 ได้รับความเสียหายต่อไป อันเป็นความเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาแก้ในภายหลัง อีกทั้งหากศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการ หรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาแล้ว ก็ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐ และยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ที่ยังคงสงวนสิทธิโต้แย้งคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ในคดีปราสาทพระวิหารไว้เช่นเดิม จึงมีเหตุเพียงพอที่ศาลจะกำหนดมาตรการ หรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาได้

เตรียมร้อง"ป.ป.ช."เอาผิด"นพดล"ซ้ำ

ด้านนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความผู้ฟ้องคดีที่ 1 กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้ว ก็จะเดินหน้าเกี่ยวกับคดีอาญาที่จะร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนกรณีครม. นายนพดล นายกฤต และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการแถลงการณ์ร่วม กระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อราชอาณาจักร หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักร ตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต และ มาตรา 120 ผู้ใดคบคิดกับบุคคลซึ่งการกระทำการเพื่อประโยชน์รัฐต่างประเทศ ด้วยความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดการดำเนินการรบต่อรัฐ หรือในทางอื่นที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี

ปชป.โต้อิงเขาวิหาร-เกมการเมือง

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ประชุม กรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งระงับแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย-กัมพูชา กรณีขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยใช้เวลาหารือนานร่วม 1 โมง จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รองเลขาธิการพรรคพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณี นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวพาดพิงเรื่องการเมืองไทย โดยระบุว่าบางพรรคได้พยายามใช้กรณีการยื่นขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นประโยชน์ทางการเมืองของตน และเกรงว่าจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัมพูชา-ไทย ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีบุคคลสำคัญของมิตรประเทศเพื่อนบ้านสำคัญ แสดงทัศนะเช่นนี้ต่อการเมืองภายในของไทย อีกทั้งดูเหมือนกล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งอภิปรายท้วงติงการดำเนินการของรัฐบาลไทยในเรื่องนี้

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนที่แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลงตามกระแส และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายมากที่สุด ทั้งในระยะสั้นและยาว กล่าวคือพรรคเล็งเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และศาสนา ของปราสาทพระวิหาร เห็นสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หากแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จะต้องดำเนินการไปตามหลักการที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ทั้งในส่วนของซากปราสาท บริเวณปราสาท พื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่ที่จะต้องจัดการร่วมกัน หมายความว่าไทยและกัมพูชาจะต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกร่วมกัน

อ้างโยนเชือกช่วยรัฐบาลตกน้ำ

รองเลขาฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า พรรคยึดมั่นว่าความสัมพันธ์และความร่วมมือของ 2 ประเทศ จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน ความเข้าใจที่ตรงกัน และความตั้งใจที่จะไม่เอารัดเอาเปรียบระหว่างกัน โดยปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน กรณีเขาพระวิหาร พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า หากรัฐบาลไทยดำเนินการต่อไปในเรื่องนี้ในแนวทางที่ได้ทำไป จะก่อให้เกิดความกังวล และความเคลือบแคลงสงสัย ย่อมไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ที่แนบแน่น และยั่งยืนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวที่แสดงความกังวลต่อการดำเนินการของรัฐบาลไทย ยังมีส.ว.ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง สื่อมวลชน นักกฎหมาย นักวิชาการ และตัวแทนประชาสังคม ตลอดจนประชาชนทั่วไปจำนวนมาก ที่แสดงจุดยืนเช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งไปกว่านั้น ศาลปกครองกลางยังรับพิจารณาคำคัดค้านมติครม. เรื่องการยื่นขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยราชอาณาจักรกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียวอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจ เหมือนกับหาหนทางช่วยรัฐบาล เพราะรัฐบาลเหมือนอยู่ในภาวะคนตกน้ำ และพรรคประชาธิปัตย์พยายามโยนเชือกช่วยเหลือชีวิต แต่รัฐบาลกับไม่ยอมเกาะเชือก อยากให้รัฐบาลปรับท่าที และทบทวนเรื่องนี้ใหม่

ยื่นศาลรัฐธรรมนูญซ้ำ-สั่งโมฆะ

จากนั้นเวลา 16.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเอกสารแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ต่อการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ว่าจะมีลักษณะเป็นสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรค 1 หรือไม่ โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 มารับแทน และกล่าวว่า จะตรวจสอบรายชื่อว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 ที่ให้ส.ส.จำนวน 1 ใน 10 เข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ คาดว่าจะเสร็จและส่งให้ประธานสภาฯ ภายในวันเดียวกันนี้ ส่วนจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวันไหน เป็นดุลพินิจของประธานสภาฯ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยื่นเพื่อขอให้วินิจฉัยว่าหนังสือที่รมว.ต่างประเทศไปทำนั้น เป็นโมฆะหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ผ่านกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ประธานสภาฯ ดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ หากศาลมีคำวินิจฉัยสิ้นสุดก่อนวันที่ 2 ก.ค. ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการยับยั้งไม่ให้ประเทศเกิดความเสียหาย เพราะกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายนพดล ยืนยันว่าในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวไม่เข้าข่ายหนังสือสัญญา ตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจไปก่อนหน้านี้ การยื่นหนังสือดังกล่าวมีการแนบแถลงการณ์ร่วมแผนที่แนบท้าย และคำสั่งของศาลปกครองในการคุ้มครองชั่วคราว ประกอบการพิจารณาด้วย

ส่งต่อกก.มรดกโลก 21 ประเทศ

ต่อข้อถามว่าขณะนี้มีกระแสกดดันให้นายนพดล แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยกมือไม่ไว้วางใจนายนพดลไปแล้ว ส่วนรัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่อย่างน้อยที่สุด นายนพดลควรจะได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อคำสั่งของศาลปกครองด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์มอบให้ประธานสภาฯ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 30 มิ.ย. จะยื่นหนังสือถึงผู้แทนคณะกรรมการมรดกโลกทั้ง 21 ประเทศ ให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อประกอบการพิจารณาการตัดสินใจ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คำสั่งของศาลปกครองจะมีเหตุผลเพียงพอ ยื่นถอดถอนนายนพดลและเอาผิดกับครม.ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในชั้นนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดน หรือเพื่อยับยั้งการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกไว้ก่อน ส่วนการยื่นถอดถอน หรือเอาผิดกับรัฐมนตรี ต้องรอให้ศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งจนถึงที่สุดก่อน

รัฐบาลเตรียมอุทธรณ์คำสั่งศาล

ขณะเดียวกัน น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีปราสาทพระวิหารว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ทหาร และฝ่ายความมั่นคง พยายามทำอย่างรอบคอบที่สุดแล้ว ประเด็นนี้เราไม่อยากให้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น การดำเนินการใดๆ ต้องระมัดระวัง และคิดถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติเป็นหลัก ต้องไม่ทำอะไรที่บุ่มบ่าม

ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้กระทรวงการต่างประเทศไปดูรายละเอียดก่อน เบื้องต้นทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศจะอุทธรณ์คำสั่งชั่วคราวของศาลปกครอง คงต้องให้ทางกระทรวงเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องทบทวน หรือแก้ไขมติครม.ใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครม.จะรับผิดชอบอย่างไรกับกรณีนี้ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ศาลปกครองยังไม่ได้วินิจฉัยว่ามติครม.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพียงแต่ให้ความคุ้มครองชั่วคราวไว้ก่อน ต้องพิจารณาต่อไปว่าสุดท้ายแล้วผลจะเป็นอย่างไร

ยืนกรานมติครม.รอบคอบ

ต่อข้อถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะเรียกหารือผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เรียก ขอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาก่อน เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลระบุว่ามติครม.ล่าสุดไม่สอดคล้องกับมติครม.เมื่อปี 2505 และไม่มีความชัดเจนเรื่องการใช้ถ้อยคำ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่มติครม.ปี 2505 ต่อเนื่องมาถึงมติ ครม.ล่าสุด เป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ การเรียบเรียงถ้อยคำได้มอบให้กระทรวงการต่างประเทศ และเลขาธิการครม.ไปพิจารณาให้รอบคอบ

"ผมในฐานะผู้รับรองมติครม.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ยืนยันว่าไม่มีเจตนาไม่สุจริต ครม.ทั้งคณะไม่มีใครคิดยกดินแดนให้กัมพูชา แต่เมื่อเป็นประเด็นการเมือง ก็เลยกลายเป็นข้อขัดแย้งกัน คิดหรือว่าพวกผมไม่รักชาติ รักบ้านเมือง อย่าไปตีความว่าผมเขียน ครม.ไม่ดี จนทำให้เสียดินแดน เพราะไม่เป็นความจริง หากจะนำเรื่องถ้อยคำในมติครม.มาเป็นข้อโต้แย้งถกเถียงกัน ก็คงเถียงกันได้ทั้งวัน" นายชูศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ประชาชนคิดว่าไทยเสียดินแดนไปแล้ว รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นสิ่งที่พูดกันไป แต่รัฐบาลพยายามชี้แจงว่า เป็นการรับรองเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการรับรองดินแดน เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อมาถึงขั้นนี้ก็ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการไปก่อน เมื่อได้ข้อยุติแล้วค่อยมาว่ากันอีกที

พรรคร่วมหนุนคุ้มครองเขาวิหาร

ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เมื่อศาลสั่งคุ้มครองก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องรับฟังและปฏิบัติตาม และน่าจะมีส่วนช่วยทำให้ลดกระแสได้ อาจทำให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้น เพียงแต่ยังมีประเด็นความรู้สึกที่มีต่อรัฐบาลเท่านั้นเอง การดำเนินการเป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศที่รู้รายละเอียดดีทั้งหมด สามารถชี้แจงได้ว่าเจตนาคืออะไร หากทำไปแล้วจะเกิดหรือไม่เกิดผลกระทบอย่างไร และที่ประชาชนหวาดกลัวจะชี้แจงอย่างไร คิดว่าน่าจะใช้ช่วงนี้ทำความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลแสดงความเป็นห่วงเรื่องเขาพระวิหาร ในระหว่างการประชุมร่วมกับนายกฯ ก่อนโหวตลงมติไว้วางใจนายกฯ และ 7 รัฐมนตรี นายสมศักดิ์กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลห่วงเรื่องนี้ รวมทั้งพรรคชาติไทยก็ห่วง และคิดตรงกัน เพราะได้ฟังข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้าน มีปมประเด็นรวมทั้งข้อมูลจากหลายฝ่ายที่ทักท้วงมา มีประเด็นที่รัฐบาลต้องตระหนักด้วย ก็ได้ให้ข้อสังเกตนายกฯ ไป นายกฯ ก็รับในสิ่งที่เกิดขึ้น และออกมาให้สัมภาษณ์ว่าถ้าตรงไหนไม่ถูกต้องก็แก้ไขได้ ทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนได้ อย่าว่าแต่เรื่องเขตแดนเลย แต่พรรคร่วมรัฐบาลพูดในภาพกว้าง ภาพรวมว่า ทั้งหมดเป็นอย่างไร เราต้องละเอียดรอบคอบเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้ส่งผลกระทบในอนาคตต่อกรณีที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ยังพิพาทกันอยู่

บัวแก้วย้ำสัมพันธ์ไทย-เขมรปกติ

ส่วนนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าร่วมประชุมกับนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศว่า เป็นการประชุมตามปกติ เรื่องเขาพระวิหารนั้นคงพูดอะไรไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งศาลแล้ว แต่ยืนยันว่าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชายังคงเป็นปกติ เป็นไปตามคำให้สัมภาษณ์ของรมว.ต่างประเทศของกัมพูชาที่ยืนยันเช่นเดียวกัน

ต่อมานายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง ภายหลังมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีประสาทพระวิหารว่า เป็นเรื่องของรมว.ต่างประเทศ และครม.ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกฟ้อง โดยนายนพดลระบุว่าจะต้องนำเรื่องนี้ไปหารือกับครม.ก่อน แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะดำเนินการเมื่อใด คิดว่าน่าดำเนินการโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะที่จะเดินทางไปประชุมที่ควิเบก ประเทศแคนาดา จะยังคงเดิมอยู่หรือไม่ นายธฤต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร อาจจะไปหรือไม่ก็ได้ แต่อยากจะให้คำตอบว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบว่ามีความเปลี่ยนแปลงอะไร

โวย"นพดล"นำแผนที่ทหารอ้าง

ขณะที่พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงการทำหนังสือถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี รวมถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อคัดค้านกรณีที่รัฐบาลลงนามร่วมแถลงการณ์ให้กัมพูชาเสนอปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า เป็นสิทธิแต่ละคนทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่เรื่องเขาพระวิหารอย่างเดียว กรณีที่นายนพดล อ้างแผนที่ 1 ต่อ 50,000 ว่าเป็นการปักปันเขตแดน ซึ่งท้ายแผ่นที่เขียนว่าเป็นเรื่องใช้ทางทหาร ในฐานะที่ทำงานตรงนี้รู้ดีว่ามาอ้างกันไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมผบ.เหล่าทัพปิดปากเงียบเรื่องปราสาทพระวิหาร เพราะถูกนายนพดลสั่งห้ามหรือไม่ พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องใครปิดปากใคร แต่ให้เกียรติพวกท่าน เป็นทหารระดับนี้ต้องมีวิจารณญาณ ต้องรอเวลา เรื่องเขาพระวิหารมีความเกี่ยวข้อง ส่วนกองทัพเรือก็มีทางทะเล กองทัพอากาศด้านทางอากาศ มีส่วนสำคัญทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ

ต่อข้อถามว่าอยากเสนอกรณีเขาพระวิหารต่อนายนพดลอย่างไร พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องไปทำประชาพิจารณ์ เพราะเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง แต่คนทั้งชาติต้องรับรู้ การที่ทำหนังสือถึงทุกฝ่ายทั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้สับสน ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 70 ระบุถึงความมีเสรีภาพและมาตรา 17 ให้หน้าที่ทหารอยู่

"พันธมิตร"เฮ-อ้างไม่ปลุกคลั่งชาติ

ส่วนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล สถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงปักหลักขับไล่รัฐบาลนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพันธมิตรฯ นำคำสั่งของศาลปกครองกลาง ที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามดำเนินการใดๆ ตามแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา กรณีสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามมติครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2551 มาอ่านให้ผู้ชุมนุมทราบ พร้อมทั้งหยิบยกเรื่องปราสาทพระวิหารมากล่าวปราศรัยโจมตีนายนพดลและครม.

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การดำเนินการของพันธมิตรฯ เป็นไปอย่างมีขั้นตอน สนับสนุนกระบวนการยุติธรรม จะไม่นำเรื่องที่อ่อนไหวมาปลุกกระแสชาตินิยมโดยไม่มีเหตุผล เป็นการทำเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ ขณะเดียวกัน ขอบคุณศาลปกครองกลางที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ถือเป็นชัยชนะของภาคประชาชน แต่จะยังไม่ยกระดับความเข้มข้นของการชุมนุม เนื่องจากต้องพิจารณาจากเสียงสนับสนุนของประชาชน โดยจะไม่ใช้ความรุนแรงกดดันเคลื่อนไหว แต่จะชุมนุมในจังหวัดต่างๆ มากขึ้น

ไล่"นพดล"ลาออกรับผิดชอบ

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า คำสั่งของศาลปกครองกลาง ถ้าเป็นการเมืองในต่างประเทศ รัฐมนตรีจะต้องแสดงความรับผิดชอบ จึงเห็นว่านายนพดลก็ควรรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศเช่นกัน เพื่อยกระดับจริยธรรมของนักการเมือง ถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมการเมืองที่ดีด้วย ขณะเดียวกันต้องถือว่าเรื่องนี้ รมว.ต่างประเทศไม่สามารถกระทำได้เพียงผู้เดียว แต่เป็นมติครม. หากมองในภาพรวม ครม.ก็ต้องรับผิดชอบด้วย

นายพิภพ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ยังคงจุดมุ่งหมายเดิม ต้องการให้รัฐบาลลาออกทั้งคณะ ดังนั้น แม้นายนพดลจะลาออกเพียงคนเดียว ก็ไม่มีผลต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ตามยุทธการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายเมื่อใด ทางแกนนำพันธมิตรฯ ต้องหารือกันอีกครั้ง แต่จะไม่นำคำสั่งของศาลปกครองเข้ามาเป็นเงื่อนไข

เจรจาโรงเรียน-หลังถูกฟ้องศาล

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อถึงกรณีอาจารย์โรงเรียนราชวินิตมัธยม ยื่นฟ้องศาลแพ่งขอให้รื้อถอนเวที งดการใช้เครื่องขยายเสียง รวมทั้งเปิดช่องทางจราจรว่า ได้รับมอบหมายจากแกนนำพันธมิตรฯ ให้ไปพบกับอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนคร และรักษาราชการแทนผอ.โรงเรียนราชวินิตมัธยม เพื่อหารือเกี่ยวกับเสียงที่รบกวนการเรียนการสอน และได้แก้ไขแล้ว โดยงดใช้เสียงในช่วงที่มีการเรียนการสอน หันลำโพงเข้าฝั่งทำเนียบฯ ส่วนการเปิดเส้นทางการจราจร ได้เชิญอาจารย์จากทั้ง 2 โรงเรียนมาดูพื้นที่แล้ว ทำความเข้าใจกันว่าจะเปิดเส้นทางที่ไม่กระทบต่อการชุมนุม ในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะหากเปิดการจราจรทั้งหมด อาจทำให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ามาก่อความุว่นวายได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีชุดรักษาความปลอดภัย หรือการ์ดพันธมิตรฯ ตรวจค้นกระเป๋านักเรียนที่เดินผ่าน นายพิภพกล่าวว่า จะกำชับไม่ให้กระทำการดังกล่าว โดยเฉพาะกับเด็กที่ใส่เครื่องแบบนักเรียน อย่างไรก็ตาม หากศาลแพ่งมีคำสั่งออกมาอย่างไร พันธมิตรฯ ก็พร้อมปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ขณะนี้ยังไม่ต้องการแสดงความเห็น เพราะเกรงจะเป็นละเมิดอำนาจศาล

พันธมิตรฯเงื้อดาบสองเอาผิดอาญา

ต่อมาเวลา 18.40 น. นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และนายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ร่วมแถลงกรณีศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครอง ระงับมติครม.แถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย-กัมพูชา โดยนายสุวัตร กล่าวว่า พันธมิตรฯ จะรอให้กระทรวงการต่างประเทศร้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้เสร็จสิ้น หากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง กลุ่มพันธมิตรฯ จะดำเนินการตามกฎหมายอาญาต่อกับนายนพดล และครม. รวมถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอีก 2 คน ที่ดำเนินการในเรื่องนี้ ตามมาตรา 120 ที่ระบุว่าผู้ใดที่ทำให้ประเทศหรือรัฐเสียอาณาเขต หรืออธิปไตย จะต้องได้รับโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

นายคำนูญ กล่าวว่า กลุ่มส.ว.จะเดินหน้าต่อ โดยยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 มิ.ย. ให้พิจารณาว่า การดำเนินการของครม.ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 หรือไม่ เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญคงจะพิจารณารวมเป็นเรื่องเดียวกับของส.ส. อย่างไรก็ตาม ในท้ายคำร้องจะร้องขอเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่ไต่สวนฉุกเฉิน อยากให้ติดตามเรื่องนี้ชนิดชั่วโมงต่อชั่วโมง เพราะสถานการณ์ในขณะนี้ไปจนถึงวันที่ 2 ก.ค.มีความสำคัญยิ่ง

"ยะใส"แฉเด็กรมต.ตัวการฟ้องม็อบ

ส่วนนายสุริยะใส กล่าวว่า เห็นได้ว่าคำสั่งศาลที่ออกมาครั้งนี้เปรียบเสมือนเป็นการตบหน้ารัฐบาลอย่างแรง และไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศอีกต่อไป ที่จะทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแทน เพราะฉะนั้น รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว เราไม่ควรปล่อยให้ ครม.ชุดนี้ทำงานต่อไปอีกแม้วินาทีเดียว เพราะจะทำให้ประเทศได้รับความเสียหายต่อไปในอนาคตได้

นายสุริยะใสกล่าวต่อถึงกรณี ผอ.โรงเรียนราชวินิตฯ ครู สมาคมผู้ปกครอง และนักเรียนบางส่วน ยื่นฟ้องกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อศาลแพ่ง ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมว่า ได้รับแจ้งมาจากเจ้าหน้าที่โรงเรียนราชวินิตฯ ว่า มีผู้ใกล้ชิดรัฐมนตรีเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการดำเนินการ ส่วนรัฐมนตรีจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ไม่ทราบ แต่เห็นว่าการดำเนินการครั้งนี้เหมือนวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ในการเจรจาก่อนหน้านี้ได้พูดคุยตกลงเป็นที่เข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว แต่จู่ๆ ทางโรงเรียนก็ไปยื่นเรื่องร้องต่อศาล จึงเป็นจุดที่น่าสงสัยว่า การเจรจาในครั้งแรกอาจเป็นการเตรียมการ เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนให้เห็นว่ามีการเจรจาในระดับหนึ่งแล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงต้องนำไปสู่การฟ้องร้อง เหมือนเตรียมคำฟ้องไว้ล่วงหน้า เพราะในวันที่กลุ่มนี้เดินทางไปศาลแพ่ง มีคนเห็นเลขานุการรัฐมนตรีนั่งรถเบนซ์ไปให้กำลังใจครูและนักเรียนถึงที่ศาล

ศรีสะเกษไปกันใหญ่-ฮือไล่เขมร

วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. ที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีกลุ่มประชาชนอ้างตัวเป็นกลุ่มสมัชชาประชาชน จ.ศรีสะเกษ และกลุ่มสภาสหธรรมิกประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ประมาณ 200 คน รวมตัวกันชุมนุมเปิดเวทีปราศรัย คัดค้านกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยแกนนำผู้ชุมนุมกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล ที่เห็นชอบกัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พร้อมทั้งนำป้ายข้อความทั้งภาษาไทยและกัมพูชา ระบุว่า คัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เอาคนกัมพูชาออกไป เอาแผ่นดินไทยคืนมา อีกทั้งผู้ชุมนุมยังตะโกนขับไล่กัมพูชาให้ออกไปจากเขตแดนไทยโดยด่วน

นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า พวกเราจะรวมตัวกันไปยื่นหนังสือให้ชาวกัมพูชาได้รับทราบว่า ชาวไทยคัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ขอให้ชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยโดยด่วน

ด้านนายบุญรวม จันทะมาศ ทนายความ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หากว่าชาวกัมพูชาต้องการปราสาทพระวิหาร ก็ขอให้มายกเอาปราสาทพระวิหารออกไปตามคำพิพากษาของศาลโลก แต่ให้คงเหลือแผ่นดินไทยเอาไว้ เนื่องจากว่าชาวศรีสะเกษและชาวไทยทั่วทั้งประเทศจะไม่ยอมเสียดินแดนของไทยให้ต่างชาติอีกต่อไปแล้ว

ทหาร-ตร.ต้องห้ามทัพกันวุ่น

ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่หน้ากองร้อยทหารพรานที่ 2306 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ พร้อมด้วย พระวิจิตร ญาณโสภโณ ในฐานะเลขาธิการขบวนการศาสนาเพื่อมนุษยชาติ นำเอาพระพุทธรูป ธงชาติไทย และมีศาลาไทยวางอยู่บนรถกระบะติดข้อความว่านี่คือแผ่นดินของไทย ไปตั้งที่เชิงเขาพระวิหาร

ขณะเดียวกัน นายประเสริฐ อร่ามศรีวรพงษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น รองผบก.ศรีสะเกษ พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และพ.ต.ท.ทิพย์พงษ์ ทิพย์เกสร สวญ.สภ.บึงมะลู นำกำลังทหารและตำรวจ ประมาณ 200 นาย ตั้งด่านปิดกั้นถนนไม่ยอมให้ขบวนของนายสมานกับพวกผ่านไปได้ แต่ว่ากลุ่มนายสมานได้เดินเข้าไปเพื่อขอผ่านไปยังบริเวณเชิงเขาพระวิหาร เกิดกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย ทางกลุ่มประท้วงจึงนำเอาเรือนไทยลงจากรถกระบะวางไว้ข้างทางแทน

นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า การที่ไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงเดินทางไปที่เชิงเขาพระวิหาร เพราะไม่ปลอดภัย เนื่องจากว่าขณะนี้ยังมีความไม่สงบเรียบร้อยอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร อาจจะทำให้กลุ่มผู้ประท้วงได้รับอันตรายได้ จึงจำเป็นต้องสกัดกั้นเอาไว้

"โคราช"ก็ด้วย-ปลุกระดมทั่วเมือง

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่หน้าโรงแรมดิไอยรา ถนนจอมพล อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พร้อมด้วย ท.พ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี แกนนำภาคีมวลชนคนโคราชเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มพันธมิตรฯ โคราช จำนวนหลายร้อยคน ถือป้ายประท้วงกัมพูชา ก่อนเคลื่อนขบวนไปตามถนนในตัวเมือง พร้อมทั้งปลุกระดมให้ชาวโคราชออกมาทวงเขาพระวิหาร โดยแจกใบปลิวไปตลอดทาง กระทั่งไปถึงกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี เพื่อทวงคำตอบจากพล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 กรณีที่เคยมายื่นจดหมายคำถามเรื่องเขาพระวิหาร และสาเหตุปิดช่องเอเอสทีวี

จากนั้น พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผอ.กองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ออกมาชี้แจง โดยกล่าวว่า จุดยืนของกองทัพภาคที่ 2 จะรักษาอธิปไตย และไม่ให้ใครมาแบ่งแยกดินแดนอย่างเด็ดขาด ทหารทุกนายได้ปฏิญาณตนว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ส่วนการปิดกั้นการแพร่ภาพข้อมูลของช่องเอเอสทีวี เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เรายังเปิดให้ชาวค่ายสุรนารีได้รับชมเหมือนเดิม ไม่ได้ปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารแต่อย่างใด

ระงับสมุดปกขาวเขาพระวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ศาลปกครองออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ในช่วงค่ำของวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวง //www.mfa.go.th แจ้งการขอระงับการเผยแพร่สมุดปกขาว กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และยกเลิกการสัมมนาเรื่อง "ท่าทีของไทยต่อการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก" จะมีขึ้นในบ่ายวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ด้วย

ข้อความในเว็บไซต์ระบุว่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศกำหนดจะจัดการสัมมนา เรื่องท่าทีของไทยต่อการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ในวันจันทร์ที่ 30 มิ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นั้น โดยที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2551 กำหนดมาตรการชั่วคราวเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศจึงขอยกเลิกการจัดการสัมมนาดังกล่าว นอกจากนี้ กระทรวงยังได้ระงับการเผยแพร่สมุดปกขาว กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกทางเว็บไซต์ของกระทรวงด้วย


Smiley ข้อมูลจากหนังสือพิมข่าวสด Smiley






Free TextEditor



Create Date : 29 มิถุนายน 2551
Last Update : 29 มิถุนายน 2551 21:27:54 น. 0 comments
Counter : 224 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

วังน้ำปาย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Free CursorsMyspace LayoutsMyspace Comments Cursors





จำนวนผู้ชมทั้งหมด

Scrollbars From Dolliecrave.com
Friends' blogs
[Add วังน้ำปาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.