บัวหลงทาง
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
2 มิถุนายน 2552
 
 

The Erawan Museum

เคยไปเที่ยว"ช้างสามเศรียร" กันหรือยัง...คะ
เด่ววันนี้จะพาไปเที่ยวนะคร้า
บัวไปเที่ยวช้าง 3 เศียร.เมื่อวันที่ 31/08/2008 ที่ผ่านมานี่เอง บัวไปเที่ยวคนเดียวค่ะไม่มีเพื่อนเลย. แต่ก้อหนุกคร้า เลยเก็บภาพเสวยๆมาฝากกัน..

พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร(ช้างเอราวัณ)
ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทสายเก่า เกิดจากการสร้างสรรค์ของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของสมุทรปราการ เป็นประติมากรรมทองแดงรูปช้างสามเศียรที่ตั้งโดดเด่นตระการตาสูงถึง 50 เมตร ล้อมรอบด้วยสวนพักผ่อน

เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2537
ภายในเป็นอาคารสามชั้น ชั้นล่างเป็นชั้นบาดาล มีรูปปั้นมนุษย์นาค และโบราณวัตถุมีค่า ชั้นที่สองเป็นชั้นมนุษยโลก ตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยลวดลายปูนปั้นประดับเบญจรงค์ ฝีมือช่างเมืองเพชร มีซุ้มพระเกตุประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมอายุเก่าแก่ถึง 1,300 ปี เพดานเป็นกระจกสีรูปแผนที่โลก ชั้นที่สามเป็นชั้นสวรรค์ซึ่งอยู่ในตัวช้าง เป็นประดิษฐานพระพุทธรูปและเทวรูป ผนังท้องช้างเป็นภาพเขียนสีฝุ่นรูปสุริยะจักรวาล ทวีปทั้งห้าและจักรราศี ตึกสูงรูปทรงช้างเอราวัณแห่งนี้

จุดประสงค์ในการสร้าง
เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาศิลปวัตถุ โบราณวัตถุที่เก็บสะสมมานานและ พื้นที่บริเวณ โดยรอบอีกหลายสิบไร่จะจัดให้เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีทั้ง ต้นไม้ น้ำตก ลำคลอง เพื่อให้ผู้เข้าชม พิพิธภัณฑ์ได้มาพักผ่อนหย่อนใจ

อาคารนี้ มีความสูงเท่ากับตึกสูงประมาณ 17 ชั้น ความสูงจากพื้นดินถึงยอด 50 เมตร ตัวอาคารด้านล่าง มีระเบียงรอบเป็นวงกลม มีทางเข้าภายในอาคารได้หลายทาง เมื่อเดินเข้ามาจะเป็นเหมือนห้องโถง ตรงกลางโถงเป็นซุ้ม โอบรอบด้วยบันไดวน 2 ข้าง ที่ขึ้นมา บรรจบกันตรงชั้น 1 ความวิจิตรบรรจงเริ่มตั้งแต่ตรงนี้ อาคารประกอบไปด้วย 5 ชั้น เมื่อเดินเข้ามาภายในอาคาร จะเป็นเหมือนห้องโถง ตรงกลางโถงเป็นซุ้มโอบรอบด้วยบันไดวน 2 ข้าง ที่ขึ้นมาบรรจบกัน ในส่วนนี้ช่างปูนปั้นฝีมือดีจากเพชรบุรีเป็นผู้ออกแบบและดูแลการทำงาน ซึ่งต้องใช้คนไม่น้อยกว่า 30 คน ปูนปั้นที่ใช้ในงานนี้เป็นปูนปั้นที่ทำมาจากหินฟูลออไรท์ จึงมีสีขาวต่างจากปูนซีเมนต์ ช่างจะปั้นเป็นดอกเป็นลายที่ละดอก ไม่ได้ทำเป็นแบบหล่อขึ้นมา แต่ละส่วนจึงมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน

จากชั้นหนึ่งขึ้นบันไดเวียนไปถึงบริเวณห้องท้องช้าง ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของอาคารเป็นห้องแสดงศิลปวัตถุใน ส่วนนี้จะมีเหล็กที่ก่อสร้างขึ้นมาเป็นคาน เพื่อแบกรับน้ำหนักของโครงสร้างส่วนบนทั้งหมดพาดไปมา คานส่วนนี้ทำขึ้นเพื่อรับน้ำหนักส่วนที่เป็นหัวช้างทั้ง 3 หัว ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 100 ตัน

ส่วนของเพดานนั้นใช้กระจกสีออกแบบเป็นรูปแผนที่โลก ช่างชาวเยอรมันกำลังทำงานส่วนนี้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยจะเหมือนหลังคาโลก ส่วนวัสดุที่นำมาทำผิวช้าง ผู้รับผิดชอบโครงการเลือกใช้ทองแดงบริสุทธิ์ เมื่อเวลาผ่านไปจะมีสนิมสีเขียวจับ ทำให้ผิวช้างมีลวดลายและเป็นวัสดุที่คงทนอยู่ได้นาน

วิธีเคาะขึ้นรูปนี้ คุณรักชาติ ศรีจันทร์เคน ได้คิดค้นวิธีทำขึ้นมาเอง เป็นรูปปฏิมากรรมลอยตัว วิธีใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงกล่าวได้ว่า เป็นงานปฏิมากรรมลอยตัวด้วยวิธีเคาะด้วยมือเป็นแห่งแรก ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ถ้าคุณได้มีโอกาสมาจากแยกบางนาเข้ามาตามถนนสุขุมวิทสายเก่า เลยแยกบางพลี พระประแดงมาไม่ไกล ด้านซ้ายมือ พอพ้นโค้งถนนมาจะเห็นช้างสามเศียรโด่ดเด่นเป็นสง่า จนคุณอดที่จะมองเหลียวหลังไม่ได้อีกทั้งยังเกิดจากความคิดและสรรค์สร้างของคนไทย ลองหาโอกาสไปชมดูน่ะค่ะ รับรองคุณต้องทึ่งแน่ๆค่ะ เปิดให้เข้าชมทุกวัน

ถ้าซื้อบัตรเข้า 50 บาทจะด้ายชมแต่รอบนอกๆๆนะคร้า แต่บัวไปบัวซื้อ 150 บาท ค่ะ เลย เข้าไปข้างในด้วย.. ขอบอกสวยมากๆๆๆ

อันนี้ถ่ายจากทางเข้านะคร้า..




อันนี้ถ่ายจากประตูที่บัวกำลังจะเดินเข้าไปข้างในค่ะ


พอเข้ามาเราก้อจะเจอชั้น Hall หรือ Human World ค่ะ สวยดี




เราจะเจอรูปปั้นที่ทำด้วยเครื่องเซรามิกค่ะ เป็นพวกถ้วยช้อน..เค้าจะนำมาประดับแล้วก้อสร้างกัน.. ลองสังเกตดูนะคะ



พอชมเสร็จบัวจะขึ้นไปข้างบนโดยบันไดเงินค่ะ




อันนี้จะเป็นเพดานแผนที่โลกค่ะ



บัวจบจากชั้นเมื่อกี้นี้บัวจะขึ้นบันไดค่ะ ถ้าใครไม่อยากเหนื่อยก้อมีลิฟท์บริการ แต่บัวชอบมันส์ๆๆ
ภาพที่ถ่ายเป็นบันไดวนๆๆที่ทำขึ้นจากขาหลังของช้างบัวถ่ายไม่ถนัดเลยด้ายมาแบบที่เห็นค่ะ



อันนี้รูปภาพี่ถ่ายตอนขึ้นบันไดไปชั้นสวรรค์เป็นเพดานดอกไม้ค่ะ สวยมาก




พอขึ้นมาจะเห็นเพดานชั้นสวรรค์แล้วก้อองค์พระค่ะ ชั้นนี้จะเย็นมากๆๆ น่านอนมากค่ะ...



หลังจากกราบพระเสร็จก้อด้ายเวลากลับ..บัวก้อลงทางเดิมคือลงบันได ที่นี้จะลงอีกฝั่งเป็นบันไดทองค่ะ


พอออกมาจากข้างนอกเราจะเห็นกิจกรรมต่างๆๆที่เด็กเล่นให้ชมค่ะ เรามาดูแล้วก้อเดินชมรอบๆๆกันค่ะ






















อันนี้จะเป็นเหรียญที่ใช้ซื้ออาหารที่พิพิธพันฑ์ค่ะเป็นพดด้วง


มาดูรอบๆๆช้างสามเศียรอีกรอบค่ะ






เพื่อนๆพี่คนไหนถ้าจะไปก้อง่ายค่ะแค่นั่งรถเมย์ไป...
Getting to The Erawan Museum
Bus: No.23,25,,142,365
Air-bus: No.102,507,508,511,536
Open Everyday
8.00 a.m. - 17.00 p.m.
Admissions
Adult Baht 150.-
Children Baht 50.-

Telephone:0-2371-3135-6




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2552
0 comments
Last Update : 2 มิถุนายน 2552 21:42:42 น.
Counter : 1189 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

BuaHollweg
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add BuaHollweg's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com