หนังก่อนนอน #2
ตอนนี้ก็ยังอยู่ในโหมดผลาญพลังงานชีวิตโดยการนั่งดูซีรี่ย์ตอนดึก+หนังแผ่นคั่นเวลา ไม่ได้เปิดทีวีดูรายการปกติเลย พักนี้เป็นโรคกลัวรายการข่าวไปแล้ว หนีได้เป็นหนี หาหนังแฟนตาซีบ้าๆบอๆมาดูดีกว่า ดีต่อสุขภาพจิตกว่ากันเยอะเบื่อเรื่องการเมืองเนอะ (ก่อนที่จะพิมพ์ประโยคนี้ยังคิดนานเลย เพราะเบื่อที่จะกล่าวถึงเรื่องการเมืองมากกก) กับเพื่อนกับฝูงพ่อแม่พี่น้องนี่เลิกพูดเรื่องการเมืองกันแล้ว ไม่งั้นเถียงกันไม่จบไม่สิ้นพอๆ เข้าเรื่องกันดีกว่าTerminator :Sarah Corner Chronicleการดูซีรี่ย์เรื่องนี้สร้างสถิติใหม่ๆอะไรให้ผมเยอะมาก ตัวอย่างเช่น มันเป็นซีรี่ย์ขนาด9ตอน แต่ผมต้องให้เวลาในการดู1สัปดาห์!!(ในขณะที่ผมดู Grey กะ Prison break ที่ยาวกว่าเรื่องนี้2-3เท่าจบภายใน3วัน!!!) ยัง ยังไม่หมดแค่นั้น ระหว่างที่ดูผมต้องโด๊ปกาแฟเป็นระยะๆ (ถ้ามียาบ้าคงกินไปแล้ว) หรือไม่ก็ดูสลับกับหนังโป๊ะเพื่อปลุกอารมณ์ไม่ให้ง่วง !!!ทุกอย่างในเรื่องดูผิดไปหมด ทั้งนักแสดง (ซาร่าห์ที่ผมเคยรู้จักกลายเป็นคุณแม่ยังสาวสวยเช้ง แต่ไม่แกร่งเหมือนก่อน) และตัวบท (เดินเรื่องได้อืดดดดดมาก ฉากแอ็คชั่นง่อยๆก็ไม่ช่วยให้รู้สึกตื่นเต้นได้เลย) ร่ำๆจะกดรีโมทปิดทีวีดื่มวีต้าพรุนสกัดแล้วเข้านอนซะให้มันรู้แล้วรู้รอดสรุป เหมาะสำหรับแฟนเดนตายของไตรภาค terminator เท่านั้น แฟนธรรมดาๆอย่างผม คงต้องบอกลากันตั้งแต่วันนี้ล่ะจ๊ะ ไม่มีแรงจูงใจที่จะหาซีซั่น2มาดูเลยสักนิดเดียวGood Will Huntingผลงานของกัสต์ แวง แซงค์ ที่สามารถเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้(มากกว่าหนังอย่าง the last day หรือ Paranoid park ล่ะนะ)ได้แผ่นโซน1มาซะงั้น ฉะนั้นช่วงไหนที่ตัวละครมันพ่นประโยคกันไฟแล่บ ข้าพเจ้าก็ต้องยอมแพ้ ต้องมาเปิดย้อนหลังเพื่อกด pause แล้วอ่าน subอีกรอบอย่างยอมจำนนต่อความง่อยของตัวเองดูจบชอบหนังเรื่องนี้มากในระดับหนึ่ง แต่ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือในส่วนของความสัมพันธ์ของวิลล์(พระเอก)กับกลุ่มเพื่อนๆ รู้สึกว่าหนังทำได้พอดิบพอดี เชื่อว่าเพื่อนกลุ่มนี้รักและห่วงไยกันจริงโดยไม่ต้องมีคำพูดซึ้งๆ หรือฉากที่ประดิดประดอยอะไรมากมาย (แต่ถึงขนาดซื้อรถให้เนี่ย ประเสริฐเกินไปแล้ว 555+) เบน อัฟเฟล๊ค กับ แม็ท เดม่อนสมควรได้รับคำชม ยังไงว่างๆก็ชวนกันเขียนบทหนังอีกนะ Cannibal Holocaustปกติเป็นคนขวัญอ่อน หนังโหดๆอย่าง Saw นี่ก็ดูไม่ครบทุกภาคเพราะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่สนุกกับการนั่งดูอะไรแบบนี้บนจอแต่กับเรื่องนี้ กลับดูได้อย่างไม่มีปัญหาเพราะรู้สึกว่าหนังมันขำมาก!!! ยิ่งฉากที่บรรดาคนป่าทั้งหลายตัดผมหน้าม้าวิ่งไปวิ่งมา(มีภาพสโลว์ด้วยนะ)เหมือนกำลังดูการแสดงรอบกองไฟเวลาเข้าค่ายลูกเสือยังไงยังงั้น ฉากกินคนนี่ยิ่งแล้วใหญ่ หลุดโลกจนตลกไปเลยมีแหวะไปบ้างสองสามฉากคือฉากฆ่าสัตว์ นอกนั้นก็น่าเบื่อ ต้องกด fw เป็นระยะๆ คาดว่าหนังมันเก่าด้วยแหละ ดูในยุคนั้นอาจจะกลัวก็ได้(มีกระทู้นึงในพันทิป ถามว่าเรื่องราวในหนังเป็นเรื่องจริงรึเปล่า...คิดได้ไงเนี่ย )Heatหนังชาติที่แล้วแต่เพิ่งหยิบขึ้นมาดู ความรู้สึกแรกคือ ยาวมากกกกกกกกกกกกกทั้งที่สามารถตัดบางส่วนทิ้งเพื่อให้หนังสั้นกว่านี้ได้ แต่ก็รู้สึกดีกับการได้เจอบรรดาลุงๆอย่าง อัล ปาชิโน่ กะ โรเบิร์ต เดอ นีโน สมัยยังหน้าตึง(กว่าปัจจุบัน)รู้สึกเฉยๆกับตัวหนัง (ว่าแต่เรื่องนี้มันเคยดังมาก่อนหนิ) คิดว่าจะหักเหลี่ยมเฉือนคมกันมันส์กว่านี้ แต่ชอบกว่า Miami vice เยอะเลย (เรื่องนี้ เกือบหลับคาจอ) ดูจบมีเรื่องสงสัย2อย่าง คือ วาล คิลเมอร์ หายไปไหนซะแล้ว (ล่าสุดที่ได้ดูหนังของพี่แกก็ Kiss Kiss Bang Bang) กะ สงสัยว่านาตาลี พอร์ตแมนกินรกเด็กเป็นอาหารรึไง หน้าเหมือนเดิมเป๊ะๆ Batman & Robin...ใครอยากดูหนัง gay-super heroes เชิญหยิบเรื่องนี้มาทัศนาได้เลย ทุกสิ่งที่คุณคาดหวังอยู่ในหนังเรื่องนี้แล้ว...ฮีโร่ในชุดยางรัดรูปติดหัวนมวิ่งไปวิ่งมานัวเนียกับฮีโร่อีกคน (แน่นอน...ชุดรัดรูปและติดหัวนมเช่นกัน -_-") โดยมีผู้หญิงเป็นตัวประกอบฉาก อีกทั้งมุมกล้องในเรื่องก็ขยันซูมเข้าซูมออกบริเวณเป้ากางเกงและบั้นท้ายซะเหลือเกิน ปล.1 หนังไม่สามารถนับญาตกับ the dark knight ได้เลย ไม่ว่าจะมองจากกรณีใดก็ตามปล.2 อายแทนจอร์จ คลูนี่ย์จริงๆ