|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
แด่แม่และพ่อ...ผู้ประเสริฐ กับสิ่งที่..."รัก"...ก็มิอาจเทียบ
แด่แม่และพ่อ...ผู้ประเสริฐ กับสิ่งที่..."รัก"...ก็มิอาจเทียบ โดย...คุณพ่อน้องอินทัช (หนึ่งเสียง หนึ่งมุมมองในการเดินทาง)
"......................................................." จุด จุด จุด ไม่มีคำบรรยายใดๆ ยืนบื้อเป็นหิน คือ อาการของผม วินาทีที่เดินขึ้นบันไดสู่ชั้นสองของบ้านเอื้ออาทรหลังเล็กๆ ในเมืองที่แสนห่างไกลความเจริญอย่างจังหวัดน่าน
ภาพเบื้องหน้าคือ เด็กๆ ทั้ง 3 คน ที่หน้าตาน่ารัก ผิวขาว ดวงตากลมโต จัดได้ว่าเป็นเด็กหน้าตาดี หยิบส่วนผสมดีๆ ของพ่อแม่มาทั้งหมด เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เด็กทั้ง 3 แตกต่างกับเด็กคนอื่นๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ในระแวกนั้นคือ พวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสคำว่า "เดิน "นั่ง" "กิน" หรือแม้แต่ "รู้จักตนเอง" อีกแล้ว เพราะเด็กๆ ทั้งสามเป็นโรคที่เรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือ โรคสมองฝ่อ ขนาดสมองเล็กลง แทนที่จะขยายใหญ่ขึ้นตามการเจริญเติบโตของวัย
เมื่อสมองฝ่อลง สิ่งที่เกิดคือ ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ขยับแขนขาไม่ได้ พูดไม่ได้ จนสุดท้าย ดูแลตัวเองไม่ได้
หลังตั้งสติได้ ก็ได้พูดคุยกับคุณพ่อธนกฤต ผู้ซื่งทำใจได้และต่อสู้ พยายามเลี้ยงดูน้องๆ ที่ป่วยเป็นโรคนี้มานานกว่า 5 ปีเต็มๆ คุณพ่อธนกฤต เดิมเป็นดีเจเสียงสุดหล่อ อยู่ที่สถานีวิทยุประจำจังหวัดน่าน คุณแม่ก็พบรักกับคุณพ่อ ก็ด้วยการโทรไปขอเพลงบ่อยๆ จนตกหลุมรักกัน แต่งงานกัน ใช้ชีวิตอย่างหนุ่มสาวคู่อื่นๆ ที่เมื่อพร้อมก็มีน้องๆ สร้างครอบครัวให้สมบูรณ์
แต่แล้วไม่รู้ว่าโชคชะตากลั่นแกล้ง หรือบุญกรรมที่ทำมา จู่ๆ วันหนึ่งสองสาวฝาแฝดผู้พี่ก็เกิดไม่สามารถควบคุมแขนขาได้ กลายเป็นคนป่วย แล้วไม่นานเพียงแค่วันสองวันต่อมา ฝาแฝดอีกคนก็ป่วยด้วยอาการเดียวกันตามกันติดๆ
ระยะแรก คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า ก็ทำใจไม่ได้ พยายามไปหาทางรักษาทุกแห่ง ไกลแค่ไหนก็ไป แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ระหว่างที่หาทางรักษาสองแฝดอยู่ไม่นาน เพียงไม่กี่เดือน ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด น้องชายคนสุดท้อง ก็มีอาการเดียวกันป่วยตามพี่ๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุ
ภาระในการดูแลลูกๆ ที่ป่วย ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ทำให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่ทุ่มเทเวลาดูแลเอาใจใส่ จนที่สุดคุณพ่อก็ตัดสินใจออกจากการเป็นดีเจ เพื่อจะได้มีเวลาเลี้ยงดูน้องๆ ให้นานที่สุด ด้วยความหวังที่ว่าน้องๆ จะหายเป็นปกติ
โชคดีที่คุณพ่อเคยเล่นเว็บรักลูกสมัยทำงานเป็นดีเจ เพื่อนๆ ในเว็บ "รักลูกแฟมิลี่" ช่วยกันบริจาคเงิน บริจาคสิ่งของช่วยเหลือ และที่สำคัญยังให้ความรู้ แนะแนวอาชีพทำไข่เค็มขาย เป็นอาชีพด้วย หลังออกจากงานคุณพ่อจึงทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการทำไข่เค็มขาย แต่ที่สุดด้วยปัญหาไข้หวัดนก และสภาพเศรษฐกิจ ไข่เค็มก็ขายไม่ออก จนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
คุณพ่อธนกฤตจึงตัดสินใจเปิดร้านขายของชำ ไปกู้หนี้ยืมสินเขามา เอาของเขามาขายก่อน ขายได้ค่อยจ่าย จนเริ่มมีรายได้ขึ้นมาบ้าง
ที่เล่าทั้งหมดคือ อดีตที่ผ่านมาและความเป็นไป ทำไม "รักลูก" ถึงได้รู้จักครอบครัวนี้ และทำไม "Momypedia" ถึงเลือกให้ตั้งเป็นกระทู้แนะนำ
ในฐานะเจ้าของเว็บ ผู้ใช้บริการก็เปรียบเสมือนลูกบ้านที่เราต้องดูแล คุณพ่อธนกฤตก็เป็นลูกบ้านคนหนึ่งของเว็บรักลูก การที่เพื่อนๆ ในเว็บต่างช่วยเหลือซึ้งกันและกันนั้น เป็นการแสดงออกถึงพลังเครือข่ายชุมชนออนไลน์ที่เข้มแข็ง และให้ประโยชน์ สร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ขึ้น
และแน่นอนว่า เราคงไม่สามารถใจบุญ ทำบุญให้กับผู้ที่โชคร้ายหรือตกที่นั่งลำบากได้ทุกคน แต่กรณีของคุณพ่อธนกฤตที่เราต้องยกเป็นประเด็นขึ้นมา เพราะ "หัวใจ" ที่เข้มแข็ง และการมองโลกที่แตกต่าง สิ่งนี้ต่างหากที่น่าจะเป็นพลังใจ ที่จะหยิบยื่นให้ครอบครัวอื่นๆ ที่พร้อมสมบูรณ์แบบ
ใครที่เคยบ่นว่า เลี้ยงลูกเหนื่อย ใครที่เคยท้อหรือดุด่าลูก เวลาลูกทำชามข้าวหก เวลาที่เขาไปเล่นของสกปรก สำหรับผม คุณยังโชคดี ที่มีลูกให้ต่อว่า ยังโชคดีที่มีลูกให้เหนื่อยวิ่งตาม คุณยังโชคดีที่คิดว่า "ตัวเองเหนื่อยกับการเลี้ยงลูก"
แต่สำหรับคุณพ่อธนกฤตและคุณแม่จอย ลูกคือ สิ่งที่ฟ้าประทานให้ ลูกคือดวงใจของพ่อแม่ วันนี้เขาทั้งสองหากเลือกได้ ผมว่าเขาคงเลือกที่จะอยากจะเหนื่อยกับการดุด่าว่าลูก บ่นเวลาลูกทำชามข้าวหก วิ่งตามเวลาเขาจะไปเล่นของสกปรก หรือนั่งห่วงเวลาลูกออกไปเล่นจนมืดค่ำ
แต่ความเป็นจริงด้วยหัวใจอันประเสริฐ กับสิ่งที่มากกว่าความรักใด "คุณพ่อธนกฤตและคุณแม่จอย" ก็ไม่เคยเหนื่อยกับ
3 ชั่วโมงในการอาบน้ำลูกๆ ทั้งสาม นานนับชั่วโมงที่ต้องอุ้มลูกในการป้อนข้าวป้อนน้ำ อีกตลอดเวลา ที่ต้องดูแลกล้ามเนื้อไม่ให้ยึด คอยนวด คอยทำกายภาพบำบัด เพื่อไม่ให้มีแผลกดทับ พูดคุยกับลูกๆ เสมอๆ แม้รู้ว่าลูกๆ อาจฟังไม่เข้าใจแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เคยหยุดที่จะพูดคุย
สำหรับผม ภาพที่ผมเห็นน้องๆ ทั้งสามคน ผิวพรรณดี มีน้ำมีนวล เหมือนไม่ใช่ผู้ป่วย เหมือนไม่ใช่คนที่นอนมายาวนานตลอด 5 ปี
เหมือนเด็กๆ ที่พึ่งแค่นอนหลับไป
เห็นแล้ว ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองอีกนับพันครั้งว่า
"วันนี้เราทำหน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่ได้ดีหรือยัง"
Create Date : 11 สิงหาคม 2552 |
|
18 comments |
Last Update : 11 สิงหาคม 2552 15:51:30 น. |
Counter : 2065 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: phaclam 11 สิงหาคม 2552 19:27:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: da IP: 124.120.8.160 11 สิงหาคม 2552 22:06:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: โตโร่ กาโต้ IP: 110.168.13.74 8 มีนาคม 2555 18:16:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: โตโร่ กาโต้ IP: 110.168.13.74 8 มีนาคม 2555 18:18:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฝุ่น IP: 101.108.173.195 21 กุมภาพันธ์ 2556 17:54:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ปัจจุบันทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง
สำหรับบล็อกนี้ เขียนขึ้นเพื่อเป็นบันทึกเรื่องราวชีวิตของน้องอินทัชไว้จดจำ และเป็นข้อมูลสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ให้ได้อ่านกันสนุกๆ ด้วยนะครับ
|
|
|
|
|
|
|
ไม่เห็นน้องอินทัชนานแล้ว ส่งหน้าหล่อๆมาอวดป้าโรสบ้างนะคะ