นักเตะที่เปลี่ยนโฉมหน้าเกม ยิงประตูให้ทีมชาติบราซิลคว้าเหรียญทองที่สองในประวัติศาสตร์โอลิมปิก

มัลคอล์มใช้เวลา 90 นาทีในการรอคอยโอกาส เมื่ออังเดร จาร์ดีนโทรหาเขา เมื่อสิ้นสุดเวลาการแข่งขัน กองหน้ารายนี้ไม่ต้องสงสัยเลย ตรงหน้าเขาคือโอกาสที่จะเข้าสู่ประวัติศาสตร์ของทีมชาติบราซิล ในช่วงต่อเวลา แมตช์เสมอกันที่ 1-1 กองหน้าได้ประตูจากแอนโทนี มันไม่ใช่การจ่ายบอลง่ายๆ แต่เขาเชื่อและชนะในการแข่งขันของ Vallejo นำหน้าและถอดออกจากผู้รักษาประตู เพื่อทำตาข่าย เหรียญทองโอลิมปิกที่สองในบราซิลเกิดที่นั่น ที่ขาซ้ายของมัลคอล์ม

“เรารู้ว่ามันจะเป็นเกมที่ถูกตัดทอนตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เรารู้ว่าคุณภาพของเราและใครก็ตามที่มีม้านั่งจะเข้ามาและสร้างความแตกต่าง วันนี้ฉันสวมมงกุฎ แต่อาจเป็นอีกเกมหนึ่ง คุณสามารถมาได้ เรามีวิธีการทำงานและเราได้รับเหรียญทองนี้” มัลคอล์มผู้เจียมเนื้อเจียมตัวกล่าวหลังชื่อเรื่อง

พื้นฐานในชัยชนะ 2-1 ที่รับรองชัยชนะของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว Malcolm ไม่สามารถอยู่ในกลุ่มทีมชาติบราซิลได้ เขาเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ในรายชื่อ เบื้องต้น เซนิตยังไม่ปล่อยตัวผู้โจมตี แต่ด้วยอาการบาดเจ็บของ ดักลาส ออกุสโต เขามองเห็นโอกาสที่จะแสดงความปรารถนาต่อสโมสรและขอให้ปล่อยตัว เขารู้เพียงเล็กน้อยว่าสิ่งนี้จะชี้ขาดให้เขาเขียนชื่อของเขาในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

ประตูของมัลคอล์มในรอบชิงชนะเลิศกับสเปนเป็นประตูเดียวของเขาในการแข่งขันทั้งหมด กองหน้าไม่ได้เริ่มเกมใดๆ แต่เขาเป็นพื้นฐาน เป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักของโค้ช Andre Jardine ตลอดการแข่งขัน ในเกมกับสเปน เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่ลงสนามในช่วงเริ่มต้นช่วงต่อเวลา และทำทุกอย่างเพื่อฉวยโอกาส

“เรารู้ถึงความยากของสเปน ความสามารถของพวกเขา พวกเขานิ่งมาก และการเล่นโดยไม่มีบอลเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะกับพวกเขา ซึ่งมีคุณภาพในแนวรุก เพรสเร็ว” เขาวิเคราะห์ก่อนพูดถึงความรู้สึกต่อหน้าที่ สำเร็จหลังจากทองคำ:

“มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร อย่างแรก ขอบคุณทุกคนสำหรับความพยายาม ที่ยืนกรานในตัวฉัน สิ่งเดียวที่ฉันมีคือขอบคุณทุกการสนับสนุน ครอบครัวของเรา ดูเราจากบราซิล ให้กำลังใจเรา สนับสนุนเรา ถึงชาวบราซิลทุกคน ... เราสมควรได้รับมัน".

วันเสาร์ (7) บราซิลเอาชนะสเปน 2-1 โดยมีเป้าหมายจากมาเตอุสกูนยาและมัลคอม และได้รับเหรียญทองฟุตบอลชายในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว 2020 ซึ่งเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์


ข้อมูลจาก https://www.cbf.com.br/