ภาวะสมาธิสั้น หรือ เด็กไฮเปอร์

สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่กำลังมีปัญหาและสงสัยว่าลูกตัวเองนั้นจะเป็นเด็กมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสมาธิหรือเปล่า หรือที่เรียกกันว่า เป็นเด็กสมาธิสั้น นั้นวันที่เรามีความรู้เกี่ยวกับโรคนี่มาฝาก และแนะนำแนวทางการรักษาเกี่ยวกับโรคเด็กสมาธิสั้นนี่มาฝาก เราไปทำความรู้จักเกี่ยวกับโรคนี้กันเลยดีกว่าค่ะ

เด็กสมาธิสั้น หรือที่เรียกอีกอย่างที่คุ้นกันว่า เด็กไปเปอร์ มาจากชื่อย่อภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการว่า Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHA) เด็กเหล่านี้จะมีลักษณะที่สังเกตุได้ง่ายคือ

1.มีภาวะสามาธิสั้น – ทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายไม่เสร็จเพราะจะใจจดใจจ่ออยู่กับสิ่งอื่น วอกแวก ไม่มีสมาธิ ชอบเหม่อลอย ขี้ลืม

2.ซนมากและอยู่ไม่นิ่ง – เป็นอาการที่ไม่ชอบอยู่กับที่ ยุกยิก แกะเกา ชอบปีนป่าย

3. ไม่มีความอดทน – เป็นอาการที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่มีความอนทนรอต่อสิ่งต่างๆ อยากได้สิ่งใดต้องได้เดี๋ยวนั้น เวลานั้น

เทคนิคที่ใช้ในการสื่อสารกับเด็กสมาธิสั้น

ถ้าหากพ่อแม่คุณครูสื่อสารกับเด็กสมาธิสั้นได้ถูกวิธีก็จะสามารถช่วยลดภาวะสมาธิสั้นในเด็กได้มาก และวิธีการปรับปลี่ยนเพื่อรับภาวะสมาธิสั้นในเด็กนั้นสามารถทำได้ดังนี้ คือ สังเกตุว่าเด็กมีสมาธิพร้อมที่จะทำกิจกรรมหรือไม่ พยายามสื่อสารโดยการที่ใช้คำพูดที่คมชัด ได้ใจความและสบตาเด็กบ่อยๆ หรือ การเรียกความสนใจเด็กกลับมาด้วยการให้รางวัลเป็นของตอบแทนเมื่อทำกิจกรรมสำเร็จเป็นต้น

และอีกส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือท่านผู้ปกครองที่มีบุตรหลายอยู่ในภาวะสมาธิสั้นคือ การเพิ่มเติมรายละเอียดกับทางโรงเรียนโดยปกติดแล้วเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนทั่วๆไปได้แต่ถ้าหากจะให้ดีและเป็นการเสริมพัฒนาการของเด็กที่ได้มากกว่าการทำให้เด็กหลุดพ้นจากภาวะสมาธิสั้น คือจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ทำอย่าไงให้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้โดยไม่มีภาวะสมาธิสั้น ได้เพื่อนใหม่ๆ ได้ทำกิจกรรมต่างๆที่นอกเหนือจากการเรียนการสอนแบบภายในห้องเรียนอย่างเดียว

และสำหรับท่านผู้ปกคครองท่านใดที่ต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและต้องการให้บุตรหลานได้รับการฝึกและการพัฒนาทางด้านสมองอย่างจริงจังนั้นสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สถาบัน BrainFit Studio ที่นี้เป็นสถาบันที่นำหลักการในด้านกลไกของสมองมาฝึกเด็กๆ โดยเด็กๆจะได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนาสมอง และฝึกสมองต่างๆ ทำให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น ทำให้เด็กจดจ่อกับการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้นานมากยิ่งขึ้น และนอกจากเด็กจะมีสมาธิมากขึ้นแล้วนั้น เด็กยังจะได้รับการพัฒนาสมองทำให้กลายเป็นเด็กที่มีความฉลาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการคำนวณ ภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั้งลายมือก็จะเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น

ถ้าหากท่านผู้ปกครองท่านใดสนใจสามารถรับคำแนะนำปรึกษาได้ฟรีที่ สถาบัน BrainFit Studio หรือเข้าชมเว็บไซต์ www.adbkk.com เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

Create Date : 24 กันยายน 2555		0 comments
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2556 13:30:43 น.
Counter : 2056 Pageviews.
Share Tweet