“นศ.ไทยเปิดใจ...ไทยแลนด์ 4.0” ในงานมอบประกาศนียบัตร DELTA Automation Academy


หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่เป็นพลังขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทยและโลกเยาวชนนักศึกษาจาก 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 220 คน คนที่ผ่านหลักสูตร Industrial Automation ได้มาร่วมงานมอบประกาศนียบัตร “DELTA Automation Academy 2017” พร้อมทั้งเปิดเวทีความคิดของนักศึกษาจาก 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเรื่อง "นักศึกษาไทยเปิดใจ...ไทยแลนด์ 4.0" (Empowering the nextgeneration for Thailand 4.0) เกี่ยวกับบทบาทคนรุ่นใหม่กับการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและยั่งยืนสู่ไทยแลนด์4.0 จัดโดย บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) และ 5 มหาวิทยาลัยของไทย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นเจ้าบ้านต้อนรับปีนี้ในงานมีนิทรรศการ DELTA และไทยแลนด์ 4.0 พร้อมกิจกรรมแข่งขัน10สุดยอดไอเดีย Automation สู่ Thailand 4.0



มร.เซียเชน เยน ประธานบริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย) หรือ "DELTA" กล่าวว่าในกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีใหม่ๆซึ่งมุ่งเน้นคุณภาพประหยัดพลังงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นต้องการประสิทธิภาพและลดการปล่อยคาร์บอนเรากำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่สู่Industry 4.0 และไทยแลนด์ 4.0 โดยทุกคนทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นรอดพ้นจากผลกระทบภาวะโลกร้อนดังนั้นการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจและใช้องค์ความรู้ต่างๆในการแก้ปัญหาโดยให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมให้เติบโตอย่างมีดุลยภาพกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญบริษัทฯ มีนโยบายที่จะช่วยเหลือสังคมและส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาบุคลากรคนรุ่นใหม่และผู้เชี่ยวชาญที่จะสำเร็จการศึกษาออกไปร่วมพัฒนาประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน


ดร.อนุสรณ์ มุทราอิศ (Dr.Anusorn Muttaraid) กรรมการบริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ "DELTA"กล่าวว่า เนื่องจากโลกและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าสู่Industry 4.0  ในด้านนักศึกษายุค4.0 ต้องฝึกฝนตนเอง มีความอุตสาหะ อดทน รักการเรียนรู้มีคุณธรรม สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ มีทักษะในศตวรรษที่ 21 โครงการDeltaAutomation Academy ได้ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการศึกษาของมหาวิทยาลัยและพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้เทคโนโลยีออโตเมชั่นทั้งวิชาการและฝึกปฏิบัติจริงควบคู่ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นผู้นำ และการทำงานเป็นทีม ผสมผสานศาสตร์ต่างๆเพื่อประยุกต์ใช้และต่อยอดนวัตกรรม เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ในอนาคต


คณะอาจารย์จาก  5 มหาวิทยาลัย ได้แก่ รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.), ดร.สุรัฐ ขวัญเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,รศ.ณัฐวุฒิ ขวัญแก้ว รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ดร.สุภชัย วงศ์บุณย์ยง ผช.ผอ.ฝ่ายวิจัยและกิจการต่างประเทศม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.), ดร.นภดล วิวัชรโกเศศ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.),  ได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จของนักศึกษาในการเข้าสัมมนาอบรมหลักสูตร IndustrialAutomation จาก DELTAAutomation Academy ซึ่งจัดโดย บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) เพื่อรวมพลังประชารัฐและภาคการศึกษา เตรียมพร้อมนักศึกษาทั้ง 5 สถาบันซึ่งเป็นเสาหลักด้านการวิจัยและพัฒนาขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 ทั้งการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม และต่อเติมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หัวใจของความสำเร็จไทยแลนด์ 4.0 คือการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่และทุกภาคส่วน ที่จะทำให้ไทยแลนด์ 4.0 เป็นจริง  


บนเวทีความคิดของนักศึกษาจาก 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เรื่อง "นักศึกษาไทยเปิดใจ...ไทยแลนด์4.0" (Empowering the next generation to Thailand 4.0) เกี่ยวกับบทบาทคนรุ่นใหม่กับการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและยั่งยืนสู่ไทยแลนด์4.0  โดยมี 5 หนุ่มสาวตัวแทนดังนี้

นายกรวิชญ์ สังข์แก้ว นักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวว่า เป้าหมาย Thailand4.0 ซึ่งมุ่งพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรมและองค์ความรู้นับเป็นสิ่งที่ท้าทายคนไทยทุกคนและต้องพร้อมใจกันลงมือทำตั้งแต่วันนี้ นักศึกษายุคใหม่ไม่เพียงแต่มีความรู้ในสาขาวิชาที่เรียนอย่างเดียวแต่ควรเรียนรู้พหุศาสตร์อื่นๆเพื่อเชื่อมโยงและดึงมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นเขียนโปรแกรมซึ่งสำคัญมากในยุค Industry 4.0 รวมทั้งความรอบรู้ทางด้านบัญชีการตลาด นิเทศศาสตร์ ในยุค Thailand4.0 ผมอยากเห็นโครงข่ายของระบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะในอนาคตนั้นความต้องการของพลังงานไฟฟ้านั้นจะมีสูงอย่างแน่นอนรถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นบ้านทุกบ้านจะต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเราควรพัฒนาโครงข่ายระบบไฟฟ้าที่มั่นคงและเพียงพอต่อความต้องการของไฟฟ้าในอนาคตครับ

นางสาวสุวิมล เหรียญตระกูลชัย นักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกล่าวว่า รู้สึกดีใจค่ะที่ได้เห็นความร่วมมือของภาคประชารัฐและภาคการศึกษาในวันนี้ดังเช่น 5 มหาวิทยาลัยและเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ร่วมมือสนับสนุนกับในยุคที่เรามุ่งจะก้าวไกลไทยแลนด์ 4.0 อยากจะเห็นการพัฒนาความร่วมมือกันของภาครัฐเอกชนและสถาบันการศึกษาที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและต่อเนื่องไม่ใช่ทำๆแล้วหยุดหรือแล้วแต่นโยบายรัฐบาลแต่ละชุด ในทุกๆปีจะมีงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ดีๆมากมายที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยนักศึกษาไทยแต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สิ่งเหล่านั้นกลับกลายเป็นแค่กระดาษส่งอาจารย์ซึ่งถ้างานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนหรืออุปกรณ์ หรือโอกาสในการนำแสดงผลงานสู่สาธารณชนแล้ว คนไทยก็จะได้ประจักษ์ว่า "คนไทยเองก็สามารถทำสิ่งที่ต่างชาติทำได้เหมือนกันและบางเรื่องก็ทำได้ดีกว่า"คนไทยก็จะได้ภูมิใจในคนไทยและความเป็นไทย นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีของเราเองลดการนำเข้าและซื้อเทคโนโลยีต่างประเทศอย่างที่คณะวิศวลาดกระบังได้พัฒนาจัดงานนิทรรศการใหญ่ปีละ 2 ครั้งคือ Creativity and Innovation Day ของนักศึกษา อีกงานคือ Engineering Expoเดือนพย.เชิญองค์กรและภาคเอกชนร่วมชมผลงานสานความร่วมมือ

นายพีรวัส เริงฤทธิ์รณชัย หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีกล่าวว่า การจะพัฒนาสู่ Thailand 4.0 ต้องเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก สิ่งที่นักศึกษารุ่นเราจำเป็นต้องมี knowledge andskills หมั่นหาความรู้และทักษะการทำงาน, Life longlearning ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง, Integrativethinking รู้จักคิดแบบผสมผสานนำความรู้ที่มีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ และ SocialResponse สนใจความเป็นไปในสังคมและนำความรู้ที่มีไปตอบสนองความต้องการของสังคมได้ในอนาคตผมอยากจะเข้าไปทำงานในบริษัทหรือโรงงานซึ่งจะช่วยพัฒนาเราทั้งในด้านของทักษะ และประสบการณ์ผมจึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ได้สนับสนุนการให้โอกาสนักเรียนนักศึกษาคนรุ่นใหม่ได้เข้าไปฝึกฝนและทำงานร่วมด้วยทุกองค์กรต้องผสมผสานประสบการณ์ความรู้ความสามารถของคนรุ่นก่อนและความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ด้วยจะช่วยให้อนาคตประเทศของเราพัฒนาไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

นางสาวกรชนก เชาวรัตน์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวว่า ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆระบบอัตโนมัติหุ่นยนต์ ดิจิตอล กระบวนการผลิต จะทำงานร่วมกันช่วยให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว คุณภาพและประสิทธิภาพในการดำรงชีวิตของมนุษย์การใช้ระบบหุ่นยนต์ในการทำงานนั้นจะเป็นอีกก้าวของการพัฒนาระบบการทำงานจากรูปแบบเดิมๆไปอีกขั้นหนึ่ง เช่นระบบอาคารจอดรถยนต์อัตโนมัติเป็นตัวอย่างที่เห็นชัดในการประยุกต์องค์ความรู้ข้างต้นให้เกิดประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน การเป็นนักศึกษายุคดิจิตอลมีข้อดีคือ ความรู้ของเรายังคงสดใหม่เมื่อบวกกับมุมคิดของคนรุ่นใหม่ซึ่งมักจะมีทักษะด้านดิจิตอลเป็นพื้นฐาน กล้าคิดกล้าทำ มีไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเมื่อเรานำความรู้เชิงวิศวกรรมและความคิดสร้างสรรค์สองสิ่งนี้มารวมกันจะกลายเป็นเส้นทางที่เราจะคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆออกมา เป็นพลังขับเคลื่อนของประเทศได้ค่ะ

นางสาวปัฐวิศา ตั้งตรัสธรรมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่และนิสิตวิศวกรรมศาสตร์ เราเรียนรู้สู่ยุค Thailand4.0 ในเชิงที่ว่า พัฒนาตนเองให้ก้าวทันเทคโนโลยีนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้วิจัยและสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ออกมาโดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์แก้ปัญหาได้จริงในปัจจุบันและตอบโจทย์อนาคต มีความคิดว่าในอนาคตอยากทำสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถช่วยเหลือมนุษย์ในสิ่งที่ทำไม่ได้เช่น สร้างหุ่นยนต์มาช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวัน สิ่งที่สนใจในตอนนี้เป็นพิเศษก็คือ RFEnergy Harvesting คือการนำ Wifi มาทำให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งกำลังศึกษาและอยากจะพัฒนาต่อยอดไปในอนาคตค่ะ





Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2560 17:25:01 น.
Counter : 1211 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sky of Thailand
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กุมภาพันธ์ 2560

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
24
25
26
28
 
 
All Blog