|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ความถี่ของคาบในการฝึก Workout Frequency
เมื่อกล้ามเนื้อส่วนใดผ่านการฝึกหนักมาแล้ว กล้ามเนื้อส่วนนั้นต้องได้รับการพักฟื้นเป็นเวลาประมาณ 48 ถึง 96 ชั่วโมง ก่อนที่จะถูกใช้งานอย่างหนักในครั้งต่อไป ช่วงว่างเว้นจากการฝึกดังกล่าวคือ การปล่อยโอกาสให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างเพียงพอ จนกระทั่งกล้ามเนื้อมีมวลเพิ่มขึ้นและมีความแข็งแรงมากขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผู้ฝึกเพาะกายหน้าใหม่จึงต้องฝึกสัปดาห์ละ 3 คาบ โดยหลักสากลคือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ส่วนวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นวันที่คนทั่วไปหยุดพักผ่อน เป็นวันว่างเว้นจากการฝึก เมื่อผู้ฝึกมีประสบการณ์สูงขึ้น ปริมาณของการฝึกย่อมมีมากขึ้นจากการมีท่าฝึกใหม่ๆเพิ่มขึ้น ดังนั้นถ้าหากจะฝึกให้หมดทั่วร่างกายในหนึ่งคาบจึงต้องใช้เวลานานขึ้น ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้เลย ผู้ฝึกจึงพร้อมสำหรับการฝึกเพาะกายขั้นกลาง ซึ่งการฝึกเพาะกายขั้นกลางนี้ระบบการแบ่งส่วนต่างๆของร่างกายที่มีศัพท์ทางวิชาการว่า Split System ซึ่งหมายความว่า ผู้ฝึกต้องแบ่งสัดส่วนต่างๆในร่างกายออกเป็น 2 กลุ่ม เช่น กลุ่มแรกประกอบไปด้วย อก ไหล่ แขนด้านหน้า และน่อง กลุ่มที่สองประกอบไปด้วย ต้นขา หลัง แขนด้านหลังและท้อง เป็นต้น แล้วฝึกกลุ่มแรกในวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ฝึกกลุ่มที่สองในวันอังคารและวันศุกร์ นอกจากในแต่ละสัปดาห์ผู้ฝึกต้องมีวันหยุดว่างเว้นจากการฝึกเพาะกายแล้ว การพักผ่อนหลับนอนในแต่ละวันก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้ฝึกประสบความก้าวหน้า เพราะการนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของผู้ฝึกทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ฟื้นฟูพลังงานและเสริมสร้างร่างกาย ดังนั้นผู้ฝึกควรพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนโดยเฉลี่ยควรนอนวันละ 8 ชั่วโมง และไม่ควรนอนผิดเวลาหรืออดนอนหลายๆคืน แล้วมาชดเชยการนอนตลอดทั้งวันในวันสุดสัปดาห์
บทความโดย : Por Powerzone The Official //bpmuscle.com/
Create Date : 14 มกราคม 2558 |
Last Update : 14 มกราคม 2558 14:33:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1561 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|