# 67
Healey, E. (2014). Elizabeth is missing. London: Penguin Books.
Maud คือคุณยายที่เป็นอัลไซเมอร์ ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในบ้าน โดยมีลูกสาวและคนรับใช้มาดูแลเรื่อยๆ ประเด็นของเรื่องคือ คุณยาย Maud คิดว่าตนเองมีอะไรบางอย่างที่นึกไม่ออกเกี่ยวกับเพื่อนรักอย่าง Elizabeth เธอได้เบาะแสแต่เพียงกระดาษที่เธอเขียนเตือนความจำไว้ว่า Elizabeth is missing เธอก็เทียวบอกลูกสาวอยู่เรื่อย แต่ลูกสาวก็ไม่นำพา แม้ว่าจะพาแม่มาอยู่ด้วยกันแล้วเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยแล้วก็ตาม
(spoil) หนังสือเล่าโดยใช้การตัดสลับกับชีวิตในวัยสาวของคุณยาย Maud ซึ่งพี่สาวของตนเองก็หายตัวไปเช่นกันหลังจากทะเลาะกับสามีในวันหนึ่ง เรื่องนี้น่ารักตรงที่คุณยาย Maud ในวันชราพยายามสืบเสาะตามหาเพื่อนรักว่าหายตัวไปอย่างไร พยายามไปบ้านก็ไม่พบเพื่อน พบแต่ลูกชายของ Elizabeth โวยวายใส่ ไปแจ้งยังสถานีตำรวจก็ไม่ได้ความ ไปลงหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้เรื่อง สุดท้ายลูกสาวทนเห็นแม่วุ่นวายใจไม่ไหว ก็เลยย้ำให้ฟังอีกครั้งหนึ่งว่า Elizabeth ตายไปแล้ว แต่คุณยาย Maud จำไม่ได้เอง ที่แท้ความจำนั้นสลับกับการที่พี่สาวในวันรุ่นของตนเองหายตัวไป อย่างไรก็ดีในเวลาเดียวกันนั้น ก็พบความปกติที่บ้านของ Elizabeth แม่ลูกปรับความเข้าใจกันก่อนลูกสาวจะเอะใจในคำบอกใบ้ที่ติดค้างอยู่บางส่วนของแม่ จึงขุดสนามหน้าบ้านและพบกับซากศพของพี่สาวของคุณยาย Maud ที่ตายไปในที่สุด
เรื่องเขียนมาได้ที มีพล็อตและประเด็นให้อ่านเพลิน แต่เหมือนยังไม่เนียนพอ เพราะคนเขียนเล่นกับความจำของตัวละคร คือคุณยาย Maud ให้เป็นคนบรรยายเรื่อง ปมที่มาเฉลยทีหลังก็เลยเหมือนการอุ๊บอิ๊บไว้ไม่บอก มากกว่าให้ตัวละครผู้เล่าไปค้นพบในภายหลัง แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี
...
# 68
Bradley, A. (2012). I am half-sick of shadows. New York: Bantam.
Flavia กลับมาอีกครั้งกับวีรกรรมสืบสวนคดีฆาตกรรม คราวนี้เกิดขึ้นที่คฤหาสน์ของตนเอง ด้วยฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวหลังสงครามนั้นลดด้อยถอยลงเรื่อยๆ จึงเป็นสภาพบังคับให้พ่อของ Flavia ต้องอนุญาตให้ใช้คฤหาสน์เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อแลกกับเงินจำนวนมาก ปรากฏว่าดาราหญิงชื่อดังถูกฆาตกรรมในคฤหาสน์ในคืนวันที่มีการจัดละครการกุศลโดยมีการเชิญคนในชุมชนมาชมการแสดงด้วย
ผู้ต้องสงสัยก็คือกลุ่มคนที่มาเข้าชมและกองถ่ายทำภาพยนตร์นั่นเอง ด้วยความชาญฉลาดของ Flavia ในฐานะที่เป็นคนพบศพของเธอเป็นคนแรก ก็จัดการเก็บรายละเอียดการตายนำมาปะติดปะต่อเรื่องราวได้ โดยพยายามไล่เรียงคนที่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นคนงานในกองถ่าย ตัวผู้กำกับที่มาพบภายหลังว่าคือลูกชายของผู้ตายเอง อีกทั้งผู้จัดการกองถ่ายหญิงที่เคยเป็นดารามาก่อนก่อนจะตกอับมารับหน้าที่นี้
ซีรีส์นี้ยังดำเนินเรื่องได้อย่างสนุก พล็อตก็เป็นการสร้างเรื่องหลอกคนอ่านได้ เดาได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่ทำให้ติดใจคือความคิดความอ่านของตัวละครอย่าง Flavia ที่ฉลาดเกินวัยและเจ้าคารมนี่เอง ทำให้ตามอ่านมาจนถึงเล่มที่ 4 นี่แล้ว
...
# 69
Golding, W. (1980). Rites of passage. New York: Farrar, Straus, Giroux.
หนังสือเป็นการเขียนผ่านบันทึกการเดินทางของชายหนุ่มชื่อ Talbot ซึ่งกำลังเดินทางไปยังดินแดนอาณานิคมของอังกฤษแห่งหนึ่งในช่วงท้ายศตวรรษที่ 19 เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นบนเรือ ตัว Talbot นั้นเป็นลูกบุญธรรมของข้าราชการระดับสูง เฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือซึ่งมีกัปตันเป็นใหญ่อย่างไม่ใคร่ชอบใจนัก เขาเรียนรู้จนรู้จักผิดชอบชั่วดี เมื่อเห็นกัปตันเรือหาเรื่องบาทหลวงที่กัปตันเกลียดนักเกลียดหนา ก็พยายามเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จนต้องจบด้วยการตายของบาทหลวงผู้นั้นเอง
หนังสือเล่าผ่านบันทึกของ Talbot ก็จริง แต่บางส่วนก็เป็นการเขียนในรูปของจดหมายของบาทหลวงที่ Talbot ไปค้นเจอหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้คนอ่านได้รู้เหตุการณ์เบื้องลึกเบื้องหลังการเกลียดชังของกัปตันไปด้วยนั่นเอง ถือว่าทำออกมาน่าสนใจ แต่เราไม่ค่อยเข้าใจปริบททางสังคมและความเหลื่อมล้ำทางสังคมสมัยนั้นดีพอจะทำความเข้าใจเนื้อเรื่องได้ ก็เลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่
สังเกตจากอีกเรื่องของคนเขียนที่เคยได้อ่านมาอย่าง Lord of Flies นั้น เป็นการเอาตัวละครไปทิ้งไว้ในกลางเกาะแล้วให้แสดงธาตุแท้ออกมาโดยไม่มีสังคมรอบข้างมาเป็นตัวกำกับ เรื่องนี้เหมือนจับตัวละครมามัดรวมกันที่กลางทะเลบนเรือเช่นกัน เสียแต่เป็นตัวละครที่เป็นวัยผู้ใหญ่แล้ว เรื่องราวก็เลยซับซ้อนมากขึ้นเป็นเท่าตัว