Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
6 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
# 33 :: The Sense of an Ending : Julian Barnes ::







:: The Sense of an Ending : Julian Barnes :: 


เรื่องนี้เข้าใจยากไปนิด ตรงที่อาจจะต้องแก่ถึงขั้นอายุ 60 แล้วถึงจะเข้าใจเนื้อเรื่องที่ตัวเอก (คนเล่าบุรุษที่หนึ่ง) ย้อนนึกถึงความผิดพลาดที่เผลอกระทำไว้กับเพื่อน จนทำให้เพื่อนฆ่าตัวตาย Tony เป็นคนเล่าเรื่องตั้งแต่ชีวิตวัยรุ่น จนถึงภาคสองซึ่งเป็นชีวิตบั้นปลายและพบความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ในนิยายใช้คำว่า remorse 

ในเรื่องเสนอเงื่อนงำตรงที่ Veronica หญิงสาวที่ Tony เคยคบหาอยู่สักพัก แต่พอเลิกกันกลับไปออกเดทกับเพื่อนรักของตนที่ชื่อ Adrian สมัยนั้น Tony โกรธมาก (คงเสียเซลฟ์) เลยเขียนจดหมายจ่าหน้าซองถึงเรื่องรักและหญิง(ชั่ว)คนนั้น ทั้งแช่งชักหักกระดูก และแนะนำให้ไปปรึกษาแม่ของ Veronica ดู ไม่นึกเลยว่า สิ่งนั้นเองเป็นชนวนให้เกิดความเสียใจในตอนท้าย เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ข่าวว่า Adrian ฆ่าตัวตาย พร้อมจดหมายลาตายอย่างนักปรัญชาที่ Adrian เรียนทางนี้อยู่ที่ Cambridge 

ภาคสอง (ตอน Tony 60 แล้ว) เขาได้รับเงินจำนวนหนึ่งจากแม่ของ Veronica ซึ่งเสียชีวิตลง ทนายความส่งจดหมายมาบอกว่า มีไดอะรีของ Adrian จะมอบให้ 

Tony สงสัยนักว่าทำไมไดอะรีของเพื่อนรักถึงไปอยู่ในมือของเธอได้ จึงพยายามตามหาไอดะรีนั้นซึ่งขณะนี้ตกไปอยู่ในมือ Veronica ช่วงเวลานี้เอง เป็นช่วงที่ความเสียใจได้ค่อยๆ หวนกลับมาหาเขา เมื่อต้องพบเจอ Veronica ในวัย 60 อีกครั้ง และพอรู้เรื่องความผิดพลาดของเขาเข้าให้อีก Tony ก็ยิ่ง remorse หนักเข้าไปอีก 

Spoil Veronica พาเขาไปพบชายวัย 40 คนหนึ่งที่พิการทางสมอง ซึ่งมาคนพตอนหลังว่า ชายคนนี้เป็นลูกของ Adrian แต่ไม่ใช่ลูกชายที่เกิดกับ Veronica แต่เป็นลูกชายที่เกิดจาก Andrian กับแม่ของ Veronica ซึ่งเป็นเหตุเป็นผลจากการที่ Tony แนะนำให้ Adrian ไปพบแม่ของ Veronica ใน จม.ระบายความโกรธฉบับนั้น  

เรื่องออกจากงุนงงและเหลือเชื่อเล็กน้อย แต่ก็จบแค่นั้น ตอนที่ Tony ได้รู้ความจริง 

พล็อตเรื่องไม่มีอะไรเท่าไหร่หรอก แต่วิธีการเขียนแบบเอาปรัชญามาพูดผ่านปากตัวละครนี่เองมั้ง ทำให้เล่มนี้ชนะ Man Booker Prize 2011

ให้ 4 ดาวนะ

...

"How time first grounds us and then confounds us. We thought we were being mature when we were only being safe. We imagined we were being responsible but were only being cowardly. What we called realism turned out to be a way of avoiding things rather than facing them. (93)"

...




Create Date : 06 กันยายน 2556
Last Update : 6 กันยายน 2556 12:54:08 น. 0 comments
Counter : 1672 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Boyne Byron
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add Boyne Byron's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.