|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
| 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
| 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
| 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
| 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวไปตามใจฉัน นะ กาญจนบุรี
...สวัสดีปีใหม่ 2550 ทุกคนก่อนเลยนะคร๊าบ 
...ออกเดินทางเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2550 ล้อหมุนตอนตีห้า เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรแถวๆถนนราชดำเนิน การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย ถนนโล่งทั้งขาไปและขากลับ ช่วงขากลับมีติดนิดหน่อยแถวๆ จ.นครปฐม แล้วก็ไม่เจออุบัติเหตุเลย
...ครั้งนี้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเพราะที่ๆจะไปก็ไปมาหมดแล้วเมื่อสองปีก่อน ครั้งนี้ไปซ้ำเพื่อทบทวนความจำ ใช้เวลาเที่ยว 2 วัน 1คืน
มีค่าใช้จ่ายดังนี้
ค่าน้ำมัน 950 บ / ระยะทาง 560 กม. (ออกเทน 91 )
ค่าที่พัก+อาหารเช้า+ค่าเรือหางยาว รับ-ส่ง 2200 บ /2 คน / คืน (เมื่อวันที่ 1-01-2550)
ค่าชมรำมอญ 150 บ / คน / คืน
ค่าอาหาร ไม่ระบุ ( กินกันตลอดว่างั้นคำนวนยาก )
...สถานที่เที่ยวในครั้งนี้
1.สุสานดอนรัก
2.สะพานข้ามแม่น้ำแคว
3.น้ำตกไทรโยคน้อย
4.ช่องเขาขาด
5.น้ำตกไทรโยคใหญ่
6.น้ำตกไทรโยคเล็ก
7.ถ้ำละว้า
8.รำมอญ
9.อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
10.สถานีรถไฟถ้ำกระแซ
11.หลุมขุดค้นทางโบราณคดี
...ภาพรวมก่อนครับ
ไฟประดับที่ถนนราชดำเนินตอนตี 5 ครับแต่สงสัยเพิ่งตื่นภาพเบลอทุกภาพเลย
เส้นทางที่ผมเลือกใช้
จากกรุงเทพ ใช้ ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าแล้ววิ่งขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้า ขับตรงไปเลื่อยๆ จนถึงทางแยกไป อ.สามพราน จ. นครปฐม ให้ชิดขวาข้ามสะพานแล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน อ. นครชัยศรี อ.เมือง จ.นครปฐม จนถึง กม. 69 ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อขึ้นสะพาน ข้ามแยกไปทาง อ.บ้านโป่ง จ. ราชบุรี แล้วก็ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 (ถ.แสงชูโต ) ผ่านสามแยกกระจับ อ.บ้านโป่ง จ. ราชบุรี เข้าสู่ จ.กาญจนบุรี อ.ท่ามะกา ขับตรงไปเรื่อยๆจนถึง อ.เมือง ระยะทางประมาณ 150 กม. รถค่อนข้างน้อยใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ก็ถึง อ.เมืองกาญฯแล้ว (ความเร็วเฉลี่ย 90-110 กม./ชม. )
มื้อแรกกินข้าวร้านโกก๊าด เป็นร้านขายข้าวราดแกง 39 อย่าง 555เลือกไม่ถูกเลยเยอะมาก อากาศเย็นๆกินข้าวสวยร้อนๆนะสุดยอดแล้ว
สุสานดอนรัก
ไหนๆก็มาถึงเมืองแห่งอดีตจากสงครามแล้วก็ขอแวะเคารพผู้เสียชีวิตที่สุสานดอนรักเป็นที่แรก มา จ.กาญฯทีไรผมก็ต้อนจอดแวะที่นี่ทุกครั้ง บรรยากาศภานในเงียบแลดูสงบดีครับ สามารถเดินชมได้เป็นแถวๆไปนะครับ ข้อห้ามคือห้ามเดินข้ามหลุมไปมาครับ
อาคารด้านหลัง คือพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า //www.tbrconline.com ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 60 บ เด็ก 30 บ.ภายในจัดแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางสายมรณะอย่างเป็นระบบ
ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งครับ เช่น พิพิธภัณฑ์อักษะ อยู่ ถ.ไชยชุมพล อยู่ติดวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ,พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่สอง อยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ใช้เวลาเดินชมภายในค่อนข้างแยอะครับ เฉพาะบนตึกก็ 4 ชั้นแล้ว แล้วยังมีอาคารรอบนอกอีก แต่มีอาวุธโบราณหาชมยาก มากมาย ดาบสมัยโบราณ สวยๆเยอะ แล้วก็มีอาวุธที่ใช้สมัยสงครามโลกด้วย ธันบัตรที่ทหารญี่ปุ่นพิมพ์ขึ้นมาใช้เป็นกองภูเขาเลยละครับ แถมยังมีอาคารที่สามารถเดินขึ้นไปบนดาดฟ้ามองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแคว+ภูเขาในมุมมองสวยๆด้วย
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
มาครั้งนี้โชดดีได้ถ่ายรูป รถไฟกับสะพานด้วย รถไฟดูดีมากๆ เป็นรถไฟเดินทางจาก BANGKOK-BUTTERWORTH KUALA LINPUR-SINGAPORE ถ้ามีโอกาสจะลองนั่งสักครั้ง
น้ำตกไทรโยคน้อย
ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 อยู่เลย อ.ไทรโยคประมาณ 7 กม. เป็นน้ำตกอยู่ริมถนนเลย ที่เข้าถึงง่ายๆ แค่เดินขึ้นเนินนิดเดียวก็ถึงแล้ว ผมมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วแต่ต่างช่วงเวลาและฤดูกัน ด้านบนมีหัวรถจักรที่ไม่ใช้แล้วอยู่ 1 ขบวน แล้วก็มีร้านขายอาหารแล้วก็ของฝากอยู่มากมาย ผมชอบแวะซื้อไก่ย่างที่นี่ไว้เป็นเสบียง ที่เป็นไก่ตัวบางๆสีเหลืองๆไม่รู้เรียวว่าไก่อะไร( คล้ายๆที่ย่างขายแถวๆชายหาดบางแสนครับ ) แต่อร่อยมาก ร้านไก่ย่างจะอยู่ฝั่งที่ติดกับถนนจะอยู่ตรงข้ามตัวน้ำตกครับ ใส้อั่วก็อร่อยข้างในจะใส่วุ้นเส้นด้วย
ช่องเขาขาด พิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ
เปิด 9.00น.-16.00น.หยุดวันอาทิตย์ แต่วันนั้นทางพิพิธภัณฑ์ปิดช่วงปีใหม่เลยไม่ได้เข้าในอาคารแต่ไม่เป็นไรเพราะเคยเข้าไปแล้ว ตัวอาคารไม่ใหญ่มากนัก เดินแป๊บเดียวก็ทั่วแล้ว ด้านนอกตัวอาคารมีระเบียงยืนไป เป็นจุดชมวิวที่สวยอีกแห่งหนึ่ง
ทางเดินไปช่องเขาขาดเป็นบันไดปูนช่วงแรก เมื่อเดินไปถึงด้านล่างจะเป็นทางโรงด้วยหินกรวด ทางเดินไปช่องเขาขาดสามารถเดินทางเป็นวงกลมได้ จากช่วงพิพิธภัณฑ์ไป100เมตร จะมีทางแยกไปทางซ้ายกับทางขวา แล้วเดินไปบรรจบกันบริเวณช่องเขาขาด แต่ผมเลือกเดินไปทางซ้ายเพราะเดินลงอย่างเดียว บางช่วงยังมีร่องรอยของรางรถไฟ ไม้หมอนอยู่ เหล็กสลักและเมื่อถึงบริเวณช่องเขาขาดแล้ว สามารถเดินต่อไปถึงบริเวณสะพานหินตกได้ ซึ่งสร้างข้ามหุบเหวลึกชัน แต่ผมก็ยังไม่เคยเดินไปถึงสักครั้ง ข้างทางจะมีต้นไม้ใหญ่แล้วก็ป่าไผ่ขึ้นอยูเป็นจำนวนมาก สร้างความร่มรื่นได้ดีทีเดียว โชดดีอาจจะพบนกสีสวยๆบินอวดโฉมส่งเสียงร้องบินไปมาก็ได้
ภาพเปรียบเที่ยบความเขียวของป่า ด้านบนเมื่อเดือน มิ.ย.2548 ภาพล่างเดือน ม.ค.2550 ที่ผ่านมา
สูงไม่ใช่น้อยนะเนี่ยะ
เดิน เดิน เดิน
ต้นไม้ดูแห้งๆ
สุดทางช่องเขาขาด
อช.แห่งชาติน้ำตกไทรโยค
มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว , น้ำตกไทรโยคใหญ่ , น้ำตกไทรโยคเล็ก , ถ้ำแก้ว , ถ้ำค้างคาว , ถ้ำพระ , ถ้ำไทรโยค ส่วนใหญ่เป็นถ้ำที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก และไม่มีไฟฟ้าภายในถ้ำ แต่มีคนนำทางและตะเกียงให้เช่า , ค่ายไทรโยค , และล่องแพชมน้ำตก อาจจะล่องไปถึงถ้ำละว้าเลยก็ได้ครับ
วิธีดูน้ำตกไทรโยคใหญ่และไทรโยคเล็กไม่ยากครับเดินข้ามสะพานแขวน ข้ามแม่น้ำแควน้อยไปอีกฝั่ง ไปถึงกลางสะพานจะแกว่งๆพอเวียนหัว เดี๋ยวก็ได้ชมน้ำตกแล้ว
ลานกางเต้นท์
ป้านแนะนำเส้นทาง
มองเห็น น้ำตกไทรโยคใหญ่ อยู่ไกลๆ
น้ำตกไทรโยคใหญ่
น้ำตกไทรโยคเล็ก
แพพักข้างๆน้ำตกครับ
ถึงที่พักตอนบ่ายสามโมง ยังพอมีเวลาไปเดินเที่ยวที่ถ้ำละว้าได้อยู่ ไม่เหมือนครั้งที่แล้วไปถึงตอนห้าโมงเย็น เดินได้แป๊บเดียว
ครั้งนี้พักที่รีโซเทลครับมาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว การเดินทางไปที่พักไปได้ 2 ทางครับ คือทางรถ กับทางเรือ ผมเลือกไปทางเรือครับ เพราะสะดวกกว่าและเปลี่ยนบรรยากาศด้วย
เดี๋ยวตอนหน้าจะพาสำรวจที่พักครับ หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วก็เดินไปข้างหลังรีสอร์ท 500 ม. ก็ถึง ถ้ำละว้าแล้วครับ
เดินขึ้นบันไดพอให้หายใจหอบๆก็ถึงแล้ว
เป็นบันไดปูนเดินสบายครับ ข้างทางก็เต็มไปด้วยป่าไผ่
ปากทางเข้าค่อนข้างแคบ แต่ข้างในกว้างขวางมาก
ถ้ำลึกประมาณ 450 เมตร แบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องท้องพระโรง ห้องดนตรี ห้องพระปรางค์ และห้องม่าน แต่ละห้องมีหินงอก หินย้อย สวยงามแตกต่างกันไป
ที่รีสอร์ทมีการแสดงรำมอญให้ดูด้วย เสียค่าชมคนละ 150 บาท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่ แล้วที่ผมติดใจก็คือท่ารำครับ ดูแปลกตาดี เริ่มแสดงตอน 2 ทุ่มครับ
ไปถึงก็จะมีการแนะนำเครื่องดนตรีก่อน อธิบายซะยาวแต่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ผมเองภาษาไม่แข็งแรงด้วย ก็เลยไม่ได้ความรู้อะไรเลย
ลักษณะท่ารำจะเหมือนหักท่อนแขน ดูรูปประกอบละกันครับ
ทริปกาญจนบุรียังไม่จบนะครับเดี๋ยวตอนหน้าพาชมรีสอร์ท แล้วต่อด้วย เส้นทางรถไฟสายมรณะครับ และอุทยานปราสาทเมืองสิงห์ครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
| Create Date : 08 มกราคม 2550 |
| Last Update : 13 มกราคม 2550 14:47:26 น. |
|
16 comments
|
| Counter : 2094 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: หนุอุ๋ม (tenno_jung  ) วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:21:12:36 น. |
|
|
|
| โดย: ตู๋ค่า (FaRaWaYGiRL) IP: 125.25.11.160 วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:20:33:08 น. |
|
|
|
| โดย: little-joe วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:12:48:05 น. |
|
|
|
| โดย: little-joe วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:13:50:55 น. |
|
|
|
| โดย: grippini วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:1:47:21 น. |
|
|
|
| โดย: Snoopy in BKK IP: 203.156.89.161 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:12:59:44 น. |
|
|
|
| โดย: ไก่เอง (rakakarn ) วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:13:32:10 น. |
|
|
|
| โดย: i_nookae วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:13:36:03 น. |
|
|
|
| โดย: น้องหอมแดง วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:17:03:21 น. |
|
|
|
| โดย: ก่าแป๊ง วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:18:52:31 น. |
|
|
|
| โดย: ก่าแป๊ง วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:20:52:06 น. |
|
|
|
| โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:23:48:14 น. |
|
|
|
| โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:21:15:08 น. |
|
|
|
| โดย: man@ (manatto ) วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:22:31:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ไปหลายที่จังค่ะ อิจฉา
..ภาพสวยจังเลย ดูแล้วคิดถึงตอนฝึกงานที่เมืองกาญฯจัง..ว่างเป็นเที่ยว 5555
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
อ้อ .... ขอบคุณที่นำเที่ยววันนี้นะคะ -- สวยจังค่ะ คิดถึงเมืองกาญจน์เลยอ่า ไม่ได้แวะไปนานมาก ๆ คงต้องหาโอกาสไปมั่งซะแล้ว