BuoN-GiornO
Group Blog
 
 
กันยายน 2549
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 กันยายน 2549
 
All Blogs
 

ก่อนจะมาถึงแวนด้า(ขี้จุ๊เบ่เบ๋ภาคต่อ)

ก่อนที่ผมจะมาเลี้ยงกล้วยไม้(ขอเล่าย้อนหลังถึงอดีตนิดนึ่งนะครับ) สมัยก่อนผมชอบดำน้ำละครับชอบทะเลเป็นชีวิตจิตใจเลยละครับ....เรื่องกล้วยไม้เอาทดไว้ในใจแปปนึ่งนะครับเดี๋ยวมาเล่าต่อ คราวนี้ลองมาดูเรื่องที่ผมค่อนข้างจะถนัดอีกเรื่องนึ่งก่อน(ทนๆๆอ่านกันไปก่อนนะคับ)


...โลกใต้ทะเลเป็นแหล่งรวมความรู้อีกแห่งหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจภายใต้พื้นน้ำสีครามมีโลกอีกแห่งหนึ่งที่น้อยคนนัก จะได้สัมผัส
ทั้งความหลากหลายทางชีวภาพ และรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่ครบเกือบทุกประเภท แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการกว่า25ล้านปี การดำดิ่งลงสู่ใต้พื้นทะเลเสมือนเข้าไปเยือนยังโลกใหม่


ถ้าคุณเป็นคนนึ่งที่เคยเก็บกระเป๋าสัมภาระพร้อมอุปกรณ์กันตายใต้น้ำ.. เพียงแค่บรรยากาศระหว่างการเดินทางก่อนไปถึงจุดดำน้ำ(ถ้ามะเมาเรือซะก่อนนะ)คุณก้จะได้สัมผัสกับพื้นทะเลสีครามตัดกับท้องฟ้าที่สดใส(บรรยากาศสุดยอดจริงๆเลย....แต่อย่าลืมครีมกันยูวีเด็ดขาด)หลังจากถึงจุดดำน้ำก็...โดดเลยละกัน


ผมขึ้นๆลงๆใต้น้ำและบนบกอยู่หลายปี สิ่งหนึ่งนอกจากฝูงปลาที่ทำให้นักดำน้ำหลงใหลแล้ว ปะการัง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆคนหลงใหลกับความงามของมัน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น...
ปะการัง หลายๆคนที่เคยได้เห็นแต่ไม่รู้จัก อาจจะคิดว่ามันเป็นพืชเนื่องจากลักษณะทางกายภาพที่มีรูปร่างและโครงสร้างคล้ายดอกไม้และต้นไม้แต่จริงๆแล้วปะการังเป็นสัตว์ครับ ปะการังจัดเป็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรสัตว์(Phylum Coelenterata อ่านว่า ไฟลัม ซีเลนเทอราต้า)
ไฟลัม นี้มี3 คลาสได้แก่
1 Class Scyphozoa(พวกแมงกระพรุนนั้นเอง)
2 Class Hydrozoa (พวกไฮดรอยด์)
3 Class Anthozoa (พวกปะการังนั้นเอง)
ยังมี sub class อีกละครับแต่จะรู้ไปทำไมละเนี้ย...
ผมก็เริ่มจะมึนๆๆเอาเป็นว่าผมทั้งศึกษาค้นคว้า ทั้งออกภาคสนาม จนสามารถ เพาะเลี้ยงปะการังได้หลายชนิดในระบบปิด.....


เวลาร่วม10กว่าปี สุดท้ายก็ต้องติดปัญหา ของกฎหมาย
พรบ คุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชหายาก ปะการัง ติดอันดับ1ของไซเตส ถ้าเพื่อนๆได้ดูข่าวกันหลายๆครั้งที่มีการเข้าจับกุมที่สวนจัตุจัตร ไม่ว่าจะกล้วยไม้ป่า(ที่หลายๆคนชอบ) สัตว์ป่า นกป่า ร่วมไปถึงปะการังด้วย....นั้นแหละครับผมเลยหันหลังให้กับวงการโดยสิ้นเชิง(จิงๆกัวโดนจับงะ)

ขึ้นบกกันดีกว่านอกเรื่องซะนาน..คราย..ที่ยังอยู่ที่ทะเลกลับมาได้แล้วนะครับกลับมาๆ คราวนี้หยิบเอากล้วยไม้ที่ผมให้ทดไว้ในใจออกมาต่อกันครับ
ผมเริ่มเข้าสู่วัฏจักรใหม่ๆวงการใหม่ๆๆ(แต่ยังคงพรบ คุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเดิมๆ) เพราะเริ่มต้นที่กล้วยไม้ดิบ(เห็นคนขายเขาเรียกแบบนั้น คือกล้วยไม้ป่านั้นเอง)อย่างที่เล่าไปเมื่อตอนต้น(ใครจำมะได้กับไปอ่านใหม่นะครับ)
เริ่มจาก เขาแกะ ช้าง เอื้องโน้นเอื้องนี้ ตามๆๆเขาไปเรื่อยๆๆและเริ่มมีการลงทุนเกิดขึ้นครับ มีการซื้อหนังสือมาอ่าน วิธีการเลี้ยงดู (ขัวบอกคับ ขัวบอก)เพื่อนๆที่เริ่มหัดเลี้ยง(ร่วมทั้งผม) ไม่ว่าอยากจะเลี้ยงอะไรก้ตาม เราต้องมีเวลาให้กับสิ่งนั้นๆ ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ว่าสิ่งที่เราจะเลี้ยงเค้าชอบอะไร แสงแค่ไหน น้ำน้อยน้ำมาก (หรือแห้งเล็กชิ้นเปื่อยมะเกี่ยวๆ)ชอบชื้นแค่ไหน ชอบกินอะไรแบบเนี้ยละครับ อาจจะถามจากผู้ที่มีประสพการณ์ที่เคยเลี้ยงมาก่อนหรือหาหนังสือมาอ่านก็จะดียิ่งขึ้น อย่าทำอย่างผม บางชนิดเราไม่รู้ว่ามันเลี้ยงไม่ได้ ก็ซื้อเข้ามาเยอะแยะไปหมด...(ก่อนซื้อควรถามข้อมูลเบื้องต้นจากคนขายก่อนก็จะดี) สุดท้ายก็ไปหมดจริงๆๆครับ..พอเลี้ยงไม่ได้ เราจะเริ่มเบื่อครับ(เพราะเลี้ยงเท่าไรมันก็ไม่มีดอกออกมาให้เราเห็น)พอเบื่อแล้วก้จะปล่อย พอปล่อยก้จะตาย เสียดายทรัพยากรณ์ธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดและยิ่งจะลดน้อยลงทุกวัน (สำหรับท่านที่เริ่มซื้อ ขอให้เริ่มแต่น้อยๆก่อนน่าจะดีกว่า พอเห็นว่าเขาอยู่กับเราได้ดีมีสภาพที่สมบูรณ์ดีกับสภาพที่บ้านเราแล้ว ออกดอกออกผลให้เห็น ก็ตามสบายครับ อยากลงเท่าไรตามใจท่านเลย แต่ก็ต้องดูว่าตัวเองดูแลได้ทั่วถึงไหมด้วยนะครับ

จากคำบอกเล่าของพี่ที่รู้จักกัน สมัยก่อนเขาเดินjjบ่อยแถวที่เขาเรียก ลานดิน สมัยที่ยังไม่ย้ายไปฝั่งโรงปูน ใครไปเดินบ่อยจะรู้ครับ มีกล้วยไม้ป่าเยอะมั่กๆ เขาเล่าให้ฟังว่า"ผมยังเจอไม้หายากหลายตัวที่เขาเอามาขายกัน ไม่ว่าจะเป็นช้างแดงป่า รองเท้านารีดอยดุงป่า"และไม้หายากอีกหลายๆชนิด สมัยนั้นยังคงหาง่ายและไม่แพงมาก แต่เดี๋ยวนี้รู้กันแล้วว่าไม้หลายๆชนิดร่วมถึงช้างแดงป่านั้นไม่มีอีกแล้ว แม้แต่รองเท้านารีดอยตุงป่าเองเมื่อปีที่แล้วผมไปเดินดูยังพอมีอยู่บ้างแต่น้อยมากคือมีแค่ ไม่กี่ร้านแถมเค้าบอกว่าไม่ใช่ป่าในประเทศไทยเราแล้ว

จากคำบอกเล่าของคนขายเค้าบอกว่าไม้ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะในป่าบ้านเราเกือบจะไม่มีแง้วละครับและผมได้มีโอกาสเข้าไปที่เขาเก็บไม้ ใครเคยเข้าไปเห็นที่เขาเก็บไม้บ้างไหมครับ โอ้ย ...พระเจ้า เห็นแล้วเสียดายมากๆๆเลย บ้างต้นตายไปเรียบร้อยแล้วก็มี ผมยังสงสัยว่าถ้าเขาขายไม่หมดจะดองมันอยู่ในลังในที่มืดๆจนมันตายไปเองแล้วคอยเอาไปทิ้งเหรอ........ ในบางครั้งการพัฒนาก็จำเป็นต้องเสียสละ เราเอาออกมาจากป่าแล้วมาพัฒนาขยายพันธุ์เพื่อที่จะไม่ต้องไปเอาออกมาจากป่าอีก

และหลังจากที่ผมไปยุ่งอยู่กับพวกเอื้องโน้นเอื้องนั้น...และแล้วก็ถูกชักจูงให้มาเลี้ยงรองเท้านารีที่ผมเริ่มเลี้ยงต่อจากไม้ จำพวกเอื้องทั้งหลายซึ่งล้มหายตายจากไปบ้างแล้ว...
กล้วยไม้รองเท้านารี(Lady's slipper) รองเท้านารีพันธุ์พื้นเมืองของไทย มีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดก็อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละภาค
มีการจำแนกรองเท้านารี ออก2แบบ

1 การจำแนกโดยใช้ลักษณะดอกแบ่งออก2ลักษณะ
1.1 แบบรูปทรงกลม จากรูปข้างต้นเป็นรองเท้านารีฝาหอย และยังพบได้อีกหลายตัวคือ รองเท้านารีเหลืองตรัง, เหลืองปราจีน ฯลฯ
รองเท้านารีเหลืองตรัง(Paphiopedilum godefroyae var.leucochilum)พบว่ามีถิ่นอาศัยอยู่ทางตะวันตกของภาคใต้ บริเวณ จ พังงา กระบี่ ตรัง ดอกมีสีเหลืองนวลมีลายตาข่ายสีม่วงแดงกระจายอยู่ทั่วกลีบ การเจริญเติบโตแบบพืชอาศัยบนดินหรือตามซอกหิน ชอบความชื้นในอากาศสูงระบบรากไวต่อปริมาณเกลือที่สะสมในเครื่องปลูก ออกดอกช่วง เมษายน-สิงหาคม ในบางvar.จะให้ดอกช่วงตุลาคม-ธันวาคม

1.2แบบกลีบดอกแคบ เช่น รองเท้านารีคางกบ รองเท้านารีเหลืองกระบี่ รองเท้านารีเหลืองเลยฯลฯ


จากรูปข้างบนเป็นรองเท้านารีเหลืองกระบี่(Paphiopedilum exul)มีถิ่นอาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยเราอีกชนิดหนึ่ง มีการเจริญเติบโตแบบพืชอาศัยบนดินหรอตามซอกหินชอบอากาศที่มีความชื้นสูงเลี้ยงง่ายและชอบแสงค่อนข้างมากให้ดอกช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน
แสดงถึงส่วนต่างๆของดอกรองเท้านารี

ปัจจุบันรองเท้านารีพันธุ์แท้ของบ้านเราได้ถูกนำมาปรับปรุงสายพันธุ์เกิดลูกผสมหลากหลายมีรูปทรง สีสันและขนาดดอก ที่สวยงามมากยิ่งขึ้นมีการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างพันธุ์ไทยและต่างประเทศเกิดลูกผสมมากมายให้พวกเราได้นำมาเลี้ยงดูและศึกษากันอีกหลายชนิด.....




 

Create Date : 23 กันยายน 2549
3 comments
Last Update : 11 ธันวาคม 2549 15:04:00 น.
Counter : 5381 Pageviews.

 

สวยจัง ตะเอง เก่งจังเลย เค้าจะเข้ามาดูบ่อยๆน้า

 

โดย: เจ้าหญิงวุ่นวาย IP: 202.69.140.233 1 พฤศจิกายน 2549 15:10:22 น.  

 

เข้ามาเยี่ยมค่ะ ใต้ทะเลสวยดี

 

โดย: รุ้ง IP: 61.19.227.66 3 พฤศจิกายน 2549 10:28:14 น.  

 

ขอบคุณครับ

 

โดย: Boun-giorno 5 พฤศจิกายน 2549 22:23:00 น.  


Boun-giorno
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีคับยินดีที่ได้รู้จักทุกๆท่านครับ Buon Giorno อ่านว่า บอน โจรูโน่ เป็นภาษาอิตาเลียน(อ่านแล้วอย่าพึ่งเลียน) แปลว่า อรุณสวัสดิ์ Giorno แปลว่า วันหรือวันใหม่ที่สดใส.....
Friends' blogs
[Add Boun-giorno's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.