ตุลาคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 ตุลาคม 2553
 

น้ำหอม : ปัจจัยที่มีผลต่อการติดทนของน้ำหอม

บทความจาก botanicplus.com



หลายๆคนอาจจะประสบปัญหาเรื่องความติดทนนานของน้ำหอมใช่ไหมครับ
โดยเฉพาะช่วงนี้อาจจะรู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมที่ฉีดอยู่ทุกวัน
กลิ่นจางหายไปไวกว่าปกติ วันนี้ผมมีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ
ทั้งที่มีผลโดยตรง หรือโดยอ้อมกับการติดทนของน้ำหอมครับ



  • คุณภาพของหัวน้ำหอมที่ใช้ บางคนอาจงงว่าทำไมลองใช้น้ำ
    หอมตลาดนัดแล้วกลิ่นไม่ประทับใจเอาเสียเลย แถมยังไม่ติดอีกต่างหาก
    ฉีดไปไม่ถึง 1 ชม กลิ่นหายหมดแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะน้ำหอมตลาดนัด
    ส่วนใหญ่จะใช้หัวน้ำหอมเกรดต่ำ(คือใช้เกรดดีๆไม่ได้เพราะราคาสูงกว่า
    3-4เท่า จากที่ลองคำนวณดู ถ้าใช้เกรดดีๆไม่น่าขายได้ใน cc ละ 1 บาทครับ)



  • สูตรที่ใช้ บางร้านใช้อัตราส่วนระหว่าง
    หัวน้ำหอมและแอลกอออล์ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายน้อย
    เช่นใช้หัวน้ำหอม:แอลกอออล์ 1:4 1:5
    แน่นอนยิ่งเจือจางยิ่งทำให้ประสิทธิภาพลดลงอยู่แล้วครับ



  • ส่วนผสมอื่นๆ เช่น สารที่ทำให้ติดทน เช่น musk
    ถ้าใส่ในอัตราส่วนที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยให้น้ำหอมติดทนนานขึ้น
    แต่ถ้าใส่น้อยก็แทบจะไม่มีผลอะไร
    แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าใส่เยอะๆเกินขนาดจะทำให้ติดทนขึ้น
    เพราะผลที่ได้จะเท่ากับปริมาณสูงสุดที่สารติดทนตัวนั้นๆจะทำปฏิกิริยาพอดีใน
    สูตรเท่านั้นเอง(ง่ายๆคือใส่เยอะ เปลืองเปล่าๆครับ)



  • อุณภูมิ และแสง มีผลโดยตรงต่อการติดทนของน้ำหอม
    และยังมีผลต่อการผิดเพี้ยนของกลิ่นน้ำหอมด้วย จะเห็นได้ชัดว่า
    ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ทำให้น้ำหอมระเหยไว และติดไม่ทนเท่าที่ควรจะเป็น



  • สภาพแวดล้อมของผู้ใช้ เช่น
    ถ้าฉีดแล้วต้องออกไปข้างนอกตลอด ผ่านมลพิษต่างๆ มลภาวะรอบๆตัว เช่น ควันรถ
    หรือนั่งมอเตอร์ไซด์ทั้งวัน แน่นอน กลิ่นน้ำหอมจะหายไปไวมาก



  • สภาพผิวของผู้ใช้เอง หากเป็นคนผิวมัน
    และยิ่งผิวคล้ำด้วย แค่ฉีดน้ำหอมหลังอาบน้ำก็พอแล้วครับ ส่วนคนผิวแห้ง
    และเป็นคนผิวขาว จะมีปัญหาว่าผิวหนังจะดูดซับน้ำหอมไปเร็วมาก
    วิธีแก้ไขก็คือใช้ โลชั่นทาก่อน
    โดยโลชั่นที่ว่านี้ต้องเป็นแบบไม่ผสมน้ำหอม(Fragrance Free)นะครับ
    ทาโลชั่นให้ซึมเข้าผิวซักครู่ค่อยฉีดน้ำหอมตามไปครับ



  • สุขภาพผิวของผู้ใช้น้ำหอม หากผิวไม่มี คราบไคล
    หรือเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วปกคลุมอยู่ น้ำหอมจะติดดีกว่า
    วิธีง่ายๆคือหมั่นสครับผิวเพื่อขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปบ้างก็จะช่วย
    ได้เยอะเลยครับ



  • วิธีการใช้น้ำหอม
    วิธีที่ช่วยให้กลิ่นติดนานที่สุดจะเป็นการแต้ม
    แต่มีข้อเสียคือกลิ่นกระจายตัวไม่ดีครับ
    คือถ้าอยากให้กลิ่นฟุ้งต้องแต้มเป็นสิบๆจุด ครับ
    ส่วนวิธีการฉีดแบบห่างๆตัวกลิ่นจะกระจายตัวดีกว่าครับ
    แต่ก็ติดทนทานน้อยกว่าครับ ในการฉีดแล้วแต่วัตถุประสงค์ของเรานะครับ
    คือถ้าอยากได้กลิ่นคนเดียวและติดนานๆ ควรฉีดในร่มผ้า เช่นบริเวณหน้าอก
    หน้าท้อง กลิ่นจะลอยขึ้นยมาเรื่อยๆครับ นอกจากนี้กลิ่นยังอบอยู่ภายในร่มผ้า
    และติดอยู่ที่เสื้อผ้าด้วย ทำให้กลิ่นติดนานครับ
    แต่ถ้าอยากให้คนอื่นได้กลิ่นก็ฉีดด้านนอกเสื้อผ้าครับ
    แต่แนะนำว่าอย่าฉีดใกล้ๆมากเพราะมีสิทธิ์ที่เสื้อผ้าจะด่างได้ครับ
    ควรฉีดห่างตัวสัก 6 นิ้วกำลังดีครับ


สุดท้ายหากอยากให้ติดทนนานทั้งวันอาจจะต้องเติมกลิ่นบ้างในระหว่างวัน
เพื่อให้กลิ่นไม่เจือจางมาก แต่ก่อนเติมกลิ่น
ลองถามคนข้างๆก่อนจะดีที่สุดเพราะบางครั้ง
การที่เราไม่ได้กลิ่นไม่ได้หมายความว่าไม่มีกลิ่น หรือกลิ่นจาง
เนื่องจากอาจเกิดสภาวะล้าของจมูก หรือ Olfactory Fatigue ก็ได้
อาการนี้คือจมูกเราจะชินกับกลิ่นไปแล้วจนไม่รู้ว่ายังมีกลิ่นนั้นอยู่
หรืออาจได้กลิ่นนั้นๆเบาบางกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นหากเติมกลิ่นเข้าไปอีก
แทนที่จะเพิ่มสเนห์ให้ตัวเอง อาจจะเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้างได้ครับ


บทความจาก botanicplus.com
น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml | น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml (ผู้ชาย) | น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml (ผู้หญิง) | สมุนไพรผง | Essential Oil








Free TextEditor


Create Date : 24 ตุลาคม 2553
Last Update : 24 ตุลาคม 2553 19:54:27 น. 0 comments
Counter : 349 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

deimosz
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add deimosz's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com