สำหรับผู้ใช้น้ำหอมทั่วๆไปอาจนึกว่าการแพ้น้ำหอมนั้นจะต้องเกิดอาการ
ไอ จาม หรือเกิดอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว นอกจากอาการข้างต้น
อาการแพ้น้ำหอมสามารถแสดงอาการได้ดังนี้คือ

• อาการคัน บริเวณที่มีการใช้น้ำหอม เช่นตามข้อพับ
  ตามแขน ตามตัว ดังนั้นก่อนใช้ควรทดสอบดดยทาบริเวณท้องแขนก่อน อย่างต่ำ
  สองชั่วโมงเพื่อทดสอบอาการแพ้

• อาการสิว เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน
  ซึ่งเกิดจากส่วนประกอบ หรือสารเคมีในน้ำหอม ทำให้เกิดการอักเสบ
  ซึ่งอาการเหล่านี้มักพบหลังใช้น้ำหอมเกิน 1 เดือนขึ้นไป
  หากเกิดอาการลักษณะนี้ควรหยุดใช้ ปรึกษาแพทย์
  หรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

• เกิดผื่น แต่ในขั่นที่มีอาการแพ้รุนแรง
  จะพบว่ามีตุ่มใสๆ บวม มีหนอง มีน้ำเหลืองไหลออกมา
  อาการลักษณะนี้จะพบเห็นไม่บ่อยนัก เมื่อเกิดอาการควรหยุดใช้
  และรีบปรึกษาแพทย์

• อาการด่าง ดำ หลังใช้น้ำหอม
  อาการแบบนี้พบได้เนื่องจากน้ำหอมจะดูรังสี UV จนทำให้เกิดเป็นรอย ด่าง ดำ
  ลักษณะเหมือนฝ้า ในกรณีนี้ควรปรึกษาแพทยื หรือใช้ยาทาก็ได้

• เกิดอาการระคายเคืองตา หรือเยื่อบุจมูก
  แก้ไขดดยการฉีดให้ห่างจากตัวประมาณ 6 นิ้ว และฉีดให้ต่ำกว่าระดับไหล่
  หากไม่ดีขึ้นให้ใช้วิธีแต้มตามจุดชีพจรแทน
  ซึ่งจะช่วยลดอาการดังกล่าวได้และยังช่วยให้กลิ่นติดนานขึ้นด้วย

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

• โดยปกติหากเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้ทันที และอาการต่างๆควรจะหายไปภายใน 7-10 วัน หากยังคงมีอาการอยู่ควรปรึกษาแพทย์

• หากเกิดตุ่ม หรือหนองควรทำความสะอาด เช็ดให้แห้ง และใส่ยาฆ่าเชื่อเพื่อป้องกันการอักเสบ และรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ
  
  สำหรับผุ้ที่แพ้มากๆ แต่อยากใช้นำหอม อาจใช้วิธีฉีดใส่ผ้าเช็ดหน้าแล้วพกพาใส่กระเป๋าแทนก็ได้

บทความจาก botanicplus.com
น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml | น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml (ผู้ชาย) | น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml (ผู้หญิง) | สมุนไพรผง | Essential Oil