ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
14
17
18
20
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
แรงเงา ตอนที่ 8(1)

แรงเงา ตอนที่ 8(1)

ที่บ้านเจนภพ นพนภานั่งอยู่กับประพงส์ นพนภาแต่งหน้าหนาเป็นหน้ากากกลบรอยฟกช้ำ

“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์แวะมา”
“ดูคุณนพนภาสบายดีแล้วนี่ครับ”
“คนอย่างฉันต่อให้เป็นอัมพาตก็ไม่มีวันยอมล้มหมอนนอนเสื่อกับใครเขาหรอกค่ะ”
“มีอะไรให้ผมรับใช้ครับวันนี้”
“อยากเชิญมาทานข้าวกันน่ะค่ะ แล้วก็มีเรื่องอยากขอให้ช่วยเรื่องนึง”
“เรื่องอะไรหรือฮะ”
“เรื่องเดิมนั่นแหละค่ะ”
“เรื่อง “หนี้” น่ะหรือครับ”
“ค่ะ ฉันมีหนี้ก้อนใหญ่ต้องทวงคืน เอาให้มันเจ็บแสบที่สุด”
นพนภายิ้มเหี้ยมเกรียม ประพงส์มองดูยิ้มนิดๆ พลางจิบเครื่องดื่ม

แต้วพาประพงส์ออกมาจากบ้านเพื่อไปส่งที่รถ ทั้งคู่ก้าวมองมาที่เทอเรซ
“เชิญค่ะ ว้าย”
แต้วร้องอุทานเมื่อเห็นต้องในชุดกางเกงขาสั้น รองเท้าส้นสูง ยืนพิงรถประพงส์อยู่ ประพงส์มองดู
“สวัสดีค่ะ จะกลับแล้วหรือคะ”
“ครับ คุณต้อง”
“จำชื่อต้องได้ด้วยหรือคะ”
“คุณแม่พูดถึงคุณต้องบ่อยๆ ครับ”
“พูดหรือว่าด่าคะ” ประพงส์ยิ้ม ต้องยิ้มด้วย “ขอต้องติดรถไปข้างนอกด้วยคนได้ไหมคะ”
“ยินดีรับใช้ครับ คุณต้องกำลังจะไปไหนฮะนี่”
“โรงเรียนกวดวิชาค่ะ ไปกันเลยนะคะ”
ประพงส์เปิดประตูให้ต้องขึ้น แล้วตนเองก็เดินไปขึ้นที่นั่งคนขับ รถเคลื่อนออกไป แต้วยืนมองตามยายแหวงโผล่มาเคียงข้าง
“คุณต้องไปไหนน่ะ”
“ไปโรงแรม เอ๊ย โรงเรียน...ป้า”

ระหว่างอยู่ในรถต้องขยับตัวกางเกงยิ่งดูสั้นอย่างน่ากลัว ประพงส์เหลือบดูด้วยสีหน้าปกติ ต้องสบตา
“คุณแม่วางแผนการอะไรอีกคะนี่ คงไม่ใช่เรื่องส่งคนไปจัดการกับเมียน้อยอีกนะคะ”
“เรื่องของผู้ใหญ่น่าปวดหัวออกครับ อย่าไปสนใจเรื่องของผู้ใหญ่เลย”
“ต้องไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ”
“ผมรู้ครับ”
รถประพงส์มาถึงประตูรั้ว รถเจนภพสวนเข้ามา รถประพงส์เบรกให้ เจนภพมองเขม็ง ประพงส์ค้อมศีรษะให้ ต้องมองเจนภพอย่างประชดประชันเล็กน้อย รถประพงส์เคลื่อนต่อไป เจนภพหน้าเครียดขึ้นทันที

แต้วกลับเข้ามาก็มาทายาที่ข้อเท้านพนภา นพนภานั่งเหยียดเท้า ต่อนั่งดูใกล้ๆ
“ว้าย เบาๆ ซียะ ขาผู้ดีนะยะไม่ใช่ขาไพร่”
“เดี๋ยวต่อทาให้เองฮะ”
แต้วถอยไป ต่อคุกเข่าลงทายาให้อย่างแผ่วเบา
“มือเบาดีลูก นี่นังแต้ว ลูกฉันผู้ชายแท้ๆ มือยังเบากว่าแกเลย”
“ค่ะ คุณต่อน่ะผู้ชายแท้ๆ”
ต่อตวัดสายตามองแต้วอย่างระแวง แต้วทำหน้าซื่อ เจนภพหน้าเคร่งเข้ามา ต่อขยับถอยไปนั่ง
“อ้อ มาได้แล้วหรือ”
“เมื่อกี้ ยายต้องนั่งรถไปกับใคร”
“คุณประพงส์”
“ไอ้มาเฟียเจ้าของบ่อนน่ะหรือ”
“เขาทำธุรกิจกับฉัน มาฟงมาเฟียอะไร คนมันพูดกันไปเอง”
“จะคบหากับใครให้รู้จักดูมั่ง ผมเป็นข้าราชการนะ”
“แต่ฉันเป็นแม่ค้าต้องรู้จักคนทุกประเภท ไม่ใช่มาเลือกลูกท่านหลานพระยาอยู่”
“แล้วลูกเราน่ะเป็นสาวแล้วนะ ปล่อยให้ไปกับผู้ชายได้ยังไง”
“ทำไม กลัวมันโดนปล้ำเหรอ อย่างนังต้องน่ะถ้าจะกลัวก็ให้กลัวมันไปปล้ำใครเข้าดีกว่า” นพนภายิ้มเยาะมองเจนภพ “เพราะว่าเลือดพ่อมันแรง พล่านไปหมดทั้งตัวแล้ว”
“นี่ คุณ พูดให้มันดีๆ หน่อย”
ต่อยิ้มสะใจ

วีกิจนั่งอยู่ที่เทอเรซหน้าบ้านบนโต๊ะสนามมีโน้ตบุ๊ค วีกิจกำลังดูรูปที่ถ่ายกับมุนินทร์ที่ชายทะเลเมื่อวันก่อน รูปเปลี่ยนต่อเนื่องไปเรื่อยๆ วีกิจมองดูรูปด้วยดวงตาอ่อนโยน ความผูกพันดูมากมายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า วีกิจอมยิ้มเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เจนภพเดินเข้ามาเห็นรูปมุนินทร์ถ่ายกับวีกิจก็รู้สึกหึงทันที
“ไง นายกิจ เมื่อคืนไปไหน”
วีกิจรีบเก็บรูป
“ไปต่างจังหวัดฮะ”
“กับนายสิทธิ์หรือ เห็นนายนี่จัดทริปไปเกาะอะไรนี่”
“ไม่ใช่หรอกฮะ จะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะบอกว่าผมไปกับตา”
วีกิจพูดเรียบๆ เจนภพอึ้งไปนิดแล้วยิ้ม
“แกนี่ จะรอให้ทิ้งช่วงไปอีกหน่อยไม่ได้เลยนะนายกิจ”
“ตากำลังแย่นะฮะ ผู้หญิงตัวคนเดียวในกรุงเทพฯ เพิ่งมีเรื่องมีราว เพิ่งถูกออกจากงาน ตาควรมีใครสักคนคอยเป็นเพื่อน”
“ที่แกเสนอตัวไปเป็นเพื่อนปลอบใจก็ถูกต้องดีแล้วนี่ ไงปลอบกันถึงใจดีไหมล่ะ”
วีกิจไม่พอใจแต่ข่มไว้ เจนภพหึงหวงวูบขึ้นแต่ก็ฝืนทำปกติ
“ถ้าประโยคยอกย้อนของอาภพ คือคำถามว่าผมกับตามีอะไรกันหรือเปล่า คำตอบคือเปล่าฮะ เพราะผมตั้งใจมาตั้งนานแล้วว่าผมจะเป็นเพื่อนที่ดี”
“ถ้าแกจะเป็นอย่างอื่นด้วยก็คงไม่ยากนักหรอก ท่าทางเขาก็เล่นด้วยกับแกอยู่แล้วนี่”
“นั่นก็แล้วแต่อนาคตเถอะฮะ”
เจนภพยิ้มมีแววเยาะ
“ฉันหวังว่า แกคงจะรู้ว่าอะไรควรจะเล่น อะไรควรจะจริง”
“สำหรับผมคงไม่มีเรื่องเล่นๆ กับใครหรอกครับ เพราะแม่สอนผมมาให้ให้เกียรติผู้หญิงทุกคน”
เจนภพหน้าตึงลุกขึ้น วีกิจลุกตาม
“แต่แม่แกก็น่าจะสอนด้วยว่า ผู้หญิงไม่ได้มีเกียรติเท่ากันทุกคน”
“ก็คงใช่ฮะ เพราะผู้ชายเองก็ไม่ได้มีเกียรติเท่ากันทุกคนเหมือนกัน”
“นี่ อย่าเพิ่งมาโต้วาทีกับฉันเลย ถ้าแกเจอตาอีกก็เอาเอกสารอะไรที่ค้างๆ คาๆ ให้เขาเซ็นชื่อด้วย”
“ใบลาออกน่ะหรือครับ แต่ตาบอกว่าจะไม่ยื่นใบลาออกนี่ฮะ”
“ก็ช่างเขาซี มีเกียรติกันนักนี่ ฉันหมายถึงเอกสารพวกใบรับเงินเดือนอะไรพวกนั้นถามคุณแจงจิตดูก็แล้วกัน”
วีกิจยิ้มมีแววประชด
“นี่ผมดีใจนะฮะ”
“ดีใจอะไรของแก”
“ดีใจที่อาภพ ยังมีแก่ใจเป็นห่วงตาอยู่บ้างน่ะซีฮะ”

เจนภพจ้องตาวีกิจ วีกิจมองตอบ

เย็นวันต่อมาวีกิจมานั่งรอมุนินทร์อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ข้างตัวมีกระเป๋าเอกสารบนโต๊ะมีกาแฟเย็นแก้วหนึ่ง ในมือวีกิจมีอัลบั้มรูปภาพที่ถ่ายที่ชายทะเลเมื่อสุดสัปดาห์ วีกิจพลิกดูไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีร่างระหงก้าวมายืนชิดโต๊ะ วีกิจมองไล่ขึ้นไปจากรองเท้าส้นสูงปรี๊ดยี่ห้อดัง ขึ้นไปเป็นกางเกงและเสื้อสูทหรูเรียบคัตติ้งดูคมเฉียบ เสื้อตัวในสีอ่อนดีไซน์แปลกตาทำให้ดูไม่แข็งกระด้าง ดวงหน้าแต่งคมเข้มดูเนียนไปทั้งหน้า ผมดูหยักสลวยทั้งศีรษะ มุนินทร์ยิ้มนิดๆ

วีกิจลุกพรวดขึ้นต้อนรับ
“คุณตา รู้ไหมฮะ ว่าผมจำเกือบไม่ได้ เชิญครับ”
มุนินทร์นั่งลง วีกิจนั่งลงตาม
“แล้วแปลว่าดีหรือไม่ดีคะ”
“ดีฮะ ดีมากๆ เลยด้วย จะสั่งอะไรดีครับ”
“ขอกาแฟก็พอค่ะ”
วีกิจหันไปสั่งกาแฟกับพนักงานแล้วส่งแผ่นซีดีรูปให้พร้อมกับอัลบั้ม มุนินทร์พลิกดู
“นี่ฮะซีดี แล้วนี่ผมอัดมาให้”
“คุณถ่ายรูปได้ดีนะคะ ดูเป็นมือโปรเชียว”
“ได้นางแบบดีมากกว่าครับ”
“ที่เจ้าหนูชาวเกาะนั่นถ่ายก็ออกมาดีนะคะ”
มุนินทร์หันรูปวีกิจที่เอาหัวชนกับตัวเองให้วีกิจดู วีกิจยิ้มเขินนิดหน่อย
“ฮะ แต่ดร็อปกว่าผมถ่ายเองนิดนึง”
มุนินทร์ยิ้ม
“นี่ถ้าฉันจะช่วยค่าอัดรูป คุณต้องร้องว่า โธ่ ไม่ต้องหรอกครับ เรื่องแค่นี้เองใช่ไหมคะ”
“โธ่ ไม่ต้องหรอกครับ เรื่องแค่นี้เอง”
วีกิจปล่อยมุข มุนินทร์ยิ้มมากขึ้น
“เดี๋ยวคุณก็มาบ่นว่าเงินเดือนไม่พอใช้ให้ฉันฟังอีก”
“ผมก็บ่นไปอย่างงั้นเองล่ะฮะ นี่ฮะ เอกสารที่คุณต้องเซ็น
วีกิจส่งแฟ้มบางมีเอกสารข้างในให้ มุนินทร์พลิกดู
“อะไรอีกคะนี่”
“เรื่องเงินเดือนเดือนสุดท้ายของคุณตาน่ะฮะ พี่แจงจิตฝากมาให้คุณเซ็นให้เรียบร้อย”
“ก็ได้ค่ะ ให้มันจบเรื่องไป” มุนินทร์รับเอกสารมาจรดปากกาลงจะเซ็น แล้วชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะเซ็นชื่อช้าๆ เหมือนกลัวผิด “เรียบร้อยแล้วค่ะ”
วีกิจรับคืนมามองดูลายเซ็น แล้วเก็บเอกสารลงกระเป๋า
“คุณดูแปลกไปจริงๆ ฮะ เหมือนคนละคนเลย”
“มุตตาคนเดิมไม่มีอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ”
“ผมเคยสัญญาไว้ ว่าจะเป็นเพื่อนคุณตลอดไป”
“อย่าสัญญาเลยค่ะ แต่ฉันก็อยากให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”
“คุณพูดจาแปลกๆ อีกแล้ว”
มุนินทร์ดูนาฬิกาข้อมือเรือนเล็ก
“นี่เกือบถึงเวลานัดฉันแล้วค่ะ”
“คุณนัดไว้ที่ร้านนี่เหมือนกันหรือฮะ”
“ค่ะ”
“ไม่เป็นไรฮะ ผมก็จะกลับพอดี สัญญากับแม่ไว้ว่าจะกลับแต่วัน แต่นี่ก็จะมืดแล้ว” วีกิจลังเลแล้วก็ตัดสินใจถาม “คุณนัดกับใครหรือฮะ”
“กับเพื่อนฉันที่คุณเคยเจอไงคะ” วีกิจโล่งอก
“อ้อฮะ งั้นผมขอตัวกลับก่อน” วีกิจหยิบบิลขึ้นมา
“เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ อย่าบอกว่า โธ่ ไม่ต้องหรอกครับอีกนะคะ”
“ครับ ขอบคุณมาก ผมกลับก่อนนะครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“แล้วผมจะติดต่อไปนะครับ”
มุนินทร์ยิ้มมีแววลังเลบางอย่างในดวงตา วีกิจคว้ากระเป๋าเอกสารเดินออกไปสวนกับลูกศรที่แต่งตัวเปรี้ยวยิ่งกว่าเดิม วีกิจยิ้มก้มศีรษะให้ ลูกศรยิ้มหวานแล้วมานั่งกับมุนินทร์แต่ยังเหลียวหลังดูวีกิจ
“เจออีกแล้ว ยิ่งเห็นชัดๆ ก็ยิ่งน่ารักดี นี่ ทำไมเธอถึงไม่แนะนำให้ฉันรู้จักซะที เสียมารยาท”
“เขาคงเป็นเพื่อนฉันได้อีกไม่นานหรอก”
“ทำไมจ๊ะ จะอัพเกรดขึ้นมาเป็นแฟนเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก”
“แล้วทำไมจะต้องมาตัดญาติขาดมิตรกันล่ะ”
“เพราะสักวันนึง ฉันกับเขาอาจเป็นศัตรูกันน่ะซี”
ลูกศรขมวดคิ้ว มุนินทร์มองเลยไป

คืนนั้นหลังแยกจากลูกศร มุนินทร์มาเดินอยู่ที่ตลาดโต้รุ่งใกล้หอพัก มุนินทร์เดินดูตามร้านต่างๆ จนไปหยุดที่รถเข็นกาแฟโบราณ มุนินทร์ยืนดูคนขายใช้กระบวยด้ามยาวตักน้ำเทใส่ถุงกาแฟพลางยิ้มนิดๆ แล้วหันมาชนเข้ากับร่างๆ หนึ่ง
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ” ชายผู้นั้นใส่ชุดดำ สวมแว่นดำอำพรางใบหน้า มีแผลเป็นที่โหนกแก้มเด่นชัด หันมองดูมุนินทร์นิ่ง มุนินทร์จ้องตอบ “มีอะไรหรือคะ”
“ซอยนี้ ทะลุไปออกซอย 9 ได้หรือเปล่า”
“ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วันเอง” มือปืนงง “ไม่รู้หรอกค่ะ ลองถามพวกวินมอเตอร์ไซค์ก็แล้วกัน”
“นี่เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า”
มุนินทร์เลิกคิ้ว คิดว่าเป็นพวกมาทำฟอร์มเพื่อทำความรู้จัก
“คุณคงจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ”
มุนินทร์แยกเดินไป มือปืนยังมองนิ่ง พรเดินสวนมุนินทร์มาหยุดหน้าแผงหอยทอดผัดไทย
“หนูตา มาหาของกินเหรอ”
“ค่ะ ไม่อยากกินที่หอ”
“พี่ก็มาหากินเหมือนกัน” แม่ค้าหอยทอดมองหน้า พรมองตอบพูดซ้ำอธิบาย “มาหาของกิน อีร้านที่หอน่ะ อีป้าขึ้นราคาอีกแล้ว ขนาดพี่ไปช่วยรับแขกอยู่ตั้งบ่อยๆ” แม่ค้าหอยมองหน้าอีก พรอธิบายอีก “ต้อนรับแขกน่ะ เออ เมื่อกี้หนูคุยกับใคร”
“ไม่ได้คุยหรอกค่ะ เขามาถามทางน่ะ”
พรมองไป มือปืนหันหลังไปถามซื้อของ
“พวกชีกอหาเรื่องจะมาคุยกับหนูน่ะซี ต๊ายไหล่กว้าง หุ่นตัววี แหม ทีฉันน่ะไม่มาถาม”
มุนินทร์มองดูขนมผักกาด
“มีไอ้นี่ด้วย ไม่ได้กินมาตั้งนาน”
“เออ พี่กินด้วย จะได้เสริมพลังหอยซะหน่อย”
แม่ค้าสะดุ้ง มุนินทร์กับพรเข้าไปสั่งอาหาร

ที่มุมมืดมือปืนถอดแว่นออกเห็นแผลเป็นนูนเด่น มือปืนมองมุนินทร์ด้วยสายตาเย็นนิ่งเหมือนงูพิษ




Create Date : 10 ตุลาคม 2555
Last Update : 10 ตุลาคม 2555 13:05:47 น.
Counter : 812 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bosszone
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]