เล่มที่อ่านและผ่านตา : มีนาคม 2557
มีนาคมสิ้นสุดแล้ว ณ วันนี้
ก็ดีนะ ที่มีกิจกรรมร่วมสนุกอะไรแบบนี้ ทำให้เราอ่านหนังสือในกองดองของตัวยได้มากขึ้น ลดการเช่านิยายมาอ่านไปได้หลายตังค์เลย เลือกเช่าวันศุกร์ ซึ่งมีโปรโมชั่นระยะเวลาอ่านนานหน่อย ซึ่งโปรนี้ร้านเช่าจะจัดอีกหลายเดือน
มาถึงนิตยสาร ก็ยังคงติดตามซื้อประจำ แค่ 3 หัวคือ Secret / Sook และหนีกรงไปปรุงฝัน
ส่วนเล่มอื่นๆ ก็เป็นอภินันทนาการที่ได้มาจากพนักงานขายโฆษณา สำหรับ ขวัญเรือน เราซื้อปักษ์แรก เพราะปกพระเอกคนโปรดแท้ๆ
มาถึงรายการจับจ่าย แบบไร้ความยับยั้งใจโดยสิ้นเชิง ช่วยไม่ได้เลย ที่เรามันเป็นคนประเภท "ซื้อมาเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยอ่านที่หลัง" แล้วก็เป็นคนที่อ่านหนังสือได้หลากหลายแนวเกินไป ดังนั้น พอเจอหนังสือที่ "สนใจ" เป็นอันว่าเงินจะต้องปลิวออกจากระเป๋าสตางค์ตลอด
เริ่มจากต้นเดือนเลย ไปดูนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ก็ซื้อหนังสือสูจิบัตรมาพร้อมกับซีดี นี่เป็นรายการของสะสมประจำปีเลยก็ว่าได้ ...มีตั้งแต่การจัดแสดงครั้งแรกเลย
อ่ะ พอดูจบ แทนที่จะกลับบ้านเลย ไม่ค่ะ มีร้านหนังสือแนวอินดี้ ...ก็แวะซะหน่อย และด้วยความเกรงใจ ที่เดินวนๆ อยู่ในร้าน หยิบเล่มนั้นเล่มนี้มาพลิกอ่าน ก่อนออกจากร้าน เลยต้องซื้อติดมือมาด้วย 1 เล่ม ...สบายใจ
ก็น่าแปลกใจนะ ที่เราไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนี้ในร้านหนังสือใหญ่ ๆ นี่เป็น รวมบทกวี "เมื่อยอารมณ์" สไตล์ศิษย์สะดือ ที่เคยพิมพ์ในนิตยสารไปยาลใหญ่
ผ่านไป ...ต่อมาจะไปร่วมกิจกรรมที่วัดโสมนัสฯ รอรถเมล์ที่ท่าช้าง ไม่มาซะที มีแผงหนังสือตรงป้ายรถเมล์ ก็เลยนั่งยองๆ เลือกหยิบดู ฆ่าเวลา คงมีเวลาดูนานไปหน่อย เลยได้จ่ายเงินซื้อหนังสือ ใส่เป้ให้หนักเล่นๆ 2 เล่ม
ขากลับก็เข้าร้านนายอินทร์ ..เช็คดูว่าเดือนนี้มีโปรโมชั่นอะไรน่าสนใจ ปรากฎว่า เป็นโปรราคาพิเศษ ที่ดันมีหนังสือที่เราอยากได้ (อยากอ่าน) อยู่มุมนี้ด้วย จัดไป 1 เล่ม ราคาเต็ม 199 เหลือ 89 บาท ....
บอกด้วยความภาคภูมิใจเลยว่า หนังสือที่ปรับจากบทโทรทัศน์ของ Thai PBS หลายเล่ม เรารอซื้อเมื่อย้ายมาอยู่ในมุมโปรโมชั่นนี้แหละ
ถัดมาอีก ไปร่วมกิจกรรมบรรยายด้าน Online Marketing ขากลับผ่าน Double A Book Tower แวะเข้าไปเยี่ยมชมซะหน่อย นานๆ จะผ่านมาทางนี้ซะที ที่นี่ "เงียบ เหงา" แต่ยังไม่ถึงกับ "ร้าง" จัดหนังสือขายแค่ 3 ชั้นเอง และยังคงมีมุมหนังสือราคาพิเศษ ที่ชั้น 2 เช่นเดิม เราก็วนดูบรรยายกาศ แล้วก็มาติดใจที่มุมนี้แหละ อยากซื้อหลายเล่ม แต่กลัวจะหมดตัวซะก่อน เลยเลือกติดมือจากมุม 50% กลับมาบ้านแค่เล่มเดียว ถือว่าเป็น "ที่ระลึก" ที่มาเยื่อนตึกนี้ละกัน
เอาล่ะ มาถึงปลายเดือน เข้าสู่เทศกาลละลายทรัพย์ประจำปี ครั้งแรก ซึ่งเรากันตัวเองออกห่างจากงานหนังสือมาหลายปีแล้ว เพราะรู้ตัวเองดีว่า มีเงินเท่าไหร่ก็หมด อีกอย่าง งานหนังสือคนเยอะ ต่อให้ไปเดินวันธรรมดา หลังเลิกงาน คนไม่เยอะ แต่เวลาไม่เยอะพอสำหรับการ "ค่อยๆ เลือก" คือ เราไม่เน้นซื้อหนังสืออกใหม่ไง เลยต้องใช้เวลากับบูธที่ขายหนังสือเก่า หรือมุมโปรโมชั่นของบูธต่างๆ มากหน่อย เดินหลังเลิกงาน เวลาน้อย ต้องรีบกลับบ้านอีก ...ตัดปัญหาทุกสิ้งอย่าง ...เลิกไปเดินซะเลย แล้วเราก็ใช้วิธี หาเอาตามแผงหนังสือ ร้านหนังสือต่างๆ เท่านั้นแหละ
ดังนั้น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไปเดินเล่นที่หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า ขากลับเดินทะลุธรรมศาสตร์ หน้าหอสมุดปรีดีฯ มีแผงหนังสือมาตั้งขาย 3 ร้าน ก็ไม่รู้ว่าตั้งประจำรึป่าวนะ แต่ไหนๆ ก็ผ่านแล้ว เราก็แวะ ....ร้านแรกขายหนังสือเก่า ปะทะสายตาก่อนเลย เป็นหนังสือฝรั่งปกแข็ง ....เนื้อหาน่าจะอ่านไม่อยาก ...ซื้อเก็บมาก่อน
ถัดมา ช่วงกลางๆ โต๊ะ เป็นมุมเล่มละ 40 บาท ซื้อ 3 เล่มคิด 100 บาท ลองเลือกดูก่อนว่า จะได้กี่เล่ม ....ค่อยๆ ไล่ไปตามสันปก หยิบชื่อที่สนใจขึ้นมาพลิกดูสภาพ ลองอ่านเนื้อหานิดหน่อย ...โอ๊ะ โอ ...ดันเลือกได้ 3 เล่มอีก
ถัดมาอีกหน่อย มุมนี้คนขายบอกว่า ลดจากราคาปก 50% แต่มีหนังสือเก่า (แบบเก่ามาก) ปนอยู่ด้วย เราก็หยิบขึ้นมาถามราคาก่อน พอรับได้ ก็เลยตัดสินใจซื้อ "จดหมายเหตุการเดินทางฯ"
ส่วนเล่มขวานั้น ตอนที่หยิบขึ้นมา เรานึกได้แต่ว่า ในหนังสือชุด "สายน้ำและความทรงจำ" ที่มีทั้งหมด 5 เล่มนี้ ...เราขาดอยู่ 1 เล่ม ไม่ค่อยมั่นใจว่าเป็น "เล่มแรก" หรือไม่ แต่ไม่เป็นไร ...ซื้อมาก่อน ซ้ำก็ค่อยว่ากัน คนขายเห็นเราซื้อหลายเล่มแล้ว เลยรวมราคาแล้วลดให้ 6 เล่มนี้ จ่ายไปแค่ 280 บาท กลับถึงบ้าน รีบไปเช็คบนชั้นหนังสือก่อนเลย ปรากฏว่า ....เล่มนี้คือ เล่มที่รออยู่จริงๆ ....
ร้านถัดมา ลดไม่มากพอ (สำหรับเรา) และไม่มีหนังสือที่สนใจ ข้ามไปร้านสุดท้าย คือ หนังสือจากร้านนายอินทร์ แต่เมื่อขายนอกพื้นที่ ก็ลดเพิ่มอีก เราก็เลยซื้อหนังสือที่อยากอ่านอยู่แล้ว ในราคาลด 15% สำหรับเล่มซ้าย
ยังไม่พอ ก่อนจะไปขึ้นรถ ก็แวะเข้าร้านนายอินทร์อีกที ....คราวนี้ซื้อนิยายแปลที่หยิบๆ จับๆ หลายครั้งมาด้วย กลับมาถึงบ้าน ได้อ่านคำนำครบถ้วนถึงรู้ว่า เล่มนี้เป็นเล่มสุดท้ายแล้ว กลายเป็นว่าเล่ม 1 กับเล่ม 2 นั้น เราหยิบๆ จับๆ แต่ยังไม่เคยซื้อมาเลย เห็นที่ต้องไปซื้อหาทางออนไลน์อีกแล้ว ....เบื่อตัวเองจริงๆ
ในวันเดียวกัน ช่วงเย็น ออกไป Big C ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อหนังสือนะ แต่ผ่านบูธไพลิน ก็เลยแวะ เพราะร้านนี้มีนิยายราคาเล่มละ 59 บาท ราคาไม่แพงเกินไปสำหรับการลงทุนทดลองอ่านนามปากกาที่ไม่คุ้นเคย เลยจัดการสอยกลับมาอีก 3 เรื่อง
กลายเป็นว่า ในวันเดียวเราช้อปหนังสือไปแล้ว 11 เล่ม ไม่แพ้เวลาไปเดินช้อปในงานหนังสือเลยนะเนี่ย
ยัง..ยังไม่หมด ลืมร้านประจำ 70% ไปได้ไง มีหนังสือเข้าใหม่ทีไร คนขายก็เรียกแวะก่อนกลับบ้านทุกที มันก็ต้องมีบ้าง ที่บ้างวันเรา "เสียเงิน"
อีกร้านที่จะได้แวะก็ต้องกลับบ้านเร็ว คือ แผงหนังสือเก่าในซอยบ้านเรานั่นแหละ ร้านนี้ มีนิตยสารและหนังสือที่คนขายไปรับซื้อมาตามบ้าน แล้วคัดเลือกสภาพดีๆ หน่อยมาขาย ทั้งเรา ทั้งพ่อ เป็นลูกค้าร้านนี้ทั้งคู่เลย เพราะเขาขายหนังสือ ถูกมากๆ ไม่ใช่แนวขายหนังสือเก่าแบบนักสะสมอ่ะนะ ....เลือกให้ดีก็ได้หนังสือน่าในราคาถูกๆ อย่างเช่น 3 เล่มที่เราได้มาเดือนนี้ จ่ายไป 50 บาทเองนะ
สุดท้าย ที่จ่ายเงินไป และจ่ายเกินราคาหนังสือไปด้วยความเต็มใจคือ หนังสือปกแข็ง พิมพ์แบบโบราณ ของสำนักพิมพ์ผืเสื้อ เรื่องของเรื่องคือ ตอนเจ้าของสำนักประกาศจองนั้น เราก็ว่าจะซื้อทันที่ แต่แล้วก็ลืมไป เพราะมี feed อื่นๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ หน้า Facebook มาเห็นอีกครั้ง ก็เป็นว่าราคาขยับขึ้นมาเป็น 999 บาทแล้ว
สำหรับเราแล้ว หนังสือเล่มนี้ "คุ้มค่า" และ "ควรค่า" ต่อมาครอบครอง ไม่ว่าจะด้วยเนื้อหา หรือรูปแบบการพิมพ์ ...เราไม่เสียดายเงินเลยจริงๆ
สุดท้ายสำหรับบันทึกประจำเดือน คือ หนังสือที่ได้รับมาฟรี จากการตอบแบบสอบถามให้แก่ "สถาบันไทยคดีศึกษา"
ตอนรับได้แบบสอบถามทางอีเมล์ บอกให้ระบุชื่อหนังสือที่ระลึกที่ต้องการ 1 เล่ม แต่พอพัสดุมาส่งที่บ้าน เปิดออกมา กลายเป็น 3 เล่ม ....ขอบคุณจากใจจริงเลยค่ะ ...
และจากวันนี้ไป ก็ตั้งตารอหนังสือที่สั่งซื้อออนไลน์อีก 2 รายการ ซึ่งคงต้องยกยอดไปบันทึกในเดือนถัดไป
ปล. update ตาราง Reading Bingo Challenge >> คลิก
Create Date : 31 มีนาคม 2557 |
|
7 comments |
Last Update : 31 มีนาคม 2557 21:49:59 น. |
Counter : 2271 Pageviews. |
|
|
|