มกราคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 มกราคม 2559
 

ที่เธอถาม >> ถนนสายนี้มีตะพาบ ก.ม.147

" แล้วพี่จะกลับมาไหม ?" 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคน 2557 เราจรดปากกาเขียนใบลาออก 
ฝ่าย HR ซักถามถึงสาเหตุ ว่ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงานคนใด 
หรือมีปัญหาคับข้องใจกับผู้จัดการแผนกคนใหม่ 
หรืองานหนัก หรือเหนื่อยหน่ายในเรื่องไหน 
ซึ่งเราก็บอกไปแล้วว่า ไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่ว่าเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านาย 
ว่ากันตามจริง  ใจเรามันคิดแย้งกับนโยบายการบริหารของเจ้าของซะมากกว่า 
แล้วเราก็ยืนยันที่จะ "ไป เมื่อสิ้นปี"

ต้นธันวาคม 2557 ฝ่าย HR ถามย้ำอีกครั้งหนึ่ง 
เราก็ยืนยันที่คำตอบเดิม ...
และเดินจากมาเมื่อสิ้นสุดการทำงานวันสุดท้ายในเดือนธันวาคม 

ในช่วงปี 2558 เรากลับมาสู่การทำงานประจำอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 
ในขณะเดียวกัน ก็ยังได้รับการติดต่อเรื่องการงานจากน้องๆ ในแผนก
ได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของที่ทำงานจากภายนอกตลอดเวลา
ได้คุย ได้ฟัง และได้เมาท์มอย กับเพื่อนร่วมงานเดิม 
ทั้งนัดเจอกัน ทั้งไลน์คุยกัน ทั้งติดตามสเตตัสผ่านเฟซบุ๊ค

เพราะความผูกพันกับคนและสถานที่
ทำให้เราเหมือนจะวนเวียนอยู่ในที่เดิม 

สำหรับที่ทำงานใหม่ บริษัทเล็กกว่า สวัสดิการก็น้อย 
เงินเดือนก็น้อยลง เพื่อนร่วมงานก็น้อยลง 
เนื่องจากโครงการก่อสร้างยังไม่เรียบร้อย อยู่ระหว่างเร่งการขาย
ทำให้เรายังไม่ได้ทำงานในด้านที่ถนัดอย่างเต็มที่ 
แต่อยู่ในส่วนช่วยเหลือทุกสิ่งอย่าง รวมทั้งนำความรู้เดิม
มาตระเตรียมไว้ หวังจะได้พร้อมใช้ เมื่อโครงการเปิดเต็มตัว 

ที่พบเห็นจากบริษัทนี้ ก็ยังมีเรื่องการแบ่งฝ่าย เช่นกัน 
และที่รู้สึกว่า น่าจะเป็นปัญหาต่อไป ก็คือ เจ้านายใจดีเกินไป
แล้วก็ยัง ใช้เงินแบบไม่แยกแยะ ทั้งเงินบริษัท ทั้งเงินส่วนตัว ปนกันมั่วไป
พนักงานที่ทำงานอยู่ ก็ไม่ได้รูสึก รู้จริงในสายงานที่ตัวรับผิดชอบ 
จึงไม่สามารถแนะนำอะไรที่ถูก ที่ควรแก่เจ้านายได้ 

กลางเดือนมกราคม 2559 

น้องฝ่าย HR เคาะเรียกถามเบอร์โทรศัพท์ผ่านเฟซบุ๊ค แมสเซนเจอร์ 
วันถัดมา น้องในทีมงานเดิม โทรมานัดกินข้าว 
เราก็ตะหงิดในใจแล้วว่า มันต้องมีอะไรซักอย่างแน่ๆ 
เพราะข่าวคราวที่รับรู้มา คือ หลังจากที่เราออกมาแล้ว 
แผนกนั้นเปลี่ยนคนทำงานเป็นว่าเล่น ..เปลี่ยนกระทั่งผู้จัดการ 
แล้วก็ไม่เห็นมีงานออกสู่สาธารณชนมากนัก 

พอไปกินข้าวกัน ...น้องไม่พูดอะไร ถามแค่ว่า พี่จะกลับมาทำงานกับหนูมั๊ย? 
แล้วก็ไม่มีข้อมูลซัพพอร์ตอะไร ...ซึ่งก็ถูกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่น้องจะเป็นคนพูด 

ถัดมาอีกวันฝ่าย HR จึงโทรมาคุย ...ขอเชิญไปพบปะและลองพูดคุยกับผู้จัดการคนใหม่ 
ทาบทาม ถามไถ่ เรื่องเงินเดือน และเล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงบางเรื่องให้ทราบไว้ 
เพราะอยากให้เรากลับไปทำงาน ในตำแหน่งเดิม แต่รับเงินดือนสูงขึ้นกว่าเดิม 

เอาล่ะ ...เราก็อยากรู้อยากเห็นอ่ะนะ   เลยรับนัด ไปฟังข้อเสนอซะหน่อย 

พอเจอหนัากัน น้องก็ถามอีกว่า "พี่จะกลับมาไหม?" 

ตอนนี้ เราได้คุยกับคนที่จะเป็นหัวหน้างาน (ถ้าเราตอบรับกลับมาทำงาน) 
ได้ฟังการหว่านล้อม ชักชวน แกมขอร้องจากฝ่าย HR และน้องในทีม

แต่ว่า ...เรายังไม่คำตอบใดๆ ให้  
ขอเวลาให้ได้คุยกับที่ทำงานปัจจุบันซะก่อน 
เรามีสัญญาใจต่อกัน เราชอบอัธยาศัยและวิสัยทัศน์ของเจ้านายคนนี้ 
ติดแค่เรื่องเดียวคือการบริหารเงินของเขานั่นแหละ  
ที่ทำให้เรารู้สึก "ไม่มั่นคง"  

ส่วนทางที่ทำงานเดิม ก็ติดอยู่ตรงที่ว่า 
เรารู้สไตล์ของเจ้าของแล้ว เชือว่าตัวเองวิเคราะห์ได้ถูกซะด้วย 
แล้วการจัดการคนที่ไม่ต้องการของเขา ...ก็ออกแนวฉับพลันทันที 
การกลับมาร่วมงานอีกครั้ง โดยมีความคาดหวังว่า เราจะทำได้นั้น 
มันทำให้รู้สึก "หนักที่บ่า"  ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม 
แล้วยังเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้วยกันมาแต่แรกเริ่ม ...จะคิด จะมอง อย่างไร
พวกเด็กใหม่ๆ ไม่ห่วงหรอก เราเชื่อว่าเราปรับตัวเข้ากันได้ 

คำถามที่เธอถาม ...เราจึงยังไม่มีคำตอบ 
จนถึงตอนนี้ เราก็ยังตอบไม่ได้ 

กลับ หรือ ไม่กลับ 

ขอเวลาให้ได้คุยกับเจ้านายทางนี้ก่อนนะ ...จะชั่งน้ำหนัก 
มีคนแนะนำว่า ... นี่คือเวลา อัพค่าตัว 
แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันอยู่ที่ "ใจ" 
จะแบกรับความคาดหวังจากที่ไหน ก็ต้องตัดสินใจให้เหมาะ 

พอมาถึงตอนนี้ เราคิดขึ้นมาได้ว่า 

ชีวิต ...ไม่มีทางตัน 
ชีวิต ...มีทางแยก ให้เลือก 
พิจารณาให้ดี ก่อนเลือก 
หากเลือกผิด ก็แค่กลับตัวใหม่ 
เท่านั้นเอง 

-------------------------------------------------------------------------


ไม่ได้ร่วมเขียนงานตะพาบมานานมากแล้ว 
รอบนี้โจทย์ มาได้ตรงใจ กับเรื่องที่อยากบันทึกไว้ 

"ที่เธอถาม" ...ตอนนี้ ยังไม่มีคำตอบให้หรอกนะ 
หรือว่า มีแล้วในใจ ...แต่รอการเปรียบเทียบ 
เราก็บอกไม่ได้ ...รู้แต่ว่า ยังไม่ถึงกำหนดนัดหมาย 
ก็ยังไม่ตอบ ..นะ 

เพื่อนคนไหน ...มีคำแนะนำ ..วานช่วยตอบด้วยนะ





Create Date : 24 มกราคม 2559
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2559 20:28:37 น. 16 comments
Counter : 1467 Pageviews.  
 
 
 
 
ผมนี่กลับแล้วกลับอีก รู้สึกจะไปไม่ถึงไหนซักทีนะฮะ เอิ้กๆ

แวะมาเก็บลิ้งค์ทันทีครับ
 
 

โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 24 มกราคม 2559 เวลา:12:59:15 น.  

 
 
 
มันต้องดูเงื่อนไขที่เค้าให้มานะ เอาเข้าจริงๆ ในการทำงาน ผมไม่รู้สึกเหนื่อยกับงานต่อให้มันเยอะแค่ไหนก็ตาม แต่ที่เหนื่อยก็เหนื่อยกับคนนี่แหละ
 
 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 24 มกราคม 2559 เวลา:16:11:52 น.  

 
 
 
อืม...
ที่ทำงานมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันค่ะ
หวั่นใจ
จิตตก
แต่ก็ยังรู้สึกว่าต้องสู้กันต่อไป
รักในสิ่งที่บริษัทผลิตมาก
 
 

โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 24 มกราคม 2559 เวลา:19:23:49 น.  

 
 
 
อ่านแล้วรู้สึกว่าการทำงานไม่ว่าสายไหนก็ยากทุกอย่างเลย
แต่ละคนก็คนละอย่างนะคะ
เดี๋ยวก็มีทางออกค่า

คุณนัทธ์หายไปนานเลยจากตะพาบ
นุ่นมาเริ่มเขียนทีหลังก็เมื่อหลัก กม. 73 แล้วค่า

 
 

โดย: lovereason วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:1:34:46 น.  

 
 
 
เป็นคำถามที่ตอบยากมากๆเลยนะคะ
ถ้าเป็นหญิงจะเลือกทางที่ไปแล้วสบายใจที่สุดค่ะ
สู้ๆนะคะ
 
 

โดย: ugly princess วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:11:17:52 น.  

 
 
 


รักษาสุขภาพกันด้วยนะค่ะ..เป็นห่วงค่ะ


 
 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:14:27:58 น.  

 
 
 
ตัดสินใจลำบาก...มากนะครับ

เกี่ยวกับนโยบายบริหาร ของบริษัท..เดิม คนที่แก้ไข
ได้คงจะตัวผู้บริหาร..

เจ้านายใหม่ ใช้เงิน ปนกัน..นี่ซิ ลำบากกว่าครับ
 
 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:15:24:23 น.  

 
 
 
ตัดสินใจยากนะคะ
อนาคตบางทีเดาไม่ได้ คิดว่าดีเอาเข้าจริงไม่ได้เหมือนที่คิดไว้ค่ะ
 
 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:19:09:22 น.  

 
 
 
มาเก็บงานตะพาบ ตอบว่าให้ดูช่วงเวลาที่ลาออกว่าพี่มีความสุขมากแค่ไหน แต่ความสุขนี้ยังอยากให้อยู่อีกไหม และจิตใจเข้มแข็งพอหรือยังที่จะกลับไปรับปัญหา และงานแบบเดิมๆ ค่ะ
 
 

โดย: sawkitty วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:19:19:27 น.  

 
 
 
มาส่งกำลังใจให้ค่ะ เป็นเรื่องที่ทำให้คิดหนักเลยนะคะ ไม่ว่าที่เธอถาม จะตอบว่ายังไง ก็ขอให้มีความสุขกับทางที่เลือกนะคะ
 
 

โดย: kae+aoe วันที่: 27 มกราคม 2559 เวลา:8:51:21 น.  

 
 
 
เรื่องของการทำงานบางทีก็มีปัญหาให้เกิดความเครียดและเบื่อหน่ายนะคะ อย่างใรก็ตาม ขอให้ได้คำและทางเลือกที่ดีนะคะ

 
 

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 27 มกราคม 2559 เวลา:22:55:12 น.  

 
 
 
สวัสดีครับ
วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมบ้านคุณนัทธ์ เพื่อมาอ่านเรื่องต่างๆที่น่าสนใจ ตอนนี้ผมเขียนอะไรไม่ค่อยออกแล้ว สมองมันตื้อไปหมด สายตาก็ไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อน
ใจหนึ่งก็อยากเขียน ใจหนึ่งก็ลังเลรีๆรอๆ น่าจะเป็นอาการของคนแก่นะ
 
 

โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 30 มกราคม 2559 เวลา:10:40:00 น.  

 
 
 
มาเป็นกำลังใจให้ครับ ผมคิดซะว่า คนอื่นเคยเจอปัญหาเยอะกว่าเรา มันก็หายเครียดช่วงนึงครับ แต่ปัญหาทุกอย่างมีทางออกแน่นอน จะเจอช้าหรือเร็วก็อีกเวลาหนึ่งครับ
 
 

โดย: ไอเอิร์ธ วันที่: 30 มกราคม 2559 เวลา:23:07:48 น.  

 
 
 
หลายคนที่ออกไปแล้วกลับที่เดิม ก็เจริญรุ่งเรืองดีครับ มักจะเป็นคนที่มีดี อยู่ไหนก็ได้แต่ถ้าอยู่ที่เดิมแล้วมีความสำคัญกว่า และมีคนสนับสนุนด้วย อันนี้พูดจากประสบการณ์ของผมที่ผ่านมาครับ แต่ละเหตุการณ์อาจไม่เหมือนกัน ค่อยๆไตร่ตรอง
 
 

โดย: Insignia_Museum วันที่: 31 มกราคม 2559 เวลา:8:50:28 น.  

 
 
 
เรื่องบางอย่างก็ช่างลำบากในการตัดสินใจนะคะ ของเราก็มีปัญหาคล้ายกับ จขบ ยังลังเลกับตัวเองอยู่เลย

ขอให้ จขบ ประสบความสำเร็จในการตัดสินใจนะคะ
 
 

โดย: ชลบุรีมามี่คลับ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:11:45:12 น.  

 
 
 
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ....
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:20:47:27 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com