Smile Trip II : ยลศิลปวัตถุที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด
ความเดิมตอนที่แล้ว
ในที่สุดชาวคณะสมายด์ทริปก็เดินตาม คุณจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุูธยา วิทยากรจำเป็นมาจนถึง พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ในยามบ่าย
ที่ห้องอำนวยการที่เราเสียค่าเข้าชม จะได้เห็นพระรูปหล่อของท่านเจ้าของวัง คือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และ หม่อมราชวงศ์พันธ์ทิพย์ บริพัตร หรือที่เรียกกันว่าย่อๆ ว่า "คุณท่าน" เราคุ้นกับชื่อ "คุณท่าน" มากกว่า เพราะสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทยที่เคยร่วมจัดงานกัน มักจะกล่าวถึงชื่อท่านบ่อยๆ เนื่องจากท่านเป็นผู้หนึ่งในการจัดตั้งสมาคม และทุกวันนี้ทางสมาคมก็ยังจัดงานทำบุญให้คุณท่านเสมอ
พอชำระค่าเข้าชมกันเรียบร้อย รับฟังประวัติโดยย่อกันเรียบร้อยแล้ว ก็พากันไปเดินชมศิลปวัตถุในอาคารนั้นก่อน นั่นคือ พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง ซึ่งเก็บรวมรวมศิลปวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ - บ้านเชียง เอาไว้มากมาย ทั้งข้าวของเครื่องใช้ และเครื่องประดับ และแน่นอน สำหรับการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เราขอชม แต่ไม่ post ภาพสิ่งจัดแสดงนะ
การเดินชมศิลปวัตถุแต่ละตู้อาจจะน่าเบื่อไปหน่อย ถ้าไม่ได้ฟังการถกเถียงและซักถามกัน ทำไมลายเขียนสีมันเป็นแบบนี้ กำไลนี้ ใหญ่เนอะ แสดงว่าคนยุคนั้น ตัวโต เครื่องประดับสำริด หนักนะ ถ้าใส่ทั้งตัวจะกี่กิโลกัน เอาล่ะ ฟังไป ชมไป ...เริ่มเพลินแล้ว ใช้เวลากันมากนักก็ไม่ดี
เดินต่อไปยัง หอเขียน กันเลยดีกว่า
หอเขียนเป็นเรื่อนไทยที่มีการเขียนลายรดน้ำ มีเรื่องพุทธประวัติ รามเกียรติ และเรื่องอื่นๆ ด้วย เป็นอาคารที่รื้อจากที่เก่ามาประกอบใหม่ที่วัง ตัวภาพเขียนจึงไม่ได้เรียงเป็นลำดับไป
เหมาะแก่การมานั่งเล่น ทบทวนเรื่องราวพระพุทธประวัติจริงๆ แล้วเวลาพินิจพิจารณาดูแต่ละภาพ ก็จะเห็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ แทรกอยู่ อย่างภาพนี้ พวกเราพยายามอ่านและถกเกียงกันว่า ตัวอักษรที่ปรากฎอยู่ คือ อะไร
ช่องหน้าต่างของหอเขียนก็เก๋ไก๋ เพราะเป็นสไตล์แบบยุโรป มีมุมโค้ง มุมเว้า
และมีด้านนึงเขียนเรื่อง ธรรมาธรรมะสงคราม
ยังมีลวดลายที่น่าสนใจอีกเยอะแยะให้กลับไปศึกษาและเรียนรู้อีกหลายๆ ครั้ง ที่อาคารข้างๆ หอเขียน มีเรื่อพระที่นั่งอยู่ลำนึ่ง
มีห้องหับเรียบร้อย นึกภาพคนสมัยก่อนสัญจรทางน้ำ นั่ง "บนเรือ" กันจริงๆ เหมือนกับนั่งอยู่ในเรือนเลยนะ ท่าทางจะเดินทางสนุกและสบาย
จากนั้นก็มาชมศิลปวัตถุกันต่อที่หมู่เรือนไทย ทั้ง 8 หลัง จัดแสดงสิ่งสะสมของท่านเจ้าของวัง แบ่งเป็นห้องต่างๆ ทั้งห้องดนตรีไทย ห้องโขนละคร ห้องเครื่องแก้ว เครื่องถ้วยชามสังคโลก และอีกมากมาย เอาเป็นว่า ถ้าอยากศึกษาศิลปวัตถุชิ้นเยี่ยม ต้องมาดูที่พิพิธภัณฑ์นี้ เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้ที่จะเริ่มสะสมของเก่าได้อย่างดีเลย
เราใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายที่เหลืออยู่นี่เกือบ 2 ชั่วโมง แต่รู้สึกเหมือนดูไม่ทั่ว อีกอะไรให้เก็บรายละเอียดอีกเยอะ แต่ก็ต้องจำใจจำลา เพราะจะได้เวลาปิดพิพิธภัณฑ์ซะแล้ว
คงต้องจัดเวลามาเดินเดี่ยวเที่ยวชมอีกสักครั้ง ถ้ามากับเพื่อนๆ บางทีจะมีเราที่สนุกสนานในสถานที่สงบเงียบเพียงคนเดียว
Create Date : 16 สิงหาคม 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 7:19:39 น. |
Counter : 2388 Pageviews. |
|
|
|