<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
28 กุมภาพันธ์ 2554
 

สยามทัศน์สัญจร "ย่านคลองสาน" - Part IV


ความเดิมในตอนที่แล้ว

ชาวคณะสยามทัศน์เกือบ 100 คนเิดินตามผู้นำเลี้ยวเข้าซอยถนนเชียงใหม่
ข้ามสะพานเล็กๆ ก็มาถึง "วัดทองธรรมชาิติ"



วัดทองธรรมชาติ เ็ป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เยื้องฝั่งลำน้ำกับวัดปทุมคงคา เดิมเป็นวัดราษฎร์ และเป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฎว่าสร้างขึ้นในสมัยใดและใครเป็นผู้สร้าง สันนิษฐานว่าอาจสร้างในสมัยอยุธยา และทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประมาณพ.ศ.2330 พระองค์เจ้าหญิงกุ (ต่อมาคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนรินทรเทวี) ซึ่งหลายคนขานพระนามว่า "เจ้าครอกวัดโพธิ์" พระขนิษฐาในรัชกาลที่ 1 พร้อมด้วยกรมหมื่นนรินทรพิทักษ์ (เจ้าขรัวเงิน) พระภัสดา ทรงมีพระศรัทธาบูรณปฏิสังขรณืและสร้างอุโบสถ วิหาร และเสนาสนะขึ้นใหม่ทั้งวัด




ในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้พระราชทานนามว่า "พระพุทธชินชาติมาศธรรมคุณ" มีขนาดหน้าตักกว้่าง 4 ศอก 4 นิ้ว มีพระอัครสาวกอยู่ด้านซ้ายและขวา ประดิษฐานบนฐานชุกชี มีการเขียนจติรกรรมฝาผนังเต็มทุกด้าน โดยเบื้องหลังพระประธานนั้น เขียนภาพไตรภูมิ ด้านตรงข้ามเขียนภาพผจญมาร ด้านข้างเป็นภาพเทพชุมชมและพุทธประวัติ รวมทั้งภาพวิุถีชีวิตของประชาชนในยุครัตนโกสินทร์ด้วย


พวกเรานั่งมองดูความงดงามของจิตรกรรมฝาผนัง และเก็บภาพ (โดยไม่ใช่แฟลต) กันเต็มอิ่ม
ภายนอกบริเวณพระอุโบสถยังมีสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆ อีกมาก เช่น
กุฎิสงฆ์ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 หอระฆัง 3 ชั้นรูปร่างคล้ายป้อมฝรั่ง
เราพยายามเก็บภาพสิ่งสำคัญๆ ตามที่วิทยากรแนะนำแล้ว แต่มันสวยพอจะ post ขึ้นมา
เอาไว้ไปถ่ายรูปแก้ตัว ด้วยตัวเองภายหลัง

จากวัดเราเดินตามหลังวิทยากรลึกไปตามถนนใกล้แม่น้ำเข้าไปทุกขณะ
จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เรียกว่า "ฮ้วยจุงโล้ง" หรือ "ท่าเรือฮ้วยจุงโล้ง" (ท่าเรือกลไฟ)



เป็นท่าเรือสินค้าขนาดใหญ่ในย่านฝั่งธนบุรี ของพระยาพิศาลผลพานิช
ต่อมาขายให้กับนายตันลิบบ้วย ต้นตระกูลหวั่งหลี
ปัจจุบันเป็นสำนักงานของตระกูลหวั่งหลี




กำลังมีการปรับปรุงพื้นที่กันขนาดใหญ่ที่เดียว
ณ พื้นที่นี้ เราได้คุณพิมพ์ประไพ พิศาลบุตร ลูกหลานเชื้อสายตระกูลหวั่งหลี่เป็นวิทยากร
เล่าเรื่องราวเมื่อครั้งที่ท่าเรือแห่งนี้ ยังทำการอยู่ มีเรือสินค้าขนาดใหญมาถ่ายสินค้าลงที่นี่
เรือนแถวที่เห็นทรุดโทรม (แต่ยังมีครอบครัวอยู่อาศัย) เป็นที่พักของพวกกุลีขนสินค้าในครั้งโน้น



รวมทั้งมีศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเรืออยู่บนชั้น 2 ของเรือนแถวนี้
หันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา



แล้วพวกเราก็เดินตามคุณพิมพ์ประไพไปยังที่ิดินติดแม่น้ำใกล้กันนั้น
เป็นที่ตั้งของ "บ้านหวั่งหลี"



บ้านหวั่งหลี เป็นบ้านประจำตระกูลหวั่งหลี ตั้งอยู่สุดถนนเชียงใหม่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ลักษณะอาคารสร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีน ประกอบด้วยอาคารสำคัญสามหลัง ตึกกลางเป็นเรือนประธาน หันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่า "ศาลเจ้าแม่หมาโจ้ว"




มีตึกแถวสองชั้น เพดานสูง หลังคาแบบจีน สร้างขนาบสองด้าน ตรงกลางระหว่างอาคารเป็นลานโล่ง ใช้ประกอบพิธีกรรมของตระกูลหวั่งหลี ในวันสำคัญตามประเพณีจีน





บ้านหวั่งหลี เดิมเป็นท่าเรือของพระยาพิศาลศุภผล (ชื่น) ต้นตระกูลพิศาลบุตร ต่อมาขายให้แก่นายตันลิบบ๊วยแห่งตระกูลหวั่งหลี ปัจจุบันบ้านหวั่งหลีได้รับการดูแลอย่างดี และได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมป์เมื่อพ.ศ.2527






ณ จุดนี้ เป็นจุดหมายสุดท้ายของทริปเดินชมย่านคลองสานของชมรมสยามทัศน์
ได้รับความรู้และข้อมูลให้ไปค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท้องถิ่นกันอีก
เพื่อที่ว่าจะได้ช่วยกันสืบทอดเรื่องราว เล่าต่อกันไป เพื่อให้คนรุ่นต่อๆ มาได้รับทราบข้อมูล
เข้าใจ และเรียนรู้ ถึง "รากเหง้า" ความเป็นมาของท้องถิ่นและชีวิตของผู้คน
ก่อนที่จะเป็นอยู่อย่างปัจจุบันนี้








 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2554
2 comments
Last Update : 15 เมษายน 2554 12:48:46 น.
Counter : 2836 Pageviews.

 
 
 
 
อุ้ย... มาได้เจิมเป็นคนแรก อิ อิ
 
 

โดย: นู๋เมี่ยง (มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:30:20 น.  

 
 
 
ตามาเที่ยวและชมภาพสวย ๆ ด้วยคนค่ะ
 
 

โดย: i'm not superman วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:17:08:41 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com