แต่ไหนแต่ไรมา... เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือที่คนเขียนเอาตัวเองมาขึ้นปก
อาจเพราะรู้สึกว่า ถ้าเราจะชอบงานชิ้นนี้ เราก็จะชอบที่ตัวหนังสือของเขามากกว่า
ไม่จำเป็นจะต้องรู้จักหน้าค่าตาเขาเลยก็ได้
ผ่านไปอีกพัก เราก็ตกหลุมรักตัวหนังสือของผู้ชายคนนี้
แต่ผ่านทางเพจ Boys Thought ก่อนจะเริ่มลองซื้อหนังสือของเขามาอ่าน
เราเริ่มซื้อหนังสือของเขาจากผลงานเล่มล่าสุดก่อน 2 เล่ม
อ่านแล้วชอบความคิดของคนคนนี้มาก
ถ้าชีวิตนี้จะมีครูดีๆ หรือมีเพื่อนเจ๋งๆ เพิ่มได้อีกสักคน
ก็อยากได้คนที่มีความคิดบวกๆ แบบนี้แหละ
รู้อยู่ว่าเล่มสร้างชื่อของคุณบอย คือ งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า เล่มนี้
แต่ไม่กล้าซื้อเลยจริงๆ ตอนแรก
เพราะรู้ว่าตัวหนังสือของเขามีอิทธิพลกับความคิดของเรามาก
ที่ไม่กล้าซื้อเลยมีสองเหตุผล
ข้อแรก กลัวเชื่อ จนรู้สึกว่าไม่ทำแล้วงานประจำ
ข้อสอง กลัวน้องๆ ทีมงานตัวเองเห็นแล้วคิดว่า พี่จะทิ้งกันไปไหน
แต่พอวันนึงอ่านเล่มอื่นของเขาจนหมด มันก็วนกลับมาเล่มแรกจนได้
ความสงสัยใคร่รู้มาเคาะประตูอยู่ยิกๆ ว่า... ไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมเล่มนี้ถึงขายดี
คนอ่านแล้วจะชอบเนื้อหาในเล่มนี้ตรงไหน
สุดท้าย ลองเปิดอ่านก่อนนิดหน่อยที่ร้าน แล้วก็ตัดสินใจซื้อ เพราะประโยคที่ว่า
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้จะชวนให้คุณลาออกจากงานประจำ...
ถ้าหากคุณยังรักที่จะทำงานประจำอยู่
ก็เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณทำงานประจำได้ดีกว่าเดิม
ตัวหนังสือของคุณบอยคมคายเหมือนที่เคยรู้จัก
เป็นประเภทประโยคสั้นๆ แต่ฮุคเจ็บถึงขั้นจุก
เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ
หรืออาจจะไม่เคยลองอ่านหนังสือจริงจังมาก่อน
เพราะเป็นบทความสั้นๆ 50 บทความ
(หลายอันเคยลงในนิตยสาร บางอันก็ลงผ่านเพจมาแล้ว)
เพราะฉะนั้นถ้าคุณเสพข้อความผ่านทางเพจมาได้
หนังสือเล่มนี้ก็เป็นขนมหวานเคี้ยวง่าย แถมยังให้ประโยชน์ด้วย
ปกติเป็นคนอ่าน คำนำ น้อยมาก
แต่คำนำเล่มนี้เรียกว่าไม่ควรพลาด
งานที่ดี ให้เงินเลี้ยงชีพเรา
แต่งานที่ดีกว่า นอกจากจะเลี้ยงชีพแล้ว
ยังต้องหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณเราได้ด้วย
ตรงกับความเชื่อและโชคของเราอย่างมาก
เพราะทุกวันนี้งานที่ทำอยู่หล่อเลี้ยงทั้งสองอย่าง
โดยเฉพาะอย่างหลัง...
แต่เนื้อหาใจความทั้ง 50 บท
ส่วนที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นข้อความในบทที่สองข้อความนี้
อย่าเข้าใจผิดว่า การเป็นเจ้าของชีวิตอิสระหมายถึงชีวิตที่ไม่ต้องทำอะไร
บางคนบอก ความฝันของเขาก็คือมีเงินเยอะๆ
จะได้กิน นอน เที่ยวทั้งวัน ไม่ต้องทำงาน
ชีวิตแบบนั้นมันมีคุณค่าตรงไหน
ผมยืนยันได้จากการพูดคุยกับเศรษฐีหลายท่านว่า
ชีวิตแบบนั้นมันน่าเบื่อและไร้ค่ามากๆ
ในความเห็นของผม
ชีวิตอิสระ คือ ชีวิตที่เราสามารถทำในสิ่งที่อยากทำ
โดยปราศจากซึ่งความกังวลต่างหาก
เคยคิดเหมือนกันว่าจะ early retire ตอนอายุเท่าไหร่
เคยถามตัวเองว่า แล้วหลังเกษียณจะทำอะไร
จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคิดไม่ออก
แต่รู้ว่าคงไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตเที่ยวเล่นแน่ๆ
เพราะเราคงหาคุณค่าของตัวเองไม่เจอ
ข้อความข้างบนชัดเจนมาก...
มันทำให้เรารู้สึกว่ายังไม่ต้องตอบตัวเองชัดนักก็ได้ว่า
ถึงตอนนั้นจะทำอะไรยังไง
แต่มันจะเป็นชีวิตที่เราสามารถทำสิ่งที่อยากทำ
โดยไร้เรื่องที่ต้องกังวล
เป็นหนังสือน้อยเล่มที่อ่านแล้ว อยากแนะนำให้คนรอบข้างอ่านด้วย
ใครที่ชีวิตดีอยู่แล้ว อ่านแล้วเชื่อว่าจะดีขึ้นได้อีก
ใครที่รู้สึกว่าสิ่งที่เจออยู่ในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องงานมันหนาหนัก
เล่มนี้อาจจะมี solution ดีๆ เป็นเหมือนครูแนะแนวให้คุณได้
250 หน้าผ่านไปแล้ว...
ปิดแล้วย้อนกลับมามองหน้าปกที่มีรูปคนเขียนอีกครั้ง
บอกตัวเองว่า... ก็ดีเหมือนกันที่มีรูปคนเขียนอยู่บนหน้าปก
เพราะวันไหนที่ได้เจอตัวเป็นๆ
เราจะได้รู้ว่า... คนนี้ไง
เจ้าของตัวหนังสือที่เราตกหลุมรักเข้าจริงๆ