|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตราตรึงใจในปารีส
กลับมาจากปารีสด้วยจิตใจอันแสนร้าวรอน (เว่อมั่กๆ) เพราะยังไม่อยากกลับมาเลย ฮืออ ยังเที่ยวไม่หมด แถมยังกินไม่คุ้มอีกตะหาก ข้อหลังนี่เจ็บใจมั่กๆ ฮึ่ม
แต่กลับมาคราวนี้ขอฟันธงนะคะว่าถ้าใครจะไปเที่ยวเมืองหลวงในยุโรป ให้เลือกปารีสนี่แล เพราะมีทุกอย่างจริงๆ ที่สำคัญ บรรยากาศมันแสนจะเป็นใจมากๆ มัน mellow แล้วก็สบายใจ ชวนให้นั่งเล่นจริงๆ เข้าใจเลยว่าทำไมชาวปาริเซียงถึงมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในคาเฟ่และมีร้านบิสโตรมากมายก่ายกองแบบนี้ สถาปัตยกรรมก็สวย อากาศดี คนมีมารยาท เคยได้ยินคนบอกเล่าว่าคนปารีสไม่ค่อยสุภาพ แต่ที่เจอมาก็ดีทุกคนเลยนะคะ คือดีแบบมีมารยาทขั้นพื้นฐาน พูดขอบคุณขอโทษกับเราตลอด เราพูดฝรั่งเศสไม่ได้ก็แปลให้ฟังอย่างใจเย็นด้วย
คราวนี้จขบ.กับพ่อพิกุลไปปารีสห้าวันค่ะ แล้วก็เป็นครั้งแรกด้วยที่ไปพักกับรุ่นพี่ที่สนิทกันในปารีส ทำให้มีเงินไปกินได้อย่างสะใจชูชก (อย่างอิชั้น) มั่กๆ ฮ่า เราไปถึงชาร์ลเดอโกลในวันหมอกครึ้ม เครื่องบินเลยดีเลย์จากเอเธนส์เกือบชั่วโมง ทำให้ผู้ร่วมทางซึ่งพิศมัยการนอนมากๆพอๆกับหมีแพนด้าถึงกับบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ก็มันบินหกโมงห้าสิบ แต่พัทดันจำเป็นหกโมงยี่สิบ ใช้เวลา 1 ชมขับรถมาสนามบินบวกกับเผื่อเวลาเช็คอินอีก 2 ชม ทำให้พ่อพิกุล/หมีแพนด้าต้องตื่นตอนตีสาม อันเป็นเวลาที่ไม่ถูกใจหมีเอาซะเลย ฮ่า
จากชาร์ลเดอโกลจะเข้าเมืองก็สะดวกมากค่ะ เพราะมีทั้งรถบัสที่เรียกว่า Roissy bus และ RER หรือรถไฟด่วนสายบี เข้าไปในใจกลางเมืองเลยค่ะ แต่เพราะคราวนี้พ่อพิกุลคะยั้นคะยอให้เอาเป่าใบใหญ่สุดไป เพราะบอกว่าเผื่อเมียซื้อเป็ดย่างหมูแดงกลับกรีซจะได้มีที่ใส่ เราก็เลยไปแท็กซี่กัน บ้านพี่ผู้มีอุปการะคุณก็แสนจะอยู่ในทำเลดีเหลือหลาย เพราะติดสถานีรถไฟใต้ดิน แถมแทบจะเกยตีนหอไอเฟลอยู่แล้ว เดินแค่ห้านาทีถึง สวรรค์โปรดเจงๆงานนี้ เอิ้ก
นี่ค่ะวิวจากห้องนอนยามค่ำคืน
มันโรมากๆๆ แต่จขบ.และพ่อพิกุลสลบทุกคืน เพราะอะไร เดี๋ยวรู้กันค่ะ
วันแรกเราก็ซื้อ Museum pass สำหรับใช้สี่วัน ราคา 45 ยูโร คุ้มนะคะถ้าคิดจะเข้าพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง เพราะได้ทั้ง Louvre, D'Orsay, Picasso, Versailles และอื่นๆอีกรวมแล้วหกสิบแห่ง แถมเข้าได้ไม่จำกัดครั้งด้วยค่ะ ซื้อได้ตาม Tourist Information Center และพิพิธภัณฑ์ค่ะ ซื้อแล้วกรอกด้านหลังเลยนะคะ มีชื่อและนามสกุลกับวันเริ่มใช้ ขอแนะนำว่าให้ใช้ตั้งแต่เช้า เพราะเขานับตามวันค่ะ ถ้าใช่บ่ายวันนั้นเหมือนเสียไปฟรีๆเลยวันนึง วันแรกพ่อพิกุลก็บอกว่าขอล้างตาด้วยการดู Museum of Modern Arts ก่อนวัดวาอารามทองอร่ามหน่อยได้ไหม เราก็เลยไปที่ Centre Georges Pompidou กันค่ะ
ภาพบนคือบันไดเลื่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ ส่วนภาพน้ำพุข้างล่างชื่อ Stravinsky fountain ได้แรงบันดาลใจมากจากบัลเล่ต์ของสตราวินสกี้ที่ชื่อ The firebird ค่ะ
งานศิลปะข้างในก็น่าสนใจมากค่ะ พัทว่าหลากหลายกว่าที่ไปดูใบบาร์เซโลน่าด้วย อันนั้นเข้าไม่ถึง ฮ่า มีงานของคนไทยด้วยนะคะ พ่อพิกุลจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าศิลปินคนนี้แกผัดผัดไทยโชว์ เอิ้ก
แต่ที่ที่สวยบาดใจจริงๆในอาคารนี้คือคาเฟ่ที่ชั้นบนสุดค่ะ เพราะวิวสุดยอดมากๆ เสียดายไม่ได้ถ่ายตัวคาเฟ่มา เกรงใจคนที่นั่งกินอยู่ แต่เก๋มากๆ เพราะเหมือนเป็นกึ่งๆชั้นลอย มีแจกันแก้วเป็นแท่งปักกุหลาบแดงดอกโตก้านยาวมากๆไว้แจกันละดอกเต็มไปหมด สวยมากๆ
จากนั้นก็แน่นอนค่ะว่าไปนอเตรอะดาม ไม่ไกลกันเลยค่ะ เดินชมเมืองไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึง แต่ถ้าใครมารถใต้ดินก็สาย 4 ลงที่ Cite หรือ Rer สาย C ลงที่ St.Michel-Notre Dame ค่ะ ถ้าเดินๆแล้วเหนื่อย จะแวะกินชากาแฟพัทว่าแถบ Marais นี่ร้านเยอะมากๆๆ ตรอกเล็กซอยน้อย มีเสน่ห์มากๆ ใครที่ชอบชา Mariage Freres ที่มีคนไทยคือคุณกิตติชาติ แสงมณีเป็นหนึ่งในเจ้าของที่ Rue du Bourg Tibourg เลขที่ 35 ก็ได้ค่ะ เข้าทาง Rue Tivoli ถนนสายใหญ่แป๊บเดียวก็ถึง
อ้อ ลืมบอกไปว่าเราซื้อตั๋วแบบ carnet 10 ใบราคา 11.50 ยูโรไว้ใช้ค่ะ ตั๋วนี่เสียบ่อยมากกก อย่าทิ้งนะคะ ไปแลกใบใหม่กับคนขายตั๋วได้ค่ะ
แล้วก็แปะรูปนอเตรอะดามเลยเน้อ
หน้าวิหารมีสะดือปารีสหรือที่เรียกว่า Point zero ค่ะ เชื่อกันว่าถ้าเหยียบแล้วอธิษฐานจะได้มาปารีสอีก จขบ.มองหาจนอ่อนใจก็ยังไม่เจอ รุ่นน้องที่รู้จักกันบอกว่าพี่ก็มองตรงที่คนเค้ามุงๆกันนั่นแหล่ะ มันไม่มีใครมุงอ่ะจ๊อด ในที่สุดต้องล้มเลิกความพยายามวันแรก ไปใหม่อีกวันถึงเจอค่ะ ตาถั่วจริงๆ (ก็มันไม่มีคนมุงจริงๆนี่ เอิ้ก) มันอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า ประตูอันกลางเลยค่ะ พอพัทกับพ่อพิกุล (ซึ่งถูกเมียบังคับให้เหยียบจะได้มาเป็นสปอนเซอร์ให้อีก ฮ่า) เหยียบเสร็จ ฝรั่งมุงมากันเพียบเลย ฮ่วย
ในโบสถ์ก็ต้องดูกระจกสีหรือ Rose window ค่ะ สวยมากๆ มีทั้งหมดสามอัน ทางเหนือจะเป็นอันที่เก่าแก่ที่สุด เพราะสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
ใครที่อยากชมวิวปารีสริมแม่น้ำแซนด์จากมุมสูงก็ขึ้นลิฟต์ข้างโบสถ์ได้นะคะ แต่คิวยาวเหลือใจเหมือนกัน พัทเลยไม่ได้ขึ้นไป (ก็บอกแล้วเราเน้นกิน!!!)
วิวจากแม่น้ำก็สวยไม่แพ้กันค่ะ ถ้าอยากได้วิวสะพาน Pont Neuf ถ่ายจากสะพาน Pont des Arts หน้า Louvre เลยนะคะ โกดักโมเม้นต์จริงๆค่ะ ฮ่า
แล้วก็วิวปารีสยามอาทิตย์อัสดงค่ะ
บล็อกหน้าว่าด้วย Louvre ค่ะ :)
Create Date : 12 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 17:15:24 น. |
|
15 comments
|
Counter : 1690 Pageviews. |
|
|
|
โดย: piccy วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:17:37:57 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:17:46:26 น. |
|
|
|
โดย: Aorora วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:20:42:49 น. |
|
|
|
โดย: YGHarding วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:2:05:11 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:3:05:10 น. |
|
|
|
โดย: grippini วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:11:14:33 น. |
|
|
|
โดย: ahiruno007 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:14:33:31 น. |
|
|
|
โดย: ทินา วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:22:09:02 น. |
|
|
|
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:11:26:48 น. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:17:35:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อิจฉาจัง...อยากไปบ้างงงงงงง